“บูม” เผยความรักกับ “กีฟ” ยังปกติดีทุกอย่าง แต่พยายามเจอกันให้น้อยลง เพราะหวั่นเรื่องการติดเชื้อโควิด ต่างคนต่างเซฟตัวเองให้มากที่สุด บอกที่เห็นลงรูปคู่กันน้อยกว่ารูปน้องหมา เพราะแฟนสาวไม่ชอบถ่ายรูป อยากเก็บภาพความทรงจำกับน้องหมาตัวใหม่ไว้ให้มากที่สุด เผยเรื่องธุรกิจขนมปังแม้จะกำไรน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเอาเงินเก็บมาหมุน พร้อมวอนเจ้าของที่ต่างๆ ถ้าทำได้ก็อยากให้ลดค่าเช่าให้ผู้ประกอบการบ้าง
ถููกจับตามองอีกคู่ว่ารักร้าวหรือมีปัญหากันหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยเห็นคู่ของพระเอกหนุ่ม “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” ลงรูปคู่กับหวานใจ “กีฟ ดราภดา โสตถิพิทักษ์” สักเท่าไหร่เลย แต่กลับไปลงรูปคู่กับน้องหมามากกว่า ซึ่งล่าสุดได้เจอหนุ่มบูมในงานแถลงข่าววันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2564 : เลิกสูบ ลดเสี่ยง คุณทำได้ ณ สนง.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เจ้าตัวก็เผยว่าความรักไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่ยอมรับว่าเจอกันน้อยลง
“ความรักก็ดีครับ (หัวเราะ) ได้เจอกันบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยเหมือนเดิม เราก็อยู่บ้าน ออกกำลังกาย พยายามเจอน้อยที่สุด พยายามทำตัวเองให้เซฟที่สุดเวลาที่เราเจอเขาจะได้สบายใจ ที่ไม่ค่อยเห็นลงรูปคู่เพราะจริงๆ กีฟเขาเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป เป็นคนชอบทำงาน คือเขาเป็นคนทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา บางทีชวนถ่ายรูปก็บอกว่าไม่เป็นไรพี่ถ่ายเถอะ เราก็เลยเซลฟี่กับน้องหมาไป กลายเป็นเราชอบถ่ายรูปมากกว่า แต่ก็ปกติดีครับ เขาแค่เป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปแค่นั้นเอง
ถามว่ากลัวคนจะมองว่าเลิกกันไหม ไม่เลิกครับ อาจจะเงียบสำหรับคนอื่นนะ (หัวเราะ) แต่ที่เห็นลงรูปกับน้องหมามากกว่า อาจจะเพราะเห่อด้วยมั้งครับเพราะเมื่อปลายปีที่แล้วเราเสียคนเก่าไป เราก็รู้สึกว่าผิดพลาดอะไรกับเขาไปหลายอย่าง พอมากับคนนี้เราก็ตั้งใจเต็มที่ว่าอยากจะดูแล อยากจะรักเขาให้ดีที่สุดในช่วงชีวิตเขาอีกประมาณ 10-15 ปี เขามีเวลาอยู่แค่นี้เอง คนเก่าที่เราพลาดอะไรไปเราขอทำให้มันดีที่สุดกับคนนี้แล้วกัน ก็เลยพยายามจะเก็บทุกโมเมนต์ของเขาไว้เป็นความทรงจำของเรา ทุกครั้งที่เรากลับมาดูเราก็มีความสุข ก็เลยถ่ายรูป ถ่ายคลิปกับเขา และสร้างไอจีให้เขา ก็เลยเห็นรูปผมกับน้องหมาเยอะ
แต่เอาจริงๆ รูปผมกับน้องกีฟเยอะกว่ารูปผมกับน้องหมาอีกนะ แต่พอเราจะลงกับน้องหมาเราไม่ต้องถามไง ลงได้เลย แต่พอจะลงรูปกับน้องกีฟก็ต้องถามก่อนว่ารูปนี้หนูโอเคไหม พี่จะลงนะ (หัวเราะ) เขาก็บอกหน้าหนูอ้วนไป นั่นนี่ไป ก็เลยไม่ได้ลง แต่เขาก็ไม่ได้ซีเรียส เขารู้อยู่แล้วครับ
งานน้องตอนนี้งานแสดงก็ยังไม่มีครับ บูมก็ด้วย (หัวเราะ) แต่น้องเขามีธุรกิจครับ และเขาทำมาตลอดอยู่แล้ว ร้านบูมเขาก็มาช่วย และมีธุรกิจส่งออก แล้วก็มีช่วยคุณพ่อเขาที่บริษัท เขาทำงานตลอดอยู่แล้ว ผมยังกระทบเยอะกว่าเขาอีก เพราะมีละครจะเปิดอีก 2 เรื่องก็คือเปิดไม่ได้เลย ฟิตติ้งไม่ได้เลย ทุกอย่างเลื่อนหมด แต่ธุรกิจก็ยังพอทำได้อยู่ครับ”
เผยธุรกิจยังไปได้เรื่อยๆ แม้จะกำไรน้อยลง
“ธุรกิจสำหรับผมปรับตัวมาตั้งแต่รอบแรกอยู่แล้ว ด้วยร้านเราเป็น take away อยู่แล้ว ไม่ได้ให้นั่งทานที่ร้าน และรักษาเรื่องระยะห่าง ไม่ให้ลูกค้าเข้ามาในร้าน และให้พนักงานทำความสะอาดกันอยู่ตลอดเวลา แต่มาถึงระลอกนี้ก็ไม่ได้มีการปรับอะไรเพิ่มมากขึ้นครับ ยังใช้มาตรการเดิม ส่วนเรื่องยอดขายก็ลดลงอยู่แล้วครับ ด้วยปริมาณคนที่มาเดิน และ work from home ด้วยช่วงนี้ แต่ละสาขาของบูมก็จะอยู่แหล่งที่ทำงาน ตลาด พอคนเดินน้อยลง ยอดขายก็น้อยลง แต่เราก็ปรับตัว ลดค่าใช้จ่าย และเข้าใจว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้ก็ประคับประคองไปครับ
ถามว่ายังอุ้มธุรกิจไปต่อได้ใช่ไหม ก็ด้วยธุรกิจขนมปังของผมเป็นหน้าร้าน เขาอยู่ได้ด้วยตัวของเขาเองอยู่แล้ว ก็คือแค่กำไรน้อยลงแต่เราก็ยังมีธุรกิจตัวอื่นที่ทำครับ
ถามว่ารอบนี้กระทบเยอะไหม ผมว่าตั้งแต่มีโควิดมารอบนี้หนักสุดเลย เพราะว่ารอบแรกคนกลัวโควิดมากก็จริง แต่ก็ยังมีกำลังซื้ออยู่ รอบสองก็ยังไม่รุนแรง แต่พอมารอบนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเยอะด้วย และที่สำคัญคือเงินหมดแล้ว ใช้ไปกับการกักตุนรอบแรก
ต้องบอกว่ารอบแรกขายดีกว่าเดิมด้วยซ้ำนะ เพราะเขาซื้อเยอะขึ้น ซื้อไปตุน ซื้อไปแจก แต่เราก็เข้าใจว่าบางท่านอาจจะใช้เงินไปเยอะมากแล้ว บางท่านก็อาจจะต้องเก็บสำรองเอาไว้ เพราะเราไม่รู้อนาคตเลยว่าระลอก 4 5 6 7 จะมาหรือเปล่า ก็ทำได้แค่ภาวนาให้มันหมดไปไวๆ”
บอกโชคดียังไม่ถึงกับต้องเอาเงินเก็บออกมาหมุน
“ส่วนของผมยังไม่ถึงกับเอาเงินสำรองมาอุ้มธุรกิจครับ ยังอยู่ดี (หัวเราะ) ก็พยายามเก็บไว้ให้ได้นานที่สุด เพราะมันยังไม่ถึงขั้นติดลบ เขาก็อยู่ของเขาได้ เราก็แฮปปี้ คือธุรกิจของบูมพอมันปันผลมาตั้งแต่แรกบูมไม่ได้เอามาแบ่งกันหมด บูมก็มีเก็บส่วนนึงเอาไว้เป็นเงินสวัสดิการให้พนักงาน เป็นกองกลางไว้เผื่อมีอะไร เตาพัง หม้อระเบิด เราก็จะมีเงินส่วนนี้ เราก็แบ่งเงินไว้หลายๆ ส่วน ถึงบอกว่ายังอยู่ได้ ตอนนี้ก็เลยยังไม่ถึงขั้นวิกฤตครับ”
ดีใจพี่ๆ น้องแซวเรื่องรูปร่าง แสดงว่าตนหุ่นดี
“รูปที่ออกกำลังกายเหรอ ก็มีพี่ๆ มาแซวกันแหละครับ (หัวเราะ) เกรท (สพล อัศวมั่นคง) ด้วย เราก็จะชอบเล่นกันแบบนี้ ผมก็มีไปแซวเขาบ้าง อย่างเพื่อนในวงการหลายๆ คน อย่างคุณไมค์ (ภัทรเดช สงวนความดี) ก็ชอบฟิตเนส เราก็เคยเจอเขา เขาหุ่นดี เราก็ไปแซวน้องเกรท น้องมิกค์ ทองระย้า ก็เป็นปกติแซวเล่นกันเหมือนให้กำลังใจว่าหุ่นดีนะ
และที่เขาบอกว่าหุ่นเราน่าลูบไล้แสดงว่าหุ่นเราดีสิ (หัวเราะ) ขนาดน้องเกรทยังอยากลูบไล้เลย เราก็มีกำลังใจไปเล่นต่อ เป็นการแซวๆ กันน่ารัก ขำๆ ครับ ใครแซวเก่งสุดเหรอ ผมไม่ค่อยเก่งนะ ผมแค่บอกว่าขอดูหน่อย (หัวเราะ) แต่ที่น้องเกรทบอกว่าอยากลูบไล้นี่เขาก็น่ารักแหละ เวลาคุยเล่นกันก็จะประมาณนี้”
เผยเตรียมนำของไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสนามและผู้ได้รับผลกระทบตามจุดต่างๆ
“ทางร้านร่วมทำบุญคือเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะช่วยได้ครับ ก็บริจาคให้โรงพยาบาลรามาฯ อันนั้นเป็นส่วนเล็กๆ จากทางร้านและหุ้นส่วนของผม ตอนนี้ก็กำลังมีโปรเจกต์กับน้องกีฟว่าจะนำของที่ผมทำธุรกิจอยู่ตอนนี้จะนำไปบริจาคหรือไปร่วมให้ที่ไหนดี เพราะมันต้องดูเรื่องการขนส่ง เรื่องสถานที่ที่เราไปด้วยว่ามันเซฟไหมไม่ใช่พอเราไปแล้วกลับมามีผลกระทบต่อตัวเราหรือสถานที่ที่เราไป เรื่องสถานที่น้องกีฟเขาเป็นคนดูเลยครับ ก็คงเป็นโรงพยาบาลสนามครับ เพราะเหมือนจุดนั้นจะขาดแคลนค่อนข้างเยอะ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเราก็อยากจะไปเหมือนกัน เพราะว่าเข้าใจหัวอกของผู้ประกอบการทุกคนเลยตอนนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด”
วอนเจ้าของที่ให้เช่าต่างๆ ลดค่าเช่าให้ผู้ประกอบการบ้างถ้าทำได้
“ก็อยากบอกถึงเจ้าของพื้นที่หรือผู้ให้เช่าว่าถ้าทำได้ก็อยากให้ช่วยกัน เพราะอย่างเพื่อนบูมทำธุรกิจก็จะบอกว่าที่ร้านโดนผลกระทบเยอะมาก ขายไม่ได้ ต่อให้นั่งโต๊ะละคน เขาก็ไม่มา เพราะเขาขับรถมากับแฟน มากับครอบครัว แล้วอยู่ๆ ให้เขามาแยกกัน เขาก็ไม่ทาน ไปหาทานอะไรที่มันง่ายๆ
เท่ากับว่าที่ร้านเขาเดลิเวอรี่ก็น้อย เงินก็เหลือน้อยลงทุกที แต่สิ่งนึงที่เขาต้องรับไว้ก็คือเงินเดือนพนักงานก็ต้องจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ แถมค่าเช่าไม่ได้รับการลดเลย ถ้าช่วยได้บูมอยากจะขอให้ช่วยกัน แต่ของบูมโชคดีมากเลยนะที่สาขาวังหลัง เจ้าของร้านบูมเขาลดให้ 50% เลยที่สาขามีนบุรีก็ลดให้ คือน่ารักมากๆ มันก็เลยทำให้จากที่เรากำไรน้อยลงอยู่แล้ว พอค่าใช้จ่ายเรามันหายไปอีกก็เลยมีเงินไปจ่ายเงินเดือนพนักงานโดยที่เราจ่ายเต็มจำนวน เราไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก แต่พนักงานเราเดือดร้อน ถ้ารายได้เขาน้อยลง เขาก็อยู่กันลำบาก ง่ายๆ ถ้าช่วยได้ก็ช่วยกัน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่อยากให้ช่วยๆ กันครับ”