“แพท” เปิดใจรู้สึกเป็นเกียรติมาก กรมราชทัณฑ์ยกเป็นโมเดล แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านสื่อฯ ร่วมกับ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ถ่ายทอดชีวิตผู้ต้องขังก่อนและหลังพ้นโทษ เชื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกคน พร้อมเผยถึงสิ่งที่เพื่อนผู้ต้องขังฝากฝังมาซึ่งเป็นสิ่งที่ตนไม่เคยลืม สุดภูมิใจรับหน้าที่แต่งเพลง “พลัง” ให้กำลังใจแพทย์-พยาบาลสู้โควิด 19
เรียกว่าเป็นคนที่ล้างภาพเก่าๆ ของนักโทษไปอย่างสิ้นเชิง สำหรับภาพลักษณ์ของ “แพท วรยศ บุญทองนุ่ม” ที่ปรากฏต่อสายตาของผู้คนหลังจากที่เจ้าตัวพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ โดยเฉพาะการที่แพทเป็นคนมีทัศนคติที่ดี นิ่งสุขุม สุภาพ รวมไปถึงการพูดจาที่ฉลาดน่าฟัง อีกทั้งช่วงเวลาที่แพทอยู่ในเรือนจำเจ้าตัวไม่เคยปล่อยให้วันเวลาสูญเปล่า มุ่งมั่นเรียนจนจบปริญญาตรี พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาทั้งด้านศิลปะและดนตรี จนสามารถวาดรูปเก่งฝีมือระดับมืออาชีพ แต่งเพลงไว้เกือบร้อยเพลง ซึ่งหนึ่งในเพลงที่เจ้าตัวแต่งตอนอยู่ข้างใน ก็คือเพลง “ต้องคำสาป” ที่แพทนำมาทำเป็นซิงเกิลแรกกับเพื่อนๆ วงพาวเวอร์แพท ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี มียอดวิวสูงถึง 13 ล้านวิว
4 เดือนเต็มที่ได้รับอิสรภาพ แพทกลายเป็นหนุ่มฮอตที่คิวงานแน่นไม่มีแผ่ว สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนชื่นชมและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แพทได้ทำให้สังคมมองผู้ต้องขังเปลี่ยนไป แม้จะเคยทำผิดพลาดแต่หากตั้งใจที่จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี สังคมก็พร้อมให้โอกาสเสมอ ซึ่งแพทได้กลายเป็นโมเดลของผู้ต้องขังที่สามารถกลับมาเป็นคนคุณภาพได้
ล่าสุดแพทได้รับแต่งตั้งจากกรมราชทัณฑ์ให้เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานด้านสื่อประชาสัมพันธ์ ด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ร่วมกับผู้ประกาศข่าวชื่อดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ต้องขังในการเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษและติดตามชีวิตหลังพ้นโทษ โดยแพทเผยว่ารู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจ ที่สามารถเป็นแบบอย่างให้คนที่เคยทำผิดมีกำลังใจเริ่มต้นชีวิตใหม่
“รู้สึกยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ทางกรมราชทัณฑ์ได้ไว้วางใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานในการผลิตสื่อด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังด้วย ซึ่งทราบมาว่าทางกรมราชทัณฑ์จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตสื่อให้แก่ผู้ต้องขังด้วย ซึ่งก็ได้นึกถึงตัวผม และได้มาชักชวนผมเข้าไปอยู่ในคณะทำงานด้วย ก็รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจอย่างมากครับ”
“ผมก็จะนำความรู้ความสามารถและไอเดียต่างๆ ไปเสนอกับทางกรมราชทัณฑ์ในการผลิตสื่อให้ตรงกับความต้องการ หรือว่าผลิตสื่อให้มีประโยชน์มากที่สุดในการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังด้วยครับ ก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ซึ่งเรากำลังพูดคุยกับทางกรมราชทัณฑ์อยู่ อาจจะมีการผลิตรายการหรือคอนเทนต์อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขังและเป็นการสื่อสารระหว่างคนภายนอกให้เห็นถึงเรื่องราวและชีวิตอีกแง่มุมนึงของผู้ต้องขังด้วยครับ”
หน้าที่หลักคือการเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขัง เป็นผู้ดำเนินรายการทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวหลายๆ แง่มุมให้สังคมได้รับรู้ ลั่นไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเพราะตนเข้าใจคนข้างในเป็นอย่างดี
“ผมจะเป็นที่ปรึกษาในการผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ที่ทางกรมราชทัณฑ์จะผลิตขึ้นมา และอาจจะมีในบทบาทของผู้ดำเนินรายการที่จะนำพาท่านผู้ชมไปดูกิจกรรมหรือการงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังในการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังซึ่งจะมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายคอนเทนต์แตกต่างกันไป ก็ต้องรอติดตามกันดูว่าจะมีรูปแบบไหนบ้างครับ”
“ผมคิดว่ารูปแบบรายการนี้มันสามารถพลิกแพลงไปได้หลายมิติ และเรื่องราวชีวิตผู้ต้องขังก็มีหลากหลายมุม มีทั้งเรื่องราวที่เขากำลังจะพ้นโทษ และมีทั้งเรื่องราววันเวลาที่เขาพ้นโทษออกมาจากเรือนจำแล้วได้มาใช้ชีวิตในสังคมปกติ มาประกอบอาชีพที่สุจริต ผมว่ามีหลากหลายแง่มุม หลากหลายชีวิตของผู้ต้องขังในแต่ละบุคคลให้ได้ศึกษา และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมากครับ”
“ผมว่าผมไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เพราะว่าผมใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ คลุกคลีอยู่กับเพื่อนผู้ต้องขังมาอย่างยาวนานมาก พอออกมาก็มาใช้ชีวิตกับสังคมปัจจุบัน และมาประกอบอาชีพในเส้นทางที่ตัวเองถนัด ผมคิดว่าประสบการณ์ชีวิตของผมที่ผ่านมา 16 ปี เกือบ 20 ปี น่าจะมีเกร็ดความรู้หรือมีไอเดียอะไรไม่มากก็น้อย ในการที่จะนำไปประยุกต์ทำงานชิ้นนี้ร่วมกันในครั้งนี้ของทางกรมราชทัณฑ์และผมครับ”
สิ่งที่นำเสนอออกไป แพทหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ต้องขังและสังคม
“ผมหวังว่าจะให้สังคมได้มองเห็นชีวิตของผู้ต้องขังในอีกด้าน อีกมุม ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยทราบ หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยเห็น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์มองเห็นจึงได้ชักชวนผมให้เข้ามาร่วมในโปรเจกต์นี้ด้วย ก็หวังว่าสื่อที่ผลิตออกไปในอนาคตนี้จะมีประโยชน์ทั้งกับตัวผู้ต้องขังเอง และทั้งกับสังคมที่จะมองกลับมากับอีกแง่มุมนึงของชีวิตผู้ต้องขังด้วยครับ (ในหน้าที่นี้ นอกจากแพทแล้วก็จะมีคุณสรยุทธด้วย ถ้ามีโอกาสจะขอคำแนะนำหรือปรึกษาอะไรมั้ย?) คุณสรยุทธเป็นผู้ประกาศข่าวอาวุโสที่มีความสามารถมาก ผมว่าคุณสรยุทธคงมีไอเดียหรือมีแนวคิดอะไรต่างๆ ที่มืออาชีพมากๆ อยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสก็ต้องสอบถามอยู่แล้วครับ”
เผยมีงานที่เกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์ติดต่อเข้ามาไม่ขาดสาย
“ค่อนข้างเยอะครับ โดยเฉพาะงานของกรมราชทัณฑ์ผมก็มีโอกาสได้ไปร่วมงานเรื่อยๆ ครับ ล่าสุดก็เกี่ยวกับร้านวันสุข (Wansook ร้านค้าขายผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขัง) ที่ได้เห็นกันไปครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากและยินดีมากที่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านมองเห็นศักยภาพเรา มองเห็นสิ่งที่เราสามารถเป็นแบบอย่าง หรือเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆ ของพี่น้องผู้ต้องขังได้ ซึ่งผมว่ามันน่าจะเกิดประโยชน์กับสังคมไทยเราไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ ก็เป็นความตั้งใจที่จะทำไปตลอดครับ แต่ก็ต้องดูโอกาส ดูเวลา ดูช่วงจังหวะที่เหมาะสมด้วยครับ”
แม้จะได้รับอิสรภาพออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ 4 เดือนแล้ว แต่แพทไม่เคยลืมคำพูดที่ผู้ต้องขังพูดกับตนเองก่อนออกมาว่า “พี่อย่าทำให้พวกผมผิดหวังนะ”
“คิดตลอดครับ จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า ชีวิตเราจะไม่กลับไปเดินเส้นทางเดิมอีกแล้วอย่างเด็ดขาดแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วที่พี่ๆ น้องๆ ฝากความหวังว่าอย่าทำให้ผิดหวัง มันก็เป็นสิ่งที่เป็นอีกหนึ่งข้อคิด ข้อเตือนใจเราไม่ให้เผลอเรอไป แต่จริงๆ มันก็เป็นความตั้งใจหลักของเราอยู่แล้ว เพราะว่าชีวิตที่ผ่านมาเป็นข้อคิดและเป็นบทเรียนให้เราได้ตระหนักเยอะแยะมากมาย เพราะฉะนั้นเราจะไม่กระทำผิดซ้ำอย่างแน่นอนครับ”
“ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่ที่หลายๆ องค์ประกอบด้วยครับ หลักๆ ต้องขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองด้วย ถ้าเราพิสูจน์และทำให้สังคมเห็นได้ว่าเราได้มีการปรับเปลี่ยน เราได้พัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ได้เป็นคนใหม่แล้วจริงๆ สังคมย่อมให้โอกาสเสมอ และคิดว่าน่าจะเป็นตัวอย่างและเป็นแบบอย่างให้กับผู้ต้องขังด้านในให้มั่นใจได้เลยว่า ถ้าเราปรับเปลี่ยนตัวเองแล้วสังคมก็พร้อมจะให้โอกาสจริงๆ ครับ”
รู้สึกภูมิใจที่ได้รับหน้าที่แต่งเพลงชื่อว่า “พลัง” ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 หลัง ศบค. ติดต่อมาทางต้นสังกัด
“ทางค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้รับจดหมายขอความร่วมมือจากทางเจ้าหน้าที่ ศบค.(สำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) ว่าอยากจะให้ผมผลิตงานเพลงให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ที่กำลังทำงานหนักในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับโควิดอยู่ในขณะนี้ พอผมทราบก็ไม่ลังเลที่จะทำเลยครับ และได้เขียนเพลงขึ้นมาภายในระยะเวลาไม่น่าจะเกิน 2-3 ชั่วโมง ชื่อเพลงว่า พลัง น่าจะได้ฟังกันเร็วๆ นี้ เนื้อหาเพลงที่ผมเขียนสามารถแปลเปลี่ยนเป็นมุมมองชีวิตด้านต่างๆ ได้ในการให้กำลังใจคนที่กำลังทำงานหนักอยู่ ไม่ให้ท้อแท้ ให้สู้ต่อไป เป็นเพลงที่มีพลังบวก มีแต่ความรู้สึกบวกๆ อยู่ในนั้น ก็ติดตามฟังได้เร็วๆ นี้ครับ”
“ส่วนแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้ จริงๆ เพลงลักษณะนี้ผมเคยฝึกเขียนตั้งแต่อยู่ในเรือนจำแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับผมเท่าไหร่ ก็ได้มีการฝึกฝนมาเป็นระยะสำหรับเพลงที่ให้กำลังใจ หรือเพลงที่ใช้ในงานลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว เหมือนกับเราได้ฝึกฝนทักษะมาบ้างพอสมควร เวลาทำงานก็เลยไม่ใช้เวลานานมาก ตรงนี้เสร็จออกมาเป็นที่น่าพอใจ และเราก็ได้ส่งให้พี่เท็ดดี้และสมาชิกในวง รวมถึงค่ายข้าวสารฯฟังแล้ว ทุกคนโอเค น่าจะได้ฟังเร็วๆ นี้ จะพยายามทำออกมาให้เร็วที่สุดครับ”
