xs
xsm
sm
md
lg

ความในใจจาก "น้องไบรท์" ถึง "พี่ยุทธ" กับความผิดที่ผิดเวลาของ "ไก่ ภาษิต"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในปีพ.ศ. 2552 หลังย้ายออกจากช่อง 7 ที่ทำหน้าที่ผู้ประกาศมานานร่วม 3 ปี ต้องยอมรับว่าเวลานั้น "ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท" ในวัย 28 ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักข่าวที่น่าจับตาไม่น้อย
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะองค์ประกอบแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติทางด้านการศึกษา รูปร่างหน้าตา ที่สำคัญการย้ายไปอยู่กับช่อง 3 นั้นถือเป็นการข้ามช่องที่เป็นคู่แข่งแย่งชิงเรตติ้งกันโดยตรงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี น่าสนใจทีเดียวว่า "ไภ่ ภาษิต" กับเส้นทางของการเป็นผู้ประกาศข่าวของเขานั้นมีสถานะและความนิยมที่อยู่ในระดับไหนแล้ว?

เอาเข้าจริงๆ ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ย้ายไปช่อง 3 บทบาทการทำหน้าที่ของเขาดูจะได้รับการพูดถึงน้อยไปกว่าที่หลายคนคาดหวังไว้ไม่น้อย โดยเฉพาะตอนที่เจ้าตัวต้องไปจับคู่กับรุ่นใหญ่อย่าง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ด้วยแล้ว ต้องบอกว่าช่วงนั้นยิ่งดูไม่จืดเอาเสียเลย

"ไก่ ภาษิต" อาจจะมีหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นสิ่งดึงดูดในสัมผัสแรก แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวดูเหมือนจะยังค้นหาไม่เจอ หรือเจอแล้วแต่ก็ยังเหมือนกับว่าจะไม่ลงตัวเสียทีก็คือ "ทางของตัวเอง" ส่งผลให้ภาพยามทำหน้าที่ของเขาแม้จะมีความพยายามแต่ก็เหมือนเป็นการแสดง ยิ่งทำหน้าจริงจังทำเสียงเน้นๆ ซึ่งเข้าใจว่าเจตนาคือให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ที่ออกมามันกลับดูเหมือนปั้นแต่งไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

นอกจากจะดูผิดที่แล้ว การแสดงความเห็นของเจ้าตัวก็ดูจะผิดเวลาอยู่บ่อยๆ ทั้งกรณีการแสดงความเห็นถึงเจ้าของคาเฟ่แห่งหนึ่งที่พูดถึงสาว "ลิซ่า BLACKPINK" ในลักษณะคุกคามทางเพศโดยระบุทำนองว่า "เป็นประโยคที่คุยกันในหมู่ผู้ชาย" ซึ่งทำแฟนคลับไอดอลสาวชาวไทยไม่พอใจมากจนต้องออกมาขอโทษ

หรือจะเป็นล่าสุดกับกรณีที่เขามีอาการหลุดขำระหว่างอ่านข่าวชายถูกทำร้ายร่างกายด้วยเหตุว่าเพราะชายคนดังกล่าวมีชื่อเล่นเหมือนนายกฯ ซึ่งก็ทำเอาเจ้าตัวถูกวิจารณ์ไปไม่น้อย

หลายคนอาจจะมองว่าจริงๆ แล้วเขามีดีไม่น้อยแต่เพราะถูกเอาไปเปรียบเทียบกับรุ่นใหญ่อย่าง "สรยุทธ" คำถามก็คือแล้วตอนที่เจ้าตัวมีโอกาสได้โชว์ศักยภาพในส่วนของตนเอง รวมถึงช่วงที่นักข่าวรุ่นใหญ่ไม่อยู่ล่ะผลงานเป็นอย่างไร?

คำถามดังกล่าวหากไปอ่านที่ผู้ประกาศหญิง "ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ" ใด้โพสต์ถึงความรู้สึกที่เธอได้กลับมาทำหน้าที่คู่กับ "พี่ยุทธ" สรยุทธ สุทัศนะจินดา อีกครั้งหลังทำหน้าที่ร่วมกับเขามาช่วงหนึ่งก็น่าจะพอเป็นคำตอบที่เห็นภาพได้รางๆ

โดยผู้ประกาศหญิงได้เริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า..."ได้กลับมานั่งอ่านข่าวข้างๆ พี่ยุทธอีกครั้งในรอบ 5 ปี ..ดีใจแค่ไหนไบรท์คงบรรยายไม่หมด แต่ที่แน่ๆ ความเครียดและความกดดันที่เคยมีได้ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจเรียบร้อยแล้วค่ะ"

ขณะที่สองประโยคสุดท้ายเธอระบุว่า..."พูดง่ายๆก็คือ สิ่งที่ไบรท์ทำช่วงที่พี่ยุทธไม่อยู่ เหมือนสอบข้อเขียน ที่ใช้ตัวเองล้วนๆ ตัวช่วยไม่มี แถมยังต้องลุ้นอีกว่า จะได้คะแนนดีมั๊ย (จับประเด็นได้ครบถ้วนถูกต้องรึเปล่า)"

"ส่วนวิธีทำงานแบบไม่มีรันดาวน์ของพี่ยุทธ แม้จะยากในการกวาดตาหาข้อมูลมากมายที่ได้อ่านไว้แล้ว และการต้องมีสมาธิที่ดีมากๆ แต่แบบนี้แทบไม่ต้องลุ้นเลย เพราะมีพี่ยุทธคอยนำประเด็นให้ ยังไงก็มั่นใจ ได้คะแนนดีแน่นอนค่ะ"

แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้ประกาศหญิงโพสต์นั้นเป็นการบรรยายถึงความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปเปรียบเทียบว่าทำงานกับใครเป็นอย่างไรเลย แต่กระนั้นมันก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าถ้าเพื่อนร่วมงานที่ทำงานกับเรามาหลายปีเรามาโพสต์แบบนี้บ้างหลังจากเปลี่ยนไปทำงานกับคนอื่นแค่วันเดียว เป็นเราจะรู้สึกอย่างไร?

อย่างไรก็ตาม กับวัยเริ่มเข้าหลักสี่สำหรับคนข่าวเองต้องถือว่าไม่ได้มากจนเกินไปที่จะไม่สามารถพัฒนาได้อีก ยิ่งตัวเองมีศักยภาพอยู่ แถมได้เรียนรู้กับคนเก่งๆ มีโอกาสบ่อยๆ เชื่อว่าอย่างไรเสีย "ไก่ ภาษิต" เองก็น่าจะกลายเป็นคนข่าวที่ได้รับการยอมรับมากกว่านี้

อย่างน้อยๆ ถ้าต้องไปจับคู่กับใครก็คงจะไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกหนักใจแต่อย่างใด...(ที่มา : ซีทรูวิจารณ์)



กำลังโหลดความคิดเห็น