หลังจากต้องเลื่อนงานประกวด มานานเกือบหนึ่งปี ในที่สุดก็มีการมอบมงกุฎให้กับผู้คว้าตำแหน่ง “มิสยูนิเวิร์ส” ประจำปี 2020 ที่ต้องมาประกวดกันภายในปีนี้
โดย แอนเดรีย เมซ่า ผู้คว้ามิสยูนิเวิร์สประจำปี 2020 เป็นตัวแทนของเม็กซิโก ซึ่งเธอเพิ่งจะความตำแหน่งในประเทศ ด้วยการครองมงกุฎ มิสเม็กซิคาน่า ยูนิเวิร์ส เพิ่งจะประกวดกันไปเมื่อปลายปีก่อนนี่เอง
แอนเดรีย เมซ่า เกิดที่เมืองชีวาวา และเติบโตมาจากที่นั่น โดยเธอเป็นพี่คนโตในหมู่ลูกสาวสามคนของบ้าน
อดีตรองมิสเวิลด์
หลังจบการศึกษาในระดับมัธยม แอนเดรีย เมซ่าได้เข้าศึกษาต่อด้านซอฟต์แวร์เอ็นจิเนียริ่ง ที่มหาวิทยาลัยอิสระแห่งชีวาวา และประกอบอาชีพด้านนี้ควบคู่กับการเป็นนางแบบมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นการขึ้นเวทีระดับนานาชาติก็ไม่ใช่ของใหม่สำหรับสาวคนนี้ เพราะ แอนเดรียนเมซ่า เป็นนางงามที่ผ่านการประกวดมิสเวิลด์มาแล้วด้วย
โดย เมซ่า เคยคว้ามงกุฎ มิสเวิลด์เม็กซิโก ที่บ้านเกิดจนได้เป็นตัวแทนของประเทศไปประกวดมิสเวิลด์ที่เมืองจีนเมื่อปี 2017 และตอนนั้นไปไกลถึงขั้นคว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่งมิสเวิลด์กันเลยทีเดียว
มาตรฐานความงาม และโควิด
โดยในการประกวด มิสเม็กซิโก ต้องตอบคำถามถึงเรื่องมาตรฐานความงามในยุคปัจจุบันซึ่งเธอได้ตอบว่า
“เราอาศัยอยู่ในสังคมที่ก้าวหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งในความก้าวหน้าของสังคมนี้ ทัศนคติต่อสิ่งต่างๆของเราก้าวหน้าไปด้วย ปัจจุบันความงามไม่ใช่แค่เรื่องของ สิ่งที่เห็นอีกต่อไปแล้ว สำหรับฉันความสวยจึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งที่เปล่งประกายออกมา แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจเป็นเรื่องของการปฏิบัติตัวด้วย อย่าปล่อยให้ใครมาบอกว่าคุณไม่มีค่าอย่างเด็ดขาด”
ส่วนในในรอบสุดท้ายนั้น แอนเดรีย เมซ่า ต้องแสดงความเห็นถึงการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ต้องแสดงความเห็นถึงการระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งเธอก็มองว่าคงไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ
“อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่า หากฉันได้เป็นคนทำ ฉันคงจะตัดสินใจล็อกดาวน์ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายขนาดนี้ เพราะเราสูญเสียชีวิตไปมากมายและนั่นไม่สามารถทดแทนด้วยอะไรได้เลย เราต้องดูแลคน ของเรา ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ถ้าเป็นฉัน จะเลือกที่จะดูแลประชาชนตั้งแต่ต้น”
ทวีปอเมริกายิ่งใหญ่เหลือเกินบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส
แอนเดรีย เมซ่า คือสาวเม็กซิโกคนที่สามที่คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส หลังจาก ลูพิต้า โจนส์ เคยทำได้เมื่อปี 1991 และ ฆิเมนา นาบาร์เรเต ในปี 2010
ซึ่งนอกจากเม็กซิโกแล้ว ก็ยังมี สวีเดนและแอฟริกาใต้ที่มีนางงามจักรวาลถึง 3 คน ส่วนประเทศที่คว้าตำแหน่งมากที่สุด ก็ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกาที่มีมิสยูนิเวิร์สมากถึง 8 คน ตามมาด้วยเวเนซุเอลา มหาอำนาจแห่งวงการนางงามที่มีมิสยูนิเวิร์ส 7 คน ตามมาด้วยเปอร์โตริโก และเม็กซิโก ที่มีสาวงามเคยคว้ามงกุฎนี้ไปแล้ว 5 และ 4 คน ตามลำดับ
ต้องยอมรับว่าตลาดใจของมิสยูนิเวิร์สคือประเทศแถบลาตินอเมริกาอย่างแท้จริง ในการประกวดทั้งหมด 69 ครั้ง สาวงามตัวแทนจากทวีป อเมริกาทั้งเหนือกลางใต้ครองตำแหน่งร่วมกันเกิน 60 ครั้ง พูดได้ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของการประกวดเลยก็ว่าได้
ลาติโน ครองเวที มิสยูนิเวิร์ส 2020 (ที่จัดในปี 2021)
แต่แม้จะครองเวทีมิสยูนิวเวิร์สมานานสาวจากทวีปอเมริกาก็ห่างหายจากการคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไปนานพอสมควร โดยคนสุดท้ายก่อนหน้านี้ก็คือ เปาลินา เบกา นางงามชาวโคลอมเบียผู้ได้รับตำแหน่งในปี 2014
ซึ่งนับตั้งแต่ IMG/WME ได้เข้ามาถือสิทธิ์การประกวด ก็ดูเหมือนว่าจะมีการเลือกผู้คว้ามงกุฎให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
โดยรอบทศวรรษที่ผ่านมา มีตัวแทนจากทวีปเอเชียถึง 2 คนที่คว้ามงกุฎ และตัวแทนจากแอฟริกา อีก 2 คน ที่ได้ตำแหน่ง ก็ทำให้การประกวดมิสยูนิเวิร์สในปีหลัง ไม่ได้มีแต่ผู้ประกวดสาวลาตินที่คว้าตำแหน่งอย่างไร้คู่แข่งอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตามการประกวดในปีนี้ ดูเหมือนว่าสาวลาตินน่าจะได้เปรียบกว่าใครมาตั้งแต่ต้น มีการถ่ายทอดสดที่มิสยูนิเวิร์สแพร่ภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ภาษาสเปน Telemundo
การเลือกเอาศิลปินหนุ่ม ชาวเปอร์โตริโกกูเจ้าของเพลงฮิตอันดับหนึ่งยูทูป Despacito อย่าง หลุย ฟอนซี มาแสดงบนเวที นอกจากนั้นทั้งพิธีกรและกรรมการหลายคนก็ล้วนเป็นคนในฝั่งบันเทิงลาติน
และที่สำคัญการที่มิสยูนิเวิร์สปีนี้เลือกที่จะมาจัดกันที่ Seminole Hard Rock Hotel & Casino Hollywood ใน ฮอลลีวูด แห่งรัฐฟลอริด้า รัฐที่มีชาวลาติโนอาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอเมริกา และมีคนเม็กซิกันที่อพยพเข้ามาอยู่ในฟลอริดาทำผิดกฎหมายและถูกกฎหมายนับล้านคน ก็น่าจะทำให้การคว้ามงกุฏของสาวเม็กซิกันบนเวทีนี้ เป็นเรื่องไม่เหนือความคาดหมายนัก