“ตั๊ก มยุรา” แชร์บทเรียนเลี้ยงลูกเป็นไข่ในหินมาตลอดอาจจะเป็นวิธีที่ผิดหลังเกิดเหตุการณ์กับลูกสาว เผย “น้ำตาล” เป็นเด็กดื้อเงียบ พร้อมแอบผิดหวังที่อีกฝ่ายไม่ฟังคำเตือน บอกยังงงๆ จากนี้ไปจะสอนใครได้เพราะตัวเองยังเอาไม่รอด
ภายหลังจากที่ “น้ำตาล ณัชชา เศวตศิลา” ลูกสาว “ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา” ออกมายอมรับว่าเคยแต่งงานแต่ตอนนี้ได้เลิกรากับสามีชาวฮ่องกง พร้อมแฉอีกฝ่ายทั้งเรื่องมีผู้หญิงใหม่ ทำร้ายร่างกาย แย่งลูก ก่อนตัดสินใจไปแจ้งความจนเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจ
โดยเรื่องดังกล่าวยังทำเอาบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปถึงผู้เป็นมารดาต่างๆ นานา กระทั่งล่าสุดทางด้านของนักแสดง-พิธีกรคนดังก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้กับทีมข่าวบันเทิงโดยบอกว่าส่วนหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นตนยอมรับว่ามาจากการเลี้ยงดูแบบ "ไข่ในหิน" ของตนนั่นเอง
“ณ วันนี้พี่ตั๊กทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่อยู่นิ่งๆ ในตอนนี้ มีคอมเมนต์เข้ามามากมายว่าไหนพี่ตั๊กบอกเลี้ยงลูกเป็นไข่ในหิน ใช่ค่ะ พี่ตั๊กเลี้ยงลูกแบบนั้น ทุกอย่างที่พี่ตั๊กทำมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่แม่เลี้ยงลูกมาอย่างดีที่สุดและพึงกระทำ พี่ตั๊กบอกจริงๆ ว่าพี่ตั๊กสอนเขาทุกอย่าง นี่มันเป็นเคสศึกษาจริงๆ ว่าทำไมสอนมาดีแล้วยังเกิดเรื่อง"
"พี่ตั๊กสอนในสิ่งที่แม่พึงจะสอนในการเลือกว่าลูกต้องดูดีๆ เขามีคนให้เลือกเยอะนะ เขาบอกว่าเขาจะเลือกเอง ตอนนี้เราก็ได้แต่อยู่นิ่งๆ ทุกเย็นพี่ตั๊กจะมานั่งคุยกับสามีว่าเราจะทำยังไงกันดี เราก็ได้แต่บอกลูกว่า น้ำตาลพอแล้วลูกอยู่นิ่งๆ เขาก็เป็นคนมั่น เขาก็บอกว่าเขาจะทำอย่างนี้แล้วเดี๋ยวเขาจะหยุดแล้ว เขาจะไม่ออกมาต่อสู้แล้ว"
"พอเจอแบบนี่เราก็มาทบทวนตัวเองนะ รู้สึกว่าการเลี้ยงลูกแบบเรามันชักจะผิด การที่คอยช่วยดูแลลูก บอกลูกระวังอย่างนั้นอย่างนี้ มันผิด มันไม่ใช่ แต่อีกใจคือจะปล่อยให้มันไปมีชีวิตเถิดเทิงเหรอ ก็อีกเรื่องนะ ด้วยความที่เขาหน้าตาดี เราก็เลยไม่กล้าปล่อยลูกมากไง แต่มันกลายเป็นไม่ดี ถ้าปล่อยมันก็เสี่ยง"
บอกยังงงๆ กับชีวิต จากนี้ไปจะไปสอนใครได้
"คือการเลี้ยงลูกนี่มันไม่มีสูตรสำเร็จจริงๆ พี่ตั๊กยอมรับว่าพี่ตั๊กผิดที่สอนเขา แต่ไม่ได้ให้เขาได้เรียนรู้จากชีวิตจริง ให้เขาได้เลือกของเขาเอง ก็ไม่เข้าใจ จนบัดนี้ก็ยังงงอยู่ แล้วต่อไปนี้เราจะไปตอบใคร ไปออกรายการ หรือมีใครมาสัมภาษณ์พี่ตั๊กจะบอกเขาว่าเราเลี้ยงลูกยังไง พี่ตั๊กไม่มีสูตรอะไร พี่ตั๊กสอนใครไม่ได้แล้ว"
"เพราะตัวพี่ตั๊กก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย เราสอนเขาทุกอย่างตามแพทเทิลทั้งหมดเลย แต่มันผิด สุดท้ายเขาไปเลือกผู้ชายที่เราคาดไม่ถึง ถามว่าเขาแย่ไหม เขาไม่ได้แย่ แต่เขาเป็นคนหัวรุนแรง ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้จะจบด้วยดี น้ำตาลคงไม่หนีออกมา เพราะผู้ชายเขาแรง"
"ถามว่าทำไมถึงไม่ดูให้ดี นั่นสิทำไมไม่ดูให้ดี พี่ตั๊กบอกเขาเสมอเวลาจะเลือกใคร มันต้องดูหลายๆอย่างเยอะมาก ยูต้องดูกระทั้งโคตรเหง้าเขาเลย อันนี้คือเรื่องนี้ พี่ตั๊กจะพูดแบบนี้กับน้ำตาลตลอด มีคนมาชอบน้องเยอะมาก ดีๆทั้งนั้น เขาไม่เอา เขาจะเอาแบบนี้ หนูจะเลือกของหนูเอง"
รับลูกสาวเป็นเด็กดื้อเงียบ
“แต่ก่อนน้ำตาลเขาเป็นเด็กไม่ค่อยพูด มันอาจจะมีแนวตรงนั้นอยู่แต่เราไม่ค่อยได้สังเกต พี่ตั๊กก็พูดตรงๆว่าพี่อาจจะศึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกมาน้อยไป พี่ตั๊กเลี้ยงตามสัญชาตญาณ ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่นะ มันต้องผสมผสานกันไป ถ้าเราเปิดหนังสืออ่านตามสูตรบ้างมันก็จะดี แต่มันก็ผ่านมาแล้ว เรากลับไปปั้นใหม่ไม่ได้แล้ว"
"น้ำตาลเขาเป็นคนดื้อเงียบ แต่ก่อนพี่ตั๊กจะบอกว่าน้ำตาลเถียงบ้างก็ได้นะ เขาก็เถียงบ้างเวลาเราบอก แต่พอไปอยู่อินเตอร์ทีนี้เถียงอย่างเดียวเลย ไม่ฟัง พี่ชายน้ำตาลเองเขาก็อ่อนโยงนะ พี่ตั๊กตอบไม่ได้จริงๆว่ามันเกิดจากอะไร สิ่งแวดล้อม เพื่อนมีส่วนสำคัญมากๆ น้ำตาลเขาอยู่กับเพื่อนมากกว่าอยู่กับเรา"
"คนมองว่าน้ำตาลเรียบร้อย ไม่ใช่เลยนะ เขาดื้อเงียบ และเขามั่นเกิน หลังๆ พี่ตั๊กกับคุณหนุ่ยก็ถอดใจแล้ว ก็แล้วแต่เขา พี่ตั๊กก็บอกเขานะว่าน้ำตาลคนนี้ไม่ใช่ แต่เขาบอกใช่ หนูชอบคนนี้แหละ พี่ก็เลยต้องปล่อย โอเคจบ แต่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะมีลูกกันขึ้นมา"
เผยลูกสาวกับหลานอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมชมอีกฝ่ายเลี้ยงลูกดีแต่แอบผิดหวังที่ไม่ฟังตนเอง
“ตอนนี้เราก็ช่วยดูแลกันอยู่ น้ำตาลกับลูกอยู่ในที่ที่โอเค เราไม่อยากให้ทุกคนมาให้ความสำคัญกับตรงนี้ ความจริงมันไม่มีใครรู้ มันเป็นเรื่องของคนสองคน พี่ตั๊กก็เป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย ก็บอกกับลูกว่าน้ำตาลต้องไม่พูดอะไรแล้วนะ นิ่ง เหมือนที่เขาว่าการนิ่งมันจะดีที่สุด หยุดทุกเรื่อง แต่น้ำตาลเขาก็มองอีกมุมนึง"
"เขาบอกว่าหนูต้องออกมาปกป้องตัวเอง หนูหยุดไม่ได้ พี่ตั๊กพูดตรงๆ นะ ถ้าเขาเชื่อเราตั้งแต่แรกมันก็จะไม่เป็นแบบนี้ แต่เด็กสมัยนี้เขาก็จะมีความคิดเป็นของตัวเอง เขาก็ตอกกลับเรามาว่าเขา25 ปีแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่คนนึงแล้ว เราก็ฟังเขานะ กลับมาคิดเราจะทำยังไงได้ พี่ก็ได้แต่มองเฉยๆ ไม่เข้าไปยุ่งอะไรมาก"
"ต้องชมน้ำตาลเรื่องนึง เขาเลี้ยงลูกเอง เขาเลี้ยงดี เขามีแม่บ้านคนนึง แต่ให้แม่บ้านคอยช่วยเก็บข้าวของ ไม่ให้มาเลี้ยงลูก เขาจะเลี้ยงของเขาเอง เขาขลุกกันอยู่สองคนแม่ลูกทั้งวัน เด็กก็อารมณ์เย็น เราบอกกับลูกว่าดูต่อไปนะลูก ในเมื่อแฟนยูเป็นคนรุนแรง ก็ต้องระวังนะ ลูกเป็นเด็กผู้ชาย"
"เขาบอกเขาไม่เชื่อ เขาเชื่อเรื่องการเลี้ยงดู เราเสียใจนะที่เขาไม่ค่อยฟังเราเท่าไหร่"
บอกอดีตลูกเขยเข้ามาป่วนตัวเองด้วย
“จริงๆ ตลอดเวลาผู้ชายมันก็เข้ามาตลอด ถ้าพี่ตั๊กเป็นคนบ้าบอ หยาบคาย ไม่มีวุฒิภาวะก็คงลุกขึ้นด่าเขาหรือยังไง แต่พี่เลือกที่จะไม่ทำ พี่ตั๊กก็ลบทิ้งไป แล้วเขาก็ไปเปลี่ยนแอคเค้าท์มาใหม่ เขาไม่ยอมเลิก แต่การคุกคามของเขาเขาไม่ได้มาด่าว่าเรานะ เขาเข้ามาทำนองอยากเจอลูก"
"เราไม่รู้นะ มันเป็นครอบครัวของเขา เขาก็ต้องตัดสินใจกันเอง แต่ถ้าเขามาในอินสตาแกรมพี่ตั๊กพี่ก็จะบล็อกมีช่วงนึงที่เขาเงียบไป แล้วนี่ก็โผล่มาอีกแล้ว แถมหนักกว่าเดิม มันก็มีสิ่งที่เราจะต้องแก้ไขคือทำอย่างไรไม่ให้เขาเข้ามาวุ่นวายตรงนั้น”
ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ลูกสาวฟังที่ห้ามไม่ให้จดทะเบียนสมรส ไม่อย่างนั้นเรื่องอาจจะวุ่นวายกว่านี้
“เขาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน นี่คือสิ่งที่พี่ตั๊กห้ามไว้ ถ้าจดทะเบียนดูแล้วจะหนักกว่านี้ ตอนที่ผู้ชายเขามาคุยกับเรา เขาคบกันเราโอเค แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่ตั๊กนึกยังไงห้ามไว้ เขาจะไปจดทะเบียรสมรสกัน พี่ก็บอกว่าเชื่อคุณแม่นิดนึง เราก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจเขาเท่าไหร่"
"แต่น้ำตาลเขาไม่ยอมอยู่กับเรา เราเลยต้องไปซื้อบ้านใหม่ให้เขา เขาบอกว่าเขาอยากมีชีวิตของเขาเอง เราก็พูดนะ ยูเลือกได้ ถ้าพ่อแม่ยูไม่มีตังค์จะทำยังไง พี่ตั๊กซื้อบ้านให้เลย แต่ก็ยังอยู่ในสายตาเรา แต่งเสร็จภายใน3-4เดือนเข้าอยู่ ไม่มีแล้วแหละที่จะมาทำใจได้ขนาดนี้ ทำให้ได้ทุกอย่าง"
"ให้เขาได้ลองไปใช้ชีวิตของของดู เขาอาจจะโตขึ้นมากกว่านี้ เขาก็มาปรึกษาเราบ้าง คิดเองบ้าง ก็ยังดี เราก็คอยวิ่งดู มีอะไรขาดเหลือก็ช่วยเขา ก็บอกเขาว่าจากนี้ไปยูต้องดูแลบ้าน มีเรื่องอะไรที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย ไม่ใช่แค่อาศัยอยู่แล้ว ยูต้องศึกษาและรับผิดชอบ..."