ต้องยอมรับว่าด้วยสไตล์การเล่าข่าวที่คุ้นเคย กับเสียงที่คุ้นหูของสรยุทธ ที่ครองจอมาอย่างยาวนาน จนส่งผลให้รายการเรื่องเล่าเช้านี้ กลายเป็นรายการข่าวที่ฮอตที่สุดมีเอเจนซี่เทงบให้มากที่สุดในอดีต เป็นสิ่งที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกับคอข่าว การกลับมาของสรยุทธครั้งนี้ จึงได้รับการตอบรับจากแฟนข่าวไปในทิศทางบวกว่า “รอวันนี้มานานแล้ว” ยิ่งทำให้กระแสของสรุยุทธกลับมาฟีเวอร์ทั้งหน้าจอและในออนไลน์
แต่ประโยคที่เด็ดสุด ที่ทำเอาสะเทือนวงการข่าวก็คือ คำพูดของสรยุทธที่ว่า “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าเรื่องเล่าเช้านี้ จะทำให้ผิดหวัง เราไม่ได้มีข่าวทั่วๆ ไป เหตุลักวิ่งชิงปล้น ทะเลาะวิวาท เลือดสาด หรือเรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆ เพราะประเทศนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝ่าวิกฤตมหันตภัยโควิด”
รวมไปถึงประโยคทิ้งท้ายก่อนจบ “ตื่นตอนเช้า เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เปิดเรื่องเล่าไม่เปลืองไฟ ได้แลกเปลี่ยน พูดคุย อบอุ่น” ท่ามกลางการชิงเรตติ้งของรายการข่าวแต่ละช่อง ที่นับวันเอาแต่แข่งกันนำเสนอเรื่องอาชญากรรมสยดสยอง การทำกราฟฟิกฆาตกรรม ยิ่งกว่าตำรวจทำแผนการฆ่าของอาชญากร , การนำเสนอเรื่องงมงายมอมเมา
สิ่งเหล่านี้ปนเปื้อนบนหน้าจอของช่องใหญ่ๆ หลายช่องอย่างเมามัสเพื่อเรตติ้ง คำพูดของสรยุทธจึงเป็นเสมือน แสงไฟที่ส่องสว่างนำทางสู่สังคม สร้างความประทับใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ “เอ็มไอ” (อ้างอิงมาจาก : ประชาชาติ) ได้วิเคราะห์ปรากฎหารณ์คืนจอของสรยุทธ ทำให้รายการข่าวของช่อง 3 ทุกรายการเรตติ้งเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มคนดูมากขึ้นจากเดิม และบางทีก็ทำให้ “เรื่องเล่าเช้านี้” มีเรตติ้งแซง “สนามข่าว 7 สี” ของช่อง 7HD ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ แถมยังดึงคนดูจากรายการข่าวเช้าของช่องอื่นมารวมกันอยู่ที่รายการนี้ได้อีก
จึงไม่แปลกใจว่าเพียงแค่อาทิตย์เดียว การแย่งชิงเรตติ้งเวลาในช่วงข่าวเช้าของทุกช่องจะดูเข้มข้นขนาดนี้ รวมไปถึงสิ่งที่คาดการณ์เอาไม่มีผิด!! ว่าเอเจนซี่ปลื้มปริ่มเป็นอย่างมากกับการกลับมาของ “สรยุทธ” แม้โควิดจะทำให้ทุกอย่างสะดุด แต่เขาเหล่านั้นก็พร้อมจะทุ่มเม็ดเงินโฆษณา จนทำให้ช่วงเวลาเช้ากลับมาเป็นช่วงเวลาทองอีกครั้ง
แต่ใช่ว่าคู่แข่งตลอดกาลอย่าง “วิกหมอชิต” จะยอมแพ้ในศึกนี้เหรอ? เพราะการกลับมาของ “สรยุทธ” สะเทือนไปทุกแพลตฟอร์ม แต่ “ช่อง 7HD” ก็ยังมีฐานคนดูที่เหนียวแน่น และแน่นหนาโดยเฉพาะแฟนๆ ต่างจังหวัด ที่เปิดช่อง 7HD ทิ้งไว้ทั้งวัน
เรตติ้งล่าสุดระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค. จากผลสำรวจของเอจีบี นีลเส็น ประเทศไทย จากกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศในรายการข่าวเช้า “สนามข่าว 7 สี” เรตติ้งก็เฉลี่ยไปแตะที่ 1.5 รวมไปถึง “เช้านี้ที่หมอชิต” ทำให้ยืนหนึ่งในเรื่องของเรตติ้งในด้านของข่าวเช้า
สนามข่าว 7 สี นำเสนอที่มีสไตล์ข่าวใหญ่ข่าวเด่น มาขยายรายละเอียด ด้วยความกระชับฉับไว ไม่เยิ่นเย้อกับทีมผู้ประกาศที่คุ้นเคย รวมไปถึงทุ่มงบในการปรับปรุงสตูดิโอใหม่ด้วยระบบความคมชัด 4K ต่อเนื่องร้อยเป็นผืนเดียว ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 22 เมตรผ่านระบบวิดีโอวอลล์ นอกจากนี้ “ช่อง 7HD” ยังเสริมทัพด้วยคนคุ้นเคยจากวิกพระรามสี่ อย่าง “เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ที่ยกบริษัทออกมาจากตึกมาลีนนท์ พร้อมเปิดตัวทั้งซิทคอมและรายการ “ถกไม่เถียง” แถมมีเซอร์ไพร์สใหญ่ให้ได้ตกใจกันอีกระลอกนึงเร็วๆ นี้
แค่สัปดาห์แรกยังร้อนระอุขนาดนี้ ยังคงต้องดูอีกยาวๆ ไปว่าใครจะยืนหนึ่งใน “สงครามข่าว” เพราะเม็ดเงินในสงครามนี้มันช่างหอมหวนซะเหลือเกิน
