งงในงง? แฟนนางงามสามนิ้วชี้ "อแมนด้า" ไม่มงฯ เพราะรัฐบาลทหาร

ผ่านไปแล้วสำหรับการประกวดนางงามเวทีใหญ่อย่างคว้า "มิสยูนิเวิร์ส 2020" โดยเป็นทางด้านของ "แอนเดรีย เมซ่า" (Andrea Meza) นางงามจากเม็กซิโกที่เป็นผู้คว้ามงกุฎ "มิสยูนิเวิร์ส 2020" ไปครอง

ผลการประกวดที่ออกมาทำให้ "แอนเดรีย เมซ่า" เป็นนางงามคนที่ 3 ของเม็กซิโกที่คว้ารางวัลใหญ่รางวัลนี้ไปครอง ไม่เพียงเท่านั้นการคว้ามงกุฏของเธอยังเป็นการหวนกลับมาสร้างชื่อของสาวๆ จากลาตินอเมริกาที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งวงการนางงามซึ่งคว้ามงกุฏจากเวทีนี้ครั้งสุดท้ายจาก "เปาลินา เบกา" นางงามชาวโคลอมเบียตั้งแต่ปี 2014 อีกต่างหาก

สำหรับตัวแทนของสาวไทยอย่าง "อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม" แม้จะทำดีที่สุดด้วยการเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ทว่าดูเหมือนหลายคนจะพากันผิดหวังไม่น้อยกับผลที่ออกมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกออนไลน์

ต้องยอมรับว่านางงามจากไทยคนนี้นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของสาวไทยไปประกวดความงามแล้ว อีกส่วนหนึ่งเธอยังได้ชื่อว่าเป็น "ตัวแทน" ของกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาลชุดปัจจุบันโดยมีเป้าหมายคือสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ อีกด้วย

ที่ผ่านมาก็เป็นกลุ่มนางงามเฉพาะกิจกลุ่มนี้นั่นเองที่มีการปั่นกระแสในโซเชียลแบบไม่กลัวหน้าแหกเลยว่าอย่างไรเสียปีนี้ "อแมนด้า" มงฯ มาแน่ ทั้งๆ ที่เรื่องทำนองนี้แม้แต่คนในวงการนางงามยังไม่กล้าฟันธง ส่วนเหตุผลก็ไม่มีอะไรมากมายเพียงแค่ต้องการบลัฟคนที่เห็นต่างการเมืองเท่านั้นนั่นเอง

ครั้นพอผลการตัดสินออกมาเหล่าบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดไทยก็เลยมีอารมณ์เป็นพิเศษ ต่างพากันเข้าไปโจมตีกองประกวดผ่านเฟซบุ๊ค Miss Universe รวมถึงอินสตาแกรมของ "พอลล่า แมรี่ ชูการ์ต" ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์สกันอย่างพร้อมเพรียง

เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะที่แฟนนางงามประเทศอื่นๆ เข้ามาแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยและมองว่าตัวแทนสาวงาม "จูเลีย กามา" (Julia Gama) จากประเทศบราซิล ที่ได้รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และ "เจนิคก์ มาเซต้า เดล คาสเตลโล" (Janick Maceta Del Castillo) รองอันดับสองจากเปรูมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะเลิศมากกว่า ทว่าแฟนนางงามเฉพาะกิจจากไทยกลุ่มนี้กลับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ยืนยันว่าต้องเป็นนางงามจากไทยเท่านั้นก่อนจะต่อว่ากองประกวดและประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์สด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายอย่างมากมาย

ขณะที่ในสังคมออนไลน์บ้านเราก็สนุกไม่น้อย หลังมีแฟนนางงามสามนิ้วจุดประเด็นขึ้นมาว่าเหตุที่ตัวแทนสาวไทยไปไม่ถึงมงฯ ก็เพราะไทยมี “รัฐบาลทหาร" ทำเอาหลายคนต้องยกตัวอย่างนางามไทยที่ได้มงกุฎใหญ่ๆ ในยุครัฐบาลทหารมาแย้ง อาทิ "ปุ๊ก อาภัสรา" นางงามจักรวาลคนแรกของไทย(1965) ในยุคยุคจอมพล ถนอม หรือจะเป็น ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นางงามจักรวาลคนที่ 2 (1988) ในยุคพลเอก เปรม ฯลฯ

แถมบางส่วนก็ยกตัวอย่างไปถึงประเทศอย่าง "เวเนซุเอลา" ที่ปกครองโดยรัฐบาลทหารของ "อูโก ชาเวช" แต่ที่ผ่านมานางงามจากเวเนฯ ก็ไปคว้ามงกุฏมาจากเวทีมิสยูนิเวิร์สมาแล้วถึง 3 คน

อย่างไรก็ตาม แทนที่แฟนนางงามสามนิ้วจะเข้าใจ กลับต่อว่าและประชดประชันไปยังคนที่เข้ามาอธิบายและยกตัวอย่างให้ฟัง โดยบอกว่าเป็นพวก "สลิ่ม" ดักดาน แถมบอกอีกฝ่ายด้วยว่าอย่าเครียด...

“มีคนบอก #MissUniverseคือเวทีที่เอาไว้หักหน้านางงามจาก 'รัฐเผด็จการ'ดีแค่ไหนเขาก็ไม่เอาขึ้นแท่น”

“มันเป็นเวทีการเมืองและธุรกิจถ้าไม่มีผลประโยชน์กับเขาไม่ส่งเสริมภาพลักษณ์เขา เขาไม่เอาหรอกครับ เชียร์กันสนุกๆ ไปเรื่อยๆ รอประยุทธ์จากไปคงจะมงสักวันหนึ่งข้างหน้าครับ"

"มี commentหนึ่งน่าสนใจดีนะคุณอาภัสราหงสกุลได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลสมัยจอมพลถนอมกิตติขจร... มุมมองของผมคือพอยุคสมัยเปลี่ยนไปบริบทของเวทีอาจจะเปลี่ยนไปด้วยนะครับเหมือนวันนี้นิยมเรื่องหนึ่งให้คุณค่าเรื่องหนึ่งวันหนึ่งเขาก็เปลี่ยนการให้คุณค่าไปเวทีอาจจะไม่ได้ให้คุณค่ากับเรื่องเดิมแล้วไม่ "ดักดาน" นะครับพัฒนาค่านิยมของเวทีตามบริบทสังคมและยุคสมัยที่เป็นสากลมากขึ้นครับ"

"แล้วจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่ายุคนั้นประเทศเรามีผลประโยชน์หรือให้อะไรกับเวทีโลกไหมถึงเลือกให้เรามง (แต่นางงามเราก็สวยมีเสน่ห์นะครับ) แค่บริบทเวทีมันเป็นเรื่องผลประโยชน์สังคมและการเมืองมันก็ต้องมองกันแบบนั้นจริงๆ ชวนคุยสนุกๆ นะอย่าเครียดมากนะ...สลิ่ม"

งานนี้ก็เลยทำเอาบรรดาคนที่ถูกเรียกว่า "สลิ่ม" งงกันยกใหญ่ว่าตกลงแล้วมันยังไงกันแน่? เพราะคนที่เครียดและผิดหวังก็เห็นจะมีแต่บรรดาแฟนนางงามสามนิ้วที่ออกมาโวยวายด่ากราดโทษนั่นโทษนี่ไปทั่วมิใข่หรือ?