ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ “สไปรท์-กาย” กอดคอกันดัง เพลง “ทน” เกือบ 100 ล้านวิว ช็อกติดชาร์ตบิลบอร์ด เผยเส้นทางชีวิตแรปเปอร์ที่ไม่ก็อปใคร แต่ทำตามฟีลลิ่ง สไปรท์ขอบคุณกายไม่มองว่าตนเป็นเด็ก ยอมฟังในสิ่งที่ตนอาจรู้มากกว่า
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการไทย เมื่อเพลง “ทน” ของ 2 แรปเปอร์ “สไปรท์ ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ”หรือที่รู้จักกันในโลกโซเชียล “SPRITE”และ “กาย กล้าไม้ ไมเกิ้ล”หรือ “GUYGEEGEE” ที่ทะยานสู่บิลบอร์ดชาร์ต ติดอันดับ 89 จากบรรดาเพลงทั่วโลก เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำยอดวิว (28 มิ.ย.) 93 ล้านวิวภายใน 1 เดือน งานนี้ทั้ง สไปรท์ และ กาย รู้สึกตกใจ ดีใจ และตื่นเต้นมากๆ
สไปรท์ : “ดีใจมากๆ เลยครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเพลงไปติดชาร์ตได้ยังไง พี่ๆ ทีมงานมาเล่าให้ฟัง ผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าเพลงผมจะไปถึงบิลบอร์ด”
กาย : “ตอนแรกที่รู้ข่าวผมตกใจและตื่นเต้นมากๆ เพราะผมรู้จักบิลบอร์ดมานานแล้ว ไม่คิดว่าวันนึงเพลงที่ผมร้องจะขึ้นไปติดชาร์ตได้ และที่เซอร์ไพรส์ตัวผมคือเพลงเราไม่มีเนื้อร้องภาษาอังกฤษที่จะทำให้ชาวต่างชาติมาสนใจ เลยไม่คิดว่าจะไปไกลถึงต่างประเทศครับ เอาจริงก็ช็อกนะ เพื่อนส่งข่าวมาให้ดูผมยังคิดว่าเพื่อนปั่น เพื่อนแกล้ง ก็เลยโทร.เช็กกับทางค่าย และเข้าไปดูที่เว็บก็เป็นเรื่องจริง และเป็นเพลงไทยเพลงแรกที่ติด Top 100 ด้วย ก็แบบ..ว้าว สุดยอด ภูมิใจแฮปปี้มากครับ (หัวเราะ)”
ไม่เคยคาดคิดว่าต่างชาติจะชื่นชอบเพลงของตนและติดตามเป็นแฟนเพลง
สไปรท์ : “รู้สึกดีที่มีแฟนเพลงต่างประเทศเข้ามาฟัง และมีแฟนๆ เพิ่มมากขึ้น ผมก็ได้เข้าไปดู อ่านคอมเมนต์ ตอนแรกผมคิดว่าเพลงที่ปล่อยไปจะมีแค่คนไทยฟัง ไม่เคยคิดเลยว่าต่างชาติจะฟังเยอะขนาดนี้”
กาย : “จากที่มีข่าวออกไปว่าเพลงติดชาร์ตบิลบอร์ด ก็เหมือนเป็นการเพิ่มความสนใจ มีแฟนๆเข้ามาฟังเพลงมากขึ้น ยอดวิวก็เพิ่มขึ้นเร็วมากๆ ก็ลุ้นอยากให้ถึง 100 ล้านวิวครับ ตอนนี้ก็เพิ่มซับภาษาอังกฤษไปแล้วๆ (หัวเราะ)”
เล่าที่มีของเพลง “ทน” แค่ร้องเล่นๆ ทำเสร็จภายใน 1 คืน ทำไปตามธรรมชาติของตัวเอง ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
สไปรท์ : “จุดเริ่มต้นคือผมแค่ร้องเล่นๆ พอร้องแล้วรู้สึกว่ามันโอเค มันดีนะ ผมก็เลยโทร.ไปหาพี่กาย เพราะคิดว่าพี่เขาก็น่าจะชอบ พี่เขาก็มาเลย เราก็เขียนเนื้อร้อง ทำนอง และเริ่มอัดเลย ผมแค่รู้สึกว่าน่าจะมีคนชอบเพลงนี้ แต่ก็ไม่คิดว่ายอดวิวจะขึ้นไว ตอนนั้นก็ตกใจแล้วครับว่าทำไมพุ่งไวจัง และก็ไม่คิดด้วยครับว่าจะไปถึงชาร์ตบิลบอร์ด เกินคาดมากๆ”
กาย : “น้องโทร.มาหาผมบอกว่าสไตล์ผมน่าจะเข้ากับเพลงนี้ ผมก็ออกไปเจอน้องที่สตูฯ เลย น้องก็ร้องให้ผมฟัง ผมว้าวเลย เพลงนี้ได้ๆ น้องมีโครงเมโลดี้มาแล้ว ผมก็แต่งในส่วนของผมเพิ่ม น้องก็แต่งในส่วนของน้อง ก็เสร็จภายใน 1 คืนเลย ผมเองก็ไม่ได้คาดหวัง เพราะส่วนตัวผมเองหลายๆ เพลงที่ทำออกมาผมเคยคาดหวัง นั่งวางแผนอย่างดี ก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็เลยดาวน์ เฟล ผมเลยเลือกที่จะไม่ตั้งความหวังมาก เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่บั่นทอนกับการทำเพลงใหม่ๆ
แต่ผมว่าเพลงทนมันธรรมชาติมาก เรียลมาก เดินออกมาจากสตูฯ ก็พอใจแล้ว ไม่ได้คิดว่าเพลงจะดังหรือไม่ดัง แค่รู้สึกว่าเป็นเพลงที่ดีมากๆ เพลงนึง”
ก้าวข้ามผ่านดรามาต่างๆ ยันทำเพลงตามฟีลลิ่งตัวเอง ไม่ได้ก็อปปี้ใครมา ไม่เคยรู้ว่ามีเพลงแบบนี้มาก่อน
สไปรท์ : “หลังจากเพลงมีกระแสชีวิตส่วนตัวผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากครับ ผมยังเป็นผมคนเดิม แต่อาจจะมีคนรู้จักเยอะขึ้น ติดตามมากขึ้น ยอดไลก์ในโซเชียลเพิ่มมากขึ้น จากการที่เขาตามมาจากการฟังเพลงครับ”
กาย : “ในชีวิตจริงก็ยังไม่เปลี่ยนมากครับ แต่ถ้าในโลกโซเชียลก็เปลี่ยนไปนะ มีคนติดตามเยอะขึ้น รู้จักมากขึ้น ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบาก ตั้งแต่เพลงนี้ออกมาก็ยังไม่มีโอกาสร้องสดให้แฟนๆ ได้ฟัง หรือเล่นคอนเสิร์ตเลย แอบเสียดายนิดนึง คือผมอยากเห็นรีแอ็กของทุกคนนะว่าถ้าเจอกันจริงๆ จะเป็นยังไง (หัวเราะ)
อย่างที่มีกระแสดรามา ก็พยายามไม่เก็บมาคิดอะไรมาก หลังๆ ผมก็เลิกอ่าน เพราะบางคอมเมนต์มันก็บั่นทอนจิตใจ แต่อันไหนนำมาปรับปรุงได้ก็เอามาแก้ไข ก็ต้องปล่อยไปครับ เราไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ แต่การที่เพลงไปติดชาร์ตบิลบอร์ด ก็ถือว่าเป็นการตอบกลับคนที่เคยต่อว่าเรานะ เป็นการพิสูจน์ด้วยผลงาน”
สไปรท์ : “อันไหนที่ปรับปรุงได้ก็นำมาแก้ไข แต่มีบางคอมเมนต์ที่เข้ามาต่อว่า ผมรู้สึกว่าข้ามผ่านไปได้ ผมก็จะข้ามไป บางคนอาจมองว่าเนื้อหาบางท่อนผมก็อปปี้มา แต่จริงๆ แล้วผมไม่เคยรู้ว่ามีเพลงแบบนี้มาก่อน ผมก็ทำตามฟีลลิ่งของผม”
“สไบรท์” เผยดีใจมากได้ร่วมร้องเพลง "Trust Again" เพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่นจาก ดิสนีย์ “Raya and the Last Dragon” พร้อมเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นแรปเปอร์
สไปรท์ : “มีพี่ทีมงานติดต่อมาบอกว่าจะได้ไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากๆ เพราะผมดูการ์ตูนดิสนีย์มาตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว ครั้งนึงได้มาเป็นส่วนร่วมก็ดีใจครับ ผมร้องเพลงร่วมกิจกรรมโรงเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนที่มาชอบสายฮิปฮอปเพราะฟังเพลงของ ปู่จ๋าน ลองไมค์ ผมก็หัดร้องแรป ลองเขียนเพลง ซึ่งแรกๆ ก็ใช้ไม่ได้เลยครับ (หัวเราะ)
จากนั้นก็มีโอกาสได้ไปแข่งรายการ Show me the money Thailand ซีซั่น 2 ตอนนั้นยอมรับว่ามีท้อบ้าง เพราะผมยังเขียนเพลงไม่ค่อยเก่งด้วย บวกกับตื่นเต้นกับการทำโชว์ แต่พอได้ลองทำไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าเราชอบนะ ทำได้นะ ก็สู้จนผ่านมาได้ครับ และรู้สึกดีใจเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วมีคนร้องตามเพลงได้”
ภูมิใจดูแลครอบครัวได้แล้วในวัย 15 ปี
สไปร์ท : “ผมเริ่มดูแลครอบครัวได้แล้ว แบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ได้ประมาณนึง ตอนนี้ผมก็เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ก็พยายามแบ่งเวลาให้ลงตัว ภูมิใจในตัวเองที่ทำได้ครับผมไม่ได้มองถึงวันข้างหน้า ผมหวังแค่ว่าถ้าผมปล่อยเพลงต่อๆ ไปออกมา ยังมีคนฟังเพลงของผมเหมือนเดิมก็ดีใจแล้วครับ ผมไม่ได้ซีเรียส ผมว่าคนน่าจะชอบในความเป็นตัวผม สไตล์ผม เลยไม่อยากกดดันตัวเอง แต่ทุกงานผมก็ทำออกมาอย่างเต็มที่และดีที่สุดครับ”
ด้าน “กาย” มองกระแสเพลง “ทน” ช่วยเปิดประตูบานใหญ่ให้ตนได้เดินทางต่อ พร้อมผลักดันตัวเองตลอดเวลาเมื่อมีโอกาสมาถึง
กาย : “การที่เพลงได้รับกระแสตอบรับดีแบบนี้ มันเหมือนเป็นประตูบานใหญ่เปิดทางให้ผมต้องไปต่อ ถ้าเราเหลิงแล้วหยุดแค่นี้ มันจะทำให้ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่คิดก็ได้ ผมว่าการเหลิงหรือการทะนงตัวเป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้าเราไม่ถ่อมตัว ทำเหมือนวันแรกๆ มันก็อาจจะไปต่อยาก ก็ต้องเต็มที่ในผลงานต่อๆ ไป ผลักดันตัวเอง ทำตัวเองให้พร้อมตลอดเวลาเมื่อมีโอกาสเข้ามาถึง”
“สไปรท์” ประทับใจ “กาย” ไม่มองว่าตนเป็นเด็ก และยอมฟังในเรื่องที่ตนอาจจะรู้มากกว่า
กาย : “หลายคนอาจจะมองน้องว่าเป็นเด็ก แน่นอนว่ามุมเด็กน้องก็มีแหละ เล่นๆ ซนๆ แต่ผมไม่เคยมองว่าน้องเด็กเลยนะ เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก เขาทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก สามารถส่งเงินให้พ่อแม่ได้ตั้งแต่เด็ก รักครอบครัวมาก ซัปพอร์ตตัวเองได้เร็ว แม้จะเจอวันที่ลำบาก แต่น้องก็มองบวก”
สไปรท์ : “ขอบคุณพี่กายที่มาฟีเจอร์ริ่งเพลงนี้กับผม ทำตามสิ่งที่ผมเสนอไป พี่กายเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีมากๆ เท่มาก ถึงพี่กายจะโตกว่าผม แต่เขาก็รับฟังในเรื่องที่ผมอาจจะรู้กว่าเขา พี่เขาไม่ได้มองว่าผมเป็นเด็กแล้วจะต้องไม่เชื่อผม ผมประทับใจตรงนี้ครับ”
