xs
xsm
sm
md
lg

“แนนโน๊ะ” คัมแบ็ก ดันซิรี่ส์ “เด็กใหม่” ติด Top 10 เอเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถ้าเป็นสายละครหลังข่าว นาทีนี้คงไม่มีใครมาแรงแซง “รำนำ” แห่ง “กระเช้าสีดา” ทางช่องวัน ที่ทำเอาอารมณ์คนดูสะดุดไปทั่วประเทศ เพราะเจอสถานการณ์โควิด – 19 ทำให้ละครถ่ายทำต่อไม่ได้ ก็เลยจำต้องหยุดออกอากาศไปเป็นการชั่วคราว
แต่ถ้ามาทางสายซิรี่ส์ออกแนวดาร์กๆ ชื่อของ “แนนโน๊ะ” น่าจะชื่อที่ผุดขึ้นมาในอันดับต้นๆ โทษฐานที่มาแรงเหลือเกินในเวลานี้

“แนนโน๊ะ” สาวน้อยผมม้าในชุดนักเรียน เจ้าของแววตาลึกลับ กับเสียงหัวเราะ ที่เต็มไปด้วยปริศนา และหลากหลายคำถามที่ทุกคนพยายามค้นหาคำตอบ คือชื่อตัวละครเอกใน “เด็กใหม่ The Series” (Girl From Nowhere ) ซิรี่ส์สายพันธุ์ไทยแนวแฟนตาซี-ลึกลับ-ทริลเลอร์ ที่ดำเนินมาถึงซีซันที่ 2 แล้ว โดยซีนซันแรกเริ่มต้นออกอากาศทางช่อง GMM25 ส่วนในซีซันนี้ เป็นออริจินัลซิรี่ส์ ที่สร้างมาเพื่อเปิดตัวที่ Netflix


ต้องบอกว่าซิรี่ส์เรื่องนี้ เป็นงานขายไอเดีย และความครีเอทีฟเอามากๆ เพราะต้นคิดของเรื่องคือครีเอทีฟสาวแห่งวงการเอเจนซี่โฆษณา ที่ตั้งใจจะตีแผ่ด้านมุมมืดในจิตใจของผู้หญิงโดยเฉพาะ

เริ่มตั้งแต่การตั้งชื่อตัวละคร เพราะชื่อจริงของ “แนนโน๊ะ” ก็คือ “มารา” ซึ่งมีที่มาในเชิงศาสนา “มารา” หรือรากศัพท์ก็คือคำว่า “มรุ” แปลว่า “ตาย” เมื่อแผลงมาเป็น “มาร” ก็แปลความหมายได้ว่า “ผู้ทำให้ตาย” ซึ่งก็สอดคล้องกับบทบาทของลูกสาวซาตานในร่างหญิงสาววัยมัธยมปลายนั่นเอง !!!

โดยคาแรกเตอร์ของตัวละคร “แนนโน๊ะ” อ้างอิงส่วนหนึ่งมาจากคาแรกเตอร์ของ “โทมิเอะ” ที่โด่งดังมาจากนิตยสารมังงะผู้หญิงรายเดือนที่ชื่อ Gekkan Halloween ในช่วงปี 1987 จนถึงปี 2000 โดยเฉพาะประเด็นที่สามารถฟื้นจากความตาย และการแบ่งร่างออกมาเป็นหลายๆ ร่างพร้อมกันได้


พล็อตตั้งต้นของ “เด็กใหม่ The Series” ว่าด้วยเรื่องราวของ “แนนโน๊ะ” ที่เป็น “เด็กใหม่” ของทุกโรงเรียน ซึ่งในวันแรกที่เธอเข้าไป และวันสุดท้ายที่เธอออกมา มักจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทุกโรงเรียนที่เธอไปปรากฏตัว แต่จะเป็นความเปลี่ยนแปลง ที่แตกต่างกันออกไปแบบต่างกรรมต่างวาระ

แต่หลักใหญ่ใจความก็คือ การเร้าให้คนรอบๆ ตัวเผยธาตุแท้ลึกๆ ในใจออกมา และเมื่อคนทำผิดได้รับบทลงโทษ “แนนโน๊ะ” ก็จะจากไป เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ที่โรงเรียนอื่นต่อไป ซึ่งไอเดียของพล็อตการเป็นเด็กใหม่ในทุกโรงเรียน ก็ไปพ้องกับมังงะอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือ Nehan Hime Midoro หรือ “เจ้าหญิงอาถรรพ์ มิโดโระ”

จากซีซันแรกที่มีทั้งสิ้น 13 อีพี ซึ่งเน้นเรื่องราวในรั้วโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ พอดำเนินมาถึงซีซัน 2 ที่จะมีด้วยกัน 8 อีพี ก็เริ่มมีการขยายวงออกมานอกรั้วโรงเรียน โดยอ้างอิงจากข่าวคราวที่เป็นประเด็นดรามาในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักในวัยเรียน , การล่าแต้ม , เรื่องจริงหรือการหลอกลวงในโลกออนไลน์ ฯลฯ ซึ่งด้วยความที่เจตนาของการทำซีซันนี้ เพื่อฉายในแพลตฟอร์มสตีมมิ่ง ไม่ได้เริ่มจากออนแอร์ทางทีวี ฉะนั้นแล้วจึงสามารถฟาดเรื่องราวดาร์กๆ เรียลๆ แบบตรงไปตรงมาได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องอ้อมค้อม หรือเกรงใจระบบเซ็นเซอร์


โดยเฉพาะการตีแผ่ด้านมืดของสังคม “มือถือสาก ปากถือศีล” แบบโจ่งแจ้ง ชนิดที่ “คนในข่าว” ตัวจริง ดูแล้วอาจจะสะอึก !!!

นอกเหนือจากการขยี้บทเพื่อความสะใจแล้ว อีกนัยหนึ่งก็คือต้องหาเหลี่ยมมุมใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง เพราะมีโจทย์หลัก ก็คือจะต้องสร้างความสำเร็จให้มากกว่า หรืออย่างน้อยก็ต้องเทียบเท่ากับซีซันก่อน ที่ทำคะแนนไว้ได้ดีมากๆ

และแน่นอนว่าคนที่แบกรับน้ำหนักของเรื่องไว้ทั้งหมด ก็คือตัวละคร “แนนโน๊ะ” ที่รับบทโดย “คิทตี้- ชิชา อมาตยกุล” ที่คนทั่วไปอาจจะคุ้นชื่อในฐานะที่เป็นอดีตคนเคยรักของ “นาวิน ต้าร์” ก่อนที่จะมาลงหลักปักฐานกับไฮโซสาว


อย่างไรก็ดี การกลับมาของ “คิทตี้-ชิชา” ในบทของ “แนนโน๊ะ” ก็ไม่ได้ทำให้ความคาดหมายที่จะลบสถิติแรกของทีมงานต้องดับสลาย เพราะเปิดศักราชได้อย่างสวยงาม กลายเป็นซีรีส์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังติดอันดับ Top 10 คอนเทนต์ยอดนิยมในหมวด TV Shows ใน 7 ประเทศแถบเอเชียอีกด้วย

ต้องดูกันต่อไปว่า “แนนโน๊ะ” ในซีซันนี้ จะนำพาความสำเร็จของเรื่องให้พีกไปให้สุดถึงจุดไหน !!???

ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2564



กำลังโหลดความคิดเห็น