“ไต้ฝุ่น” แจ้งความหมิ่นประมาทชาวเน็ต 4 ราย หลังวิจารณ์ให้ร้ายตน ซึ่งสาเหตุที่ตนโดนบูลลี่มาตลอดมาจากแฟนๆ อินละครคู่จิ้น “มุกดา-เข้ม” เผยกับมุกดาไม่มีนิยามสถานะ เป็นคนที่รู้สึกคลิก มีทัศนคติใกล้เคียงกัน โอดพลาดเองเข้าไปคอมเมนต์โพสต์ “แอนดรูว์” ประเด็นวัคซีน จนชาวเน็ตถึงขั้นแช่งพ่อแม่ ลั่นไม่ข้องเกี่ยวการเมือง
อดทนเรื่อยมากับการถูกไซเบอร์บูลลี่จากแฟนๆ ที่อินละครคู่จิ้น “มุกดา นรินทร์รักษ์”และ “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ที่ไม่พอใจ “ไต้ฝุ่น ตากเพชร เลขาวิจิตร” ที่ดูเหมือนจะเป็นคู่จริงของมุกดา จนไต้ฝุ่นรู้สึกไม่ไหวแล้วเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ที่ สน.พหลโยธิน 4 ราย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าหากวิจารณ์ตนเพียงคนเดียวรับได้ แต่อย่างามไปถึงพ่อแม่ หน้าที่การงานของตน
"คือก่อนหน้านี้โดนไซเบอร์บูลลี่ การโจมตีบางอย่างที่มันเกินเขตที่เราจะรับได้ มันเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว หลายๆ เดือนเป็นปี แล้วมันเริ่มรุนแรงมากขึ้น ครั้งแรกเราคิดว่าเวลาผ่านไปอะไรๆ มันจะดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ามีคนส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งเขามาโจมตีแรงขึ้น แล้วที่ผมไม่โอเคมากๆ คือมายุ่งกับครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ เลยปรึกษาผู้รู้ ทางทนาย ผู้พิพากษา อัยการ เพื่อให้คำแนะนำว่าเราก็กฎหมายรองรับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อยู่ บางคอมเมนต์อาจจะเป็นเรื่องการหมิ่นประมาทได้ เราสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ ให้เขาหยุดกระทำตรงนี้"
เผยสาเหตุโดนบูลลี่จากแฟนๆ อินละครคู่จิ้น
"ผมคิดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของละครที่แบบมีคู่จิ้นส่วนหนึ่ง แฟนคลับบางคนที่เขาอินกับละครบางส่วน อาจจะมองว่าจุดที่ผมอยู่ การใช้ชีวิตมันดูทำร้ายความรู้สึกเขาครับ ซึ่งเรายินดีกับความสำเร็จของละครทางช่องของเราอยู่แล้ว ถ้าเกิดเรตติ้งดี แฟนคลับชอบครับ แต่ว่าเป็นแค่กลุ่มคนเล็กๆ จริงๆ ที่มันเกิดขึ้น แล้วก็มีคนพยายามปกป้องเรา ทุกส่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คนส่วนใหญ่เขาก็พยายามให้กำลังใจเรา เราก็ขอบคุณแล้วก็ซาบซึ้งตรงนั้น แต่กลุ่มเล็กๆ ที่เขาไม่เข้าใจแล้วก็มาโจมตีทำบางอย่างเกินเหตุเลยต้องให้กฎหมายจัดการ"
ได้คุยกับ “มุกดา นรินทร์รักษ์” ถึงเรื่องนี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยายามอดทนให้มากที่สุด
"ได้คุยกับเขา เขาก็อดทน จุดที่เขาอยู่คือเขาก็เลือกที่จะทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุด แฟนคลับคือกลุ่มคนที่เขาแคร์มากที่สุดครับ ซึ่งเขาก็เสียใจเพราะคนที่เขาแคร์มากที่สุดของการแสดง แฟนคลับบางคนที่ไม่เข้าใจ แล้วไปทำร้ายความรู้สึกเขา แต่ว่าเขาก็ทำสิ่งที่ดีที่สุด แล้วก็อดทนมากที่สุดครับ"
เผยเคสที่ทนไม่ไหวจนต้องต้องดำเนินคดีถึง 4 รายด้วยกัน ลั่นวิจารณ์ตนได้แต่ขออย่าลามมาถึงพ่อแม่หรือบุคคลอื่น
"ตอนนั้นไดเร็กแมสเสจมาว่าบางอย่างที่ผมให้ทนายดำเนินการไป 4 คน สำหรับคนที่มากล่าวหาว่าเราเอาเงินไปเปย์ผู้หญิง เพื่อหลอกฟัน บอกว่าพ่อแม่เราไม่สั่งสอน มีว่าแบบที่ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยก็ไปว่าสถานบันการศึกษาว่าเรียนอย่างนี้ทำไมคิดได้แค่นี้ เสียเวลาเรียนมาก เรารู้สึกว่าเราโตแล้ว ทำไปเราควรจะรับผิดชอบในส่วนของเราเราจัดการความรู้สึกตรงนี้ได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ของเรา คนอื่นที่เขาอาจจะไม่ได้มีโอกาสเข้าใจตรงนี้ ทำไมเขาต้องมารับความรู้สึกที่ถูกทำร้าย
ตอนนี้ยังมีคอมเมนต์แบบนี้เข้ามาบ้างแต่ครั้งนี้ ที่ก่อนหน้านี้ผมไปโพสต์เล่นกับพี่แอนดรูว์(กรเศก โคร์นิน) ผมก็รู้จักว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ก็ขอโทษไปแล้วที่ทำลายความรู้สึกของบางคนว่าเรื่องวัคซีนมันเซนซิทีฟ มันเกี่ยวโยงกับการเมืองอะไรอยู่ ถ้ารู้ก็คงไม่ได้จะโพสต์อะไรแล้ว ถ้าเลือกได้ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมืองให้มากที่สุด แล้วตอนนั้นมาคอมเมนต์กลายเป็นว่าตอนนั้นเขามาด่าว่าพ่อแม่ บอกว่าให้บังคับมาฉีดตัวนั้นตัวนี้
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ด้วยความรักลูกครับ แม่ผมเป็นโรคหัวใจอยู่ อายุก็เกิน 60 ปีแล้ว คือเขาก็บังคับว่าคุณแม่คุณต้องไปฉีดตัวนี้นะ ฉีดแล้วขอให้ตายกันทั้งครอบครัว ซึ่งผมก็บอกว่าผมพลาดที่คอมเมนต์อะไรไปในโพสต์นั้น แต่ว่าก็อยากให้วิจารณ์ตัวผม ไม่อยากไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ ไปบังคับเขา อย่างวันนี้คุณแม่พี่แอนดรูว์เขาก็มาฉีดตัวซิโนแวค ผมก็กังวลว่า ถ้ามาโจมตีคนที่เรารัก ตอนที่เขาเป็นโรคหัวใจถ้าเป็นอะไรขึ้นมาผมรู้สึกว่ามันเกินไปเหมือนกันนะ"
เผยกับ “มุกดา” ไม่มีนิยามในสถานะ เป็นคนที่รู้สึกคลิก มีทัศนคติใกล้เคียงกัน
"เป็นน้องที่สนิทนะ มีอะไรก็ปรึกษากันเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพราะว่ารู้จักกันเล่นละครด้วยกันก็มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันมาช่วงเวลานึงยาวๆ เราก็ผูกพัน สนิทกัน คนที่เรารู้สึกว่าคลิก มีทัศนคติใกล้เคียงกัน เราก็ปรึกษาให้กำลังใจให้คำแนะนำกัน ผมก็รับคำปรึกษาการแสดงของเขา (แต่มันก็ดูเหมือนคนพิเศษที่ศึกษาดูใจกัน?) อย่างที่ยืนยันว่ามันไม่ได้มีนิยามในการเรียกชื่อ แต่เราสนิทกันปรึกษากันแล้วก็มีหลายๆ เรื่องที่น้องช่วยผมได้ ตัวผมสามารถสนับสนุนน้องเขาไปข้างหน้าได้ เราก็ยินดีที่จะทำ"
ตนยินดีกับกระแสคู่จิ้น “มุก-เข้ม” ภาพรวมไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตน มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ
"จริงๆ ผมรู้สึกยินดีที่กระแสตอบรับของละคร ผมก็เป็นหนึ่งในละครด้วย ยินดีกับการแสดงกับความสำเร็จของทุกคนครับ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรส่วนบุคคลครับ แต่ว่าผลกระทบมันมาจากกลุ่มคนที่ดูละครแล้วอินมาก แล้วไม่ได้เข้าใจ ซึ่งไม่ได้ส่วนใหญ่นะครับ พูดจริงๆ ว่าในกลุ่มของทุกบ้านที่รักคู่จิ้นทุกคน คนส่วนใหญ่เขาเข้าใจ แต่มีกลุ่มคนเล็กๆ บางส่วนเท่านั้น
เราเข้าใจในส่วนคู่จิ้น มุก-เข้ม เราก็มีเจอกันครับ ไปอีเวนต์ด้วยกัน ตั้งแต่น้องเขาเล่นละครด้วยกันทั้งสองคนครับ แต่ก็หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ่อยๆ น้องเขาเป็นน้องที่น่ารักทั้งเข้มทั้งมุก"
เพราะยังมีความคู่จิ้นอยู่ ทำให้ความสัมพันธ์ของตนกับ “มุกดา” เปิดความสัมพันธ์ไม่ได้นั้นเจ้าตัวตอบว่า...
"ผมก็รู้จักน้องเขาเล่นละครกับมุกดามาก่อนที่จะมีคู่จิ้นนี้ตั้งนานแล้วครับ แล้วก็เราไม่ได้จะเปิดจะปิดความสัมพันธ์หรือว่านิยามความสัมพันธ์อะไรอยู่แล้วเราเป็นพี่น้องที่ให้คำปรึกษาที่ดีต่อกันเสมอมาตลอด ซึ่งก็เป็นช่วงเวลา 4 ปีได้ ก็ยาวนานพอสมควรครับ
จริงๆ คนที่เราแคร์มากที่สุด คือคนในวงกลมเล็กๆ ของเราครับ ครอบครัว เพื่อนๆ พี่น้องของเรา นอกจากนั้น ทั้งผมและมุกเรามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันแน่ๆ คือเราให้ความสำคัญกับงาน ความรับผิดชอบในการทำงานมากกว่าความสุขส่วนตัว ผมว่าเป็นสิ่งที่นักแสดงก็เป็นการเสียสละอย่างหนึ่งที่เราโฟกัสเรื่องงานทั้งคู่ โฟกัสเรื่องงานเป็นหลัก"
“มุกดา” ให้กำลังใจถามไถ่เสมอว่าตนโอเคไหม
"เขาก็ถามว่าจะจัดการกับมันยังไง โอเคไหมน้องเป็นคนห้าวๆ ก็จะถามว่าเป็นไงโอเคเปล่า คือยังโชคดีที่เราทำงานอยู่ตรงนี้ก็เข้าใจทั้งโลกส่วนบุคคล โลกส่วนตัว แล้วก็โลกของการแสดงครับ แล้วก็ยึดมั่นในสิ่งที่เราคิดว่าถูกที่สุดเราก็พยายามทำงาน ก็ไม่ใช่จุดที่ผมจะตอบได้ว่าดีหรือเปล่านะ จากคนดูอะไรหลายๆ อย่าง ในฐานะนักแสดงอะไรที่เราทำแล้วมันดีที่สุด เราก็อยากจะทำให้มันเต็มที่ครับ"
เล่า 4 คนที่ตนดำเนินคดีการทางกฎหมายได้ติดต่อขอโทษเรียบร้อยแล้ว
"เขาติดต่อกลับมาแล้วก็ขอโทษหมดครับ คือเราบอกชัดเจนว่าถ้าได้เงินมาจากการฟ้องร้องจะเอามาบริจาคหมดเลย เราไม่ได้อยากได้เงิน ไม่ได้อยากให้เขาติดคุก อยากให้เขาคิดได้รู้จักเส้น เราอยู่ในสังคมวิจารณ์กันได้ อันไหนดีเราก็เอามาปรับใช้ อันไหนไม่ดีถ้ามันแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ทำใจ ใช้ชีวิตต่อไป แต่อยากให้เขาอยู่ในจุดที่พอดีไม่ผิดกฎหมาย ก็เคลียร์กันหมดแล้วครับ มีลายลักษณ์อักษร ผมก็ยอมความครับแล้วก็ชื่นชมด้วยนะครับ คนเราผิดพลาดกันได้ ก็เปลี่ยนความคิดได้แล้วก็แก้ไข ขอชื่นชมครับ"