ทุกคนทั้งโลกพูดเป็นเสียงเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะในกลุ่มของแฟนนางงามเท่านั้น แต่หลายคนก็บอกว่าปีนี้ทำไมเวทีประกวดสาวงามระดับโลกที่จะนำพาความสวยทะลุจักรวาลอย่าง Miss Universe 2020 ปีนี้ถึงมีปัญหา ดรามา ไม่หยุดหย่อน แม้ประกวดเสร็จไปหมาดๆ แต่ดรามาก็บังเกิดขึ้นตามมาติดๆ หรือเวทีนี้จะมีอาถรรพ์?? เพราะไม่เพียงจะสร้างความงงให้กับแฟนนางงามไทย ว่าทำไม “อแมนด้า ออบดัม” ไปไม่ถึงจักรวาล แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่สร้างความงงๆ ในปีนี้เช่นกัน
เริ่มจากพิธีกรที่ดำเนินรายการบนเวทีของ Miss Universe 2020 ปีนี้ทำไมไม่เป็น “สตีฟ ฮาร์วีย์” นักแสดงตลกวัย 64 ปีที่ทำหน้าที่ดำเนินรายการมาตั้งแต่ปี 2558 แต่ปีนี้กลับกลายเป็น “มาริโอ โลเปซ” นักแสดง นักจัดรายการวิทยุวัย 47 และ “โอวิเวีย คัลโป” อดีตมิสยูนิเวิร์สปี 2012 มารับหน้าที่พิธีกรบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 69 แทน จนทำให้เกิดคำถามว่าพิธีกรเจ้าประจำ ที่มาพร้อมคำพูด ชวนเรียกรอยยิ้มหายไปไหน? และยิ่งร้อนระอุไปอีกเมื่อ 2 พิธีกรปีล่าสุดดำเนินรายการได้แบบเอื่อยเฉื่อย ขาดความเร้าใจ ตื่นเต้น แถมบางทีก็มีการพูดเร่งรีบ ตัดบทนางงามของบางประเทศขณะเดินโชว์ในรอบต่างๆ
ซึ่งเว็บไซด์ “ยาฮู” ก็ได้รายงานข่าวว่าการที่ “ฮาร์วี่ย์” ไม่ได้เป็นพิธีกรในปีนี้ก็เพราะว่าตารางงานอาจจะไม่ตรงกัน โดยปกติมิสยูนิเวิร์สจะจัดประกวดในช่วงปลายปีหรือต้นปี แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์โควิด จึงทำให้เลื่อนมาจัดกลางปี บวกกับนักแสดงตลกชื่อดังติดถ่ายทำรายงานอยู่ที่แอฟริกาใต้ จึงทำให้ไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่แทนได้ และเจ้าตัวยังทวีตตอบกลับแอ็กเคานต์ของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไปเมื่อช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า “ผมคิดถึงพวกคุณนะ แต่ผมจะกลับมาพบคุณในครั้งที่ 70” และสิ่งที่ทำให้โลกจำในความเป็น “ฮาร์วี่ย์” ก็คือการประกาศชื่อของเจ้าของมงกุฎผิดในปี 2558 จาก “นางงาม โคลอมเบีย” เปลี่ยนมาเป็น “นางงามฟิลิปปินส์” เจ้าของมงกุฎและสายสะพายที่แท้จริง
เรื่องวุ่นๆ ยังไม่หมดเท่านั้น เมื่อนางงามจากประเทศเมียนมา “ทูซาร์ วินต์ ลวิน” ที่กำลังเดินทางไปประกวดที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แต่ระหว่างที่กำลังต่อเครื่องลอสแอนเจลิส กระเป่าที่ใส่เสื้อผ้าของเธอได้หายไป โดยในนั้นมีชุดราตรีสีแดงเพลิง ที่ผ่านการปักเย็บชนิดที่สวยจนตาแตก เพราะเย็บกันละเอียดอ่อนมาก รวมไปถึงชุดประจำชาติก็หายไปด้วยเช่นกัน
งานนี้แม้จะทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจลงไปบางส่วน แต่เธอก็ฮึดสู้เพื่อจะมาประกาศบนเวทีโลกว่าตอนนี้ประเทศเธอกำลังเจอกับอะไร โดยในรอบชุดประจำชาติ เธอได้สวมใส่ชุดที่ทางทีมงานเธอได้เร่งหามาได้ พร้อมชูป้ายว่า 'Pray for Myanmar' (ภาวนาให้เมียนมา) ส่วนชุดในรอบพรีลิมฯ ทางกองประกวดก็จัดหามาให้เธอสวมใส่ จนทำให้เธอได้รางวัลชุดประจำชาติไปครอง ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าเธอได้ถูกหมายจับจากรัฐบาลพม่า แต่ในเวลาต่อมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น
และระหว่างการประกวดอยู่ดีๆ ก็มีนางงามขอถอนตัวกะทันหัน เมื่อ “เทห์เลีย เลวี” มิสอิสราเอล ได้ขอถอนตัวออกจากการประกวด หลังจากเธอได้เดินในรอบชุดว่ายน้ำ บนรอบพรีลิมฯ เป็นคนแรก และหลังจากนั้นเธอก็ได้เดินทางออกจากบริเวณงานไปทันที เพื่อจะไปเก็บตัวในสถานที่ปลอดภัย และถึงแม้เพียงอีกแค่วันเดียวก็จะถึงรอบตัดสิน แต่ก็เพื่อความปลอดภัย เพราะเนื่องจากมีข่าวขู่ทำร้ายร่างกายถ้าเธอปรากฏตัวในสถานที่แจ้ง ทำให้เธอและกองประกวดต้องยึดความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมยังปิดสื่อโซเซี่ยลแบบไพรเวตในทุกช่องทางอีกด้วย อนึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเก็บตัว เธอได้ร่วมทำกิจกรรมร่วมเฟรมกับ “นางงามเลบานอน” ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า 2 ประเทศนี้กำลังมีความขัดแย้งที่รุนแรงจนทำให้เกิดสงคราม
ยังไม่หมด! ดรามามันจะเกิด มันก็ต้องเกิด เมื่อถึงรอบตัดสินสองคนสุดท้ายบนเวที ระหว่าง “แอนเดรีย เมซา” นางงามเม็กซิโก กับ “จูเลีย การ์ม่า" นางงามบราซิล เพราะปกติถ้าเป็นการประกวดปีอื่นๆ นางงามที่ผ่านเข้ารอบมาลุ้นมงฯ ที่เหลือ 2 คนสุดท้าย ก็ต้องยืนจับมือคู่กันเพื่อลุ้นว่าใครจะคว้ามงฯ แต่ในปีนี้ด้วยสถานการณ์โรคระบาด ทำให้ต้องยืนห่างกันแบบ social distancing และเพื่อนนางงามบนเวทีก็สวมมาสก์กันทุกคน แต่หลังพิธีกรประกาศว่าใครเป็นผู้ชนะ 2 นางงามก็กรูสวมกอดกันประหนึ่งเป็นงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แฟนนางงามเลยงงว่า ถ้าข้างหลังจะใกล้ชิดสนิทประดุจญาติมิตรขนาดนี้แล้ว ทำไมจะต้องให้ 2 คนสุดท้ายยืนห่างกันเพื่อ??
ปิดท้ายกับเจ้าของตำแหน่ง Miss Universe 2020 ที่ครองมงกุฎยังไม่ทันครบ 24 ชม. ก็ถูกแชร์ว่าเธอแต่งงาน มีสามีแล้ว โดย “แอนเดรีย เมซา” นางงามเม็กซิโกที่คว้าชัยเอาชนะนางงามจากบราซิล จนเธอได้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สปี 2020 ไปครอง แม้จะมีหลายเสียงบอกว่าค้านสายตา แต่ก็ไม่ดรามาเท่ากับการที่มีคนขุดว่าเธอได้แต่งงานและมีสามีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเป็นภาพของเธอสวมชุดเจ้าสาว กอดกับเจ้าบ่าว พร้อมแคปชั่นที่เป็นรูปแหวน โดยโพสต์เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2562 ที่ผ่าน จนทำให้หลายคนแท็กไปถึงกองประกวดมิสยูนิเวิร์สว่า ถ้านางงามแต่งงานแล้ว ก็ไม่ควรจะมาประกวด ควรจะปลดทันทีทันใด แต่จากนั้นเพียงไม่นานผู้ชายในภาพก็ได้อธิบายผ่านไอจีสตอรี่เป็นภาษาสเปน พร้อมได้แก้ไขแคปชั่นใต้ภาพ บอกว่ารูปที่ถ่ายนั้นเป็นเพียงแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวเท่านั้น
