“เคน ภูภูมิ” สารภาพเป็นผู้ชายโง่ๆ ไม่รู้ “เอสเธอร์” งอนแรง ไม่มีเวลาเล่นด้วย ทยอยลบรูปคู่เกือบหมด งงเพิ่งไปดูต้นไม้ด้วยกันมา สงสัยเป็นคลื่นใต้น้ำ แต่เข้าใจกันแล้ว ไม่เลิก เผยร้านอาหารเริ่มปรับตัวกับการส่งเดลิเวอรี่ แต่ต้องทำใจยอดตกไปมากกว่า 50% ส่วนร้านกาแฟกลับมาเปิดปกติ มีเพียงพนักงานบางส่วนที่ยังกักตัว
ถูกจับตามองหนักมากว่าเป็นคู่รักส่อเลิกหรือเปล่า หลังฝ่ายสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา”ลบรูปคู่ในอินสตาแกรมทิ้งเกือบหมด ล่าสุด “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” ได้เปิดใจถึงประเด็นนี้ ยอมรับตนเป็นผู้ชายโง่ๆ ขนาดแฟนสาวลบรูปไปเกือบหมดตนยังไม่รู้เรื่องเลยจนกระทั่งข่าวออก
“เรื่องรูปคือไม่ได้ลบครับ เขาแค่ซ่อนไว้ มันอาจจะเกิดจากการที่ผมอยู่สวนต้นไม้เยอะเกินไป (หัวเราะ) ไม่ถึงกับงอนหรอก แต่ผมอาจจะไม่มีเวลาเล่นกับเขามาก แค่นั้นเลย ไม่มีอะไรครับ (หัวเราะ) ก็เคลียร์กันหมดแล้วครับ ผมก็ไม่รู้ด้วย เพิ่งรู้วันเดียวกับที่ออกข่าว สัญญาณเตือนหมือนจะมีนิดนึงแต่ก็ไม่ได้ไปโฟกัสมากคิดว่าช่วงนี้เหนื่อยๆ เรื่องนั่นนี่หรือเปล่า ผมเป็นผู้ชายโง่ๆ น่ะครับ (หัวเราะ)
เขาก็มีตัดพ้อบ้าง แต่เขาก็เข้าใจแหละครับ คุยกันแล้ว ไม่มีอะไร คู่เราก็มีงอนกันปกติครับ แต่แค่ครั้งนี้เขาบอกว่าเขาก็ทยอยลบทีละรูปนะ เขาก็ถามว่าได้ดูไอจีบ้างหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ค่อยได้ดูเลย เปิดแต่ไอจีต้นไม้ (หัวเราะ) ก็รู้สึกว่าคราวนี้งอนแรงครับ เขาบอกไม่ได้ลบทีเดียวนะ ค่อยๆ ลบทีละรูป ไม่รู้จะสังเกตหรือเปล่า สุดท้ายเกือบหมด ผมก็ไม่รู้อยู่ดี (หัวเราะ)ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะรู้ว่าน้องก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ผมเองก็ไม่ได้อะไรครับ”
บอกต้องจัดเวลากันใหม่ แต่คุยกันเข้าใจดีแล้ว
“ก็คุยกันครับ ไม่ได้ง้ออะไรมากมาย ก็คุยกันว่าต่อไปจะบาลานซ์เวลาใหม่ จะเล่นกับน้องให้มากขึ้น ไม่มีถึงขั้นมาบอกเลิกครับ ชิลๆ ครับ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องจัดตารางชีวิตใหม่ครับ แค่คุยกันมากขึ้น น้องก็ไม่ได้มาขอว่าต้องอยู่ด้วยกันกี่วันนะครับ ไม่มีครับ เขาบอกว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิม เขาเข้าใจแล้ว ไม่ถึงกับบอกว่าต้องเลือกระหว่างน้องกับต้นไม้ครับ (หัวเราะ)ช่วงนั้นเขาอาจจะยังทำความเข้าใจกับตัวเองไม่ได้ แต่ตอนนี้คือทำความเข้าใจได้แล้ว
จริงๆ ผมก็งงนะ เพราะยังไปดูต้นไม้ด้วยกันอยู่เลย แล้วอยู่ๆ อ้าว อะไรวะ (หัวเราะ) คงเป็นคลื่นใต้น้ำครับ แต่เขาก็เข้าใจแล้ว ผมก็เข้าใจแล้ว ก็จบไม่มีอะไร ก็เลยไปเล่นติ๊กต๊อกด้วยกันแทน เขาชวนผมหลายรอบแล้วแหละ แต่ผมเต้นไม่เป็น อาจจะเป็นเพราะเขาชวนผมเล่น ผมก็ไม่ค่อยเล่น ผมชวนเขาเล่น เขาก็ไม่ค่อยเล่นอะไรแบบนี้ อาจจะชวนเล่นกันไม่ค่อยถูกจังหวะ
ถามว่าพาไปเที่ยวสวนไหม คือช่วงนี้มันร้อนครับ ผมไปคนเดียวก็แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว ก็สงสารเขา บางทีเขาก็ดูสวนที่บ้านบ้าง สวนที่ผมทำไว้ที่ไม่ใช่ขนาดใหญ่ครับ ถ้าไปสวนใหญ่คือผมไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้ว ก็จะยิ่งไม่มีเวลาอีกหนักกว่าเดิม แต่จริงๆ เขาเข้าใจแล้ว ไม่มีอะไรครับ แต่เขาจะเอารูปกลับมาเมื่อไหร่ผมก็ไม่ได้ถามเลยครับ ผมไม่ได้ซีเรียส จะคืนหรือไม่คืนก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเขาก็คืนครับ”
เผยฟีดแบ็กละครเรื่อง มายาเสน่หา ดีมาก เป็นเรื่องส่งท้ายกับช่อง 3 ด้วย
“ช่วงที่ผ่านมาก็โอเคนะครับ เพราะว่าละครเพิ่งจบไป กระแสตอบรับค่อนข้างดีเลย ก็ดีใจครับ เพราะว่าเรื่องนี้ทุกคนก็สนุกกับการถ่ายทำ สนุกกับละครเรื่องนี้มากๆ อยู่แล้ว ก็ดีใจครับ ก็เป็นเรื่องทิ้งทวนก่อนหมดสัญญาช่อง 3 ครับ ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระก็ยังไม่ต้องเตรียมตัวอะไรครับ ก็มีละคร 1 เรื่องที่ใกล้จะเปิดกล้องแล้วแต่มาติดโควิดก่อนก็เลยยังไม่ได้เปิดครับ ยังไม่ได้เปิดตัวด้วย แต่เพิ่งฟิตติ้งไปครับ เป็นละครของช่องวัน ได้ประกบนางเอกเบอร์ใหญ่ของช่องวันที่ทุกคนได้เห็นละครของเขาบ่อยๆ ครับ ก็คือเล่นกับวิว (วรรณรท สนธิไชย) ครับ”
บอกร้านอาหารตอนนี้พอปรับเป็นเดลิเวอรี่กระแสตอบรับก็ดีขึ้น
“เรื่องร้านก็คือตอนนี้ไม่ให้นั่งทานในร้าน เราก็มาลุยเดลิเวอรี่ แต่ครั้งนี้รู้สึกว่ามีการตอบรับดีกว่าครั้งแรก เพราะครั้งแรกคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักร้าน และเราก็มีการส่งมากขึ้น เอาคนของตัวเองส่งด้วยนอกจากจะเป็นเดลิเวอรี่ตามแอปฯ ต่างๆ ก็มีคนของเราด้วยครับ ครั้งนี้ก็รู้สึกว่าดีกว่าเดิมนิดนึง แต่มันก็ไม่ดีเหมือนเปิดร้านปกติหรอกเนอะ ก็ต้องสู้กันไปครับ ผมก็มีช่วยโปรโมตครับ แต่เรื่องร้านจะเป็นคิมมี่กับเอสที่ดูแลมากกว่า ส่วนผมจะแยกตัวออกมาทำต้นไม้ซะเยอะกว่าครับช่วงนี้
ถามว่ายอดตกไปเยอะไหม ผมว่าน่าจะเกิน 50% ครับ ผมว่าก็น่าจะเป็นทุกๆ ร้าน ก็ต้องต่อสู้กันไปครับ รอดูว่าอีกสัก 2-3 เดือนข้างหน้าจะเป็นยังไง ในส่วนของพนักงานทุกคนยังทำงานอยู่เหมือนเดิมครับร้านที่มีคนติดโควิดคือร้านกาแฟครับ และเราก็ให้พนักงานในร้านไปตรวจหมดแล้ว ก็ไม่มีอะไร เพราะเหมือนเขามาซื้อเทกอเวย์ออกไป ร้านเราก็มีฉากกั้น ดูแลปลอดภัย พนักงานก็ไม่น่าจะสัมผัส แต่เราก็ให้ไปตรวจเพื่อความชัวร์ และสั่งกักตัว 14 วันรอดูอาการอีกที ตอนนี้ก็ใกล้ครบแล้วครับ ก็ยังไม่มีอะไรครับ
รอบนี้ผมว่าเราปรับตัวได้ดีขึ้นนิดนึง นิดเดียว แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ครับ แต่ตอนนี้ร้านกาแฟก็เปิดปกตินะครับ เพราะว่ามีพนักงานที่เขาไม่ได้เข้าวันเดียวกันอยู่ ก็สลับกักกันไปครับ แล้วก็มีพาร์ตไทม์ที่ไม่ได้เข้าวันนั้นด้วยครับ ถามว่าเครียดไหม ตอนแรกก็ตกใจนะครับ แต่เราก็พยายามทำตามรูปแบบให้มากที่สุด ทำความสะอาดร้าน ให้ไปตรวจ ให้กักตัว และตอนนี้ยิ่งนั่งในร้านไม่ได้ด้วยก็คิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ ไม่ต้องมีคนมาเสี่ยงด้วย ก็เดลิเวอรี่กันไปครับ”
