xs
xsm
sm
md
lg

“บิณฑ์-เอกพันธ์” ส่งมอบเครื่องเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่ให้กทม. เข็ดเปิดรับบริจาค แต่ถ้าอยากช่วยให้อินบ็อกซ์ เตรียมเคาะบ้านแจก 500

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิณฑ์-เอกพันธ์” สมทบทุน “มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่” 2 ล้าน ซื้อเครื่องเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่ พร้อมสิ่งของจำเป็น มอบให้ผู้ว่าฯ กทม. ส่งรพ.สนามช่วยโควิด ยันเข็ดไม่เปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว แต่ถ้าใครอยากช่วยให้อินบ็อกซ์มา ห่วงคนลำบาก ไม่มีกิน เตรียมลงพื้นที่แจกเงิน 500 แจกไข่ไก่แท็กซี่-วินมอไซค์ คนละ 100 ฟอง ข้าวสาร 15 ตัน ลั่นได้เงินค่าตัว 5 ล้านจะแจกให้หมด วอนคนมีอันจะกินไม่เดือดร้อน ออกมาช่วยคนไทย

เมื่อช่วงสายของวันนี้ (28 เม.ย.) แฝดใจบุญ ฉายา “เทวดาเดินดิน” อย่าง “บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” เดินทางเข้าพบผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พร้อมมอบเครื่องเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่ ราคา 2,000,000 บาท ซึ่งเป็นการสมทบทุนจาก “มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่”จำนวน 1 ล้านบาท และควักเงินส่วนตัวไปอีก 1 ล้านบาท โดยเครื่องนี้จะถูกจัดส่งไปที่โรงพยาบาลสนามกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เขตบางบอน ทั้งนี้ยังได้มอบพัดลมอุตสาหกรรม 18 นิ้ว จำนวน 30 ตัว, ตู้น้ำร้อน-เย็นแบบถังคว่ำ พร้อมขาตั้งและขวดใส 30 เครื่อง, ชุดที่นอน-ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปลอกที่นอน จำนวน 250 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย Covid-19 รวมมูลค่า 309,260 บาท ให้แก่สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

โดยทั้งคู่เปิดใจว่าตอนนี้งดเปิดรับบริจาค ด้วยการเปิดบัญชี เพราะหวั่นจะมีดรามาเหมือนคราวก่อน แต่ถ้าใครสนใจจะร่วมน้ำใจให้อินบ็อกซ์มาหาตนเองได้เลย หรือจะติดต่อผ่านมูลนิธิร่วมกตัญญู เพราะตั้งเป้าจะนำเงินจากน้ำใจของทุกคนไปซื้อเครื่องเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่ เครื่องที่ 2 รวมไปถึงเตรียมเอาเงิน 1 ล้านบาทจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเครื่องดื่มชูกำลัง นำไปเดินแจกตามบ้านครอบครัวละ 500 บาท ในวันเสาร์-อาทิตย์ นี้เหมือนที่เคยทำมา และทางตนเองได้เตรียมทำเสื้อขาย เพื่อจะหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจากโควิด

เอกพันธ์ : “วันนี้มาบริจาคเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ครับ อย่างที่ท่านผู้ว่าฯ บอกนะครับ ว่าราคามันแพง แล้วกว่าจะจัดหางบประมาณซื้อเนี่ย อีกนานมาก แต่วันนี้ก็ยังมีผู้ที่ใจบุญ อยากจะให้โครงการนี้สำเร็จไปด้วยดี เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทย”

บิณฑ์ : “จริงๆ แล้วมันก็เป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะผู้ป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลสนามเนี่ยเป็นพันคน เพราะฉะนั้น 2 วันต่อ 1 ครั้ง เขาต้องเอกซเรย์ปอด จะให้เขาไปที่โรงพยาบาลสนามมันไม่ได้ มันต้องอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม แล้วต้องใช้เครื่องเอกซเรย์จากโรงพยาบาลใหญ่ เข้ามาที่โรงพยาบาลสนาม เพราะที่โรงพยาบาลใหญ่ เขาก็ต้องใช้ของเขาอยู่แล้ว

ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามที่สร้างขึ้นมาเนี่ย จะไม่มีเครื่องนี้ใช้ เพราะคนที่ป่วยเป็นโควิดเนี่ย เขาต้องเอกซเรย์ปอดทุก 2 วัน ว่าปอดเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหมจากการที่มาวันแรก อะไรประมาณนี้ครับ คือไม่ต้องเอาเครื่องเอกซเรย์จากโรงพยาบาลใหญ่มา แต่ใช้เครื่องนี้ในโรงพยาบาลสนามเลย”

เผยผู้ว่าฯ ขออีก 1 เครื่อง เพราะคนเป็นพัน เครื่องเดียวคงไม่ทัน เลยรับปากจะพยายามจะหามาให้ได้ 2 พ.ค.นี้เดี๋ยวรู้กัน ว่าจะได้อีกกี่เครื่อง
บิณฑ์ : “เมื่อกี้ท่านผู้ว่าฯ บอกว่าขออีกสักเครื่องได้ไหม เพราะว่ามันจำเป็นจริงๆ ถ้าใช้เครื่องเดียวมันไม่ทัน คนตั้งเป็นพันคน กว่าจะเอกซเรย์ กว่าจะย้ายไปโน่นไปนี่ ขออีกสักเครื่องหนึ่ง ผมก็รับปากว่าจะพยายามหาอีกเครื่องหนึ่งมาให้ได้ ไม่ว่าจะหน่วยงานไหน หรือใครจะบริจาคเข้ามา บอกผมได้เลย เครื่องหนึ่งตกประมาณ 2 ล้าน แต่ถ้าซื้อเยอะ ก็อาจจะเหลือสัก 1,700,000 - 1,800,000 ผมก็พยายามที่จะหามา เดี๋ยววันที่ 2 พ.ค. จะรู้ครับ ว่าผมจะซื้อได้กี่เครื่อง”

ตอนนี้ควักเงินตัวเองมา 1 ล้านแล้ว ถ้าหาไม่พอจริงๆ คงต้องไปขอร้องผู้มีอันจะกินมาช่วยกัน
บิณฑ์ : “ตอนนี้มังกรฟ้าให้มา 1 ล้าน ผมก็ต้องควักของผม 1 ล้าน แล้วคอมมานโด (ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง) เขาให้ผมมา 1 ล้าน แต่ที่ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์เนี่ยมันปีละ 5 ล้าน เขาให้ผมมา 1 ล้านก่อน ผมก็เลยเอาเงินล้านนี้มอบให้กับพี่น้องประชาชนก่อน แล้วก็ต้องดูก่อนว่า ถ้ามันไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพิ่มขึ้นๆ ผมก็ต้องพยายามที่จะหาเงินตัวนี้ให้ได้ อาจจะต้องไปขอร้องผู้ที่มีอันจะกินทั้งหลายมาช่วยกัน”

ถ้าอยากจะร่วมบริจาคช่วยเหลือ ติดต่อมาได้เลยที่มูลนิธิร่วมกตัญญู หรือที่เพจของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ หรือแจ้งที่สื่อก็ได้ จะเข้าไปรับถึงที่ ไม่อยากเปิดบัญชีอีกแล้ว เหนื่อยใจดรามา
บิณฑ์ : “ก็ติดต่อทางมูลนิธิร่วมกตัญญูได้เลยนะครับ ก็บอกว่าจะบริจาคช่วยเหลือเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ ผมก็จะไปรับ แต่เราจะไม่เปิดบัญชีเรี่ยไรหรือบริจาค ไม่เอาแล้ว เพราะมันให้รู้สึกว่าเราเหนื่อยใจ สิ่งที่ดีๆ แต่มีคนพูดอย่างงั้นอย่างงี้ เรามีความรู้สึกว่าเฮ้ย...ทำไปทำไม เพื่ออะไร เอาเป็นว่าใครอยากให้ผม บอกผมเลย จะไม่เปิดบัญชีแน่นอนครับ”

เอกพันธ์ : “มันเหมือนกับว่าพอวิกฤตครั้งหนึ่ง เราก็จะเปิดขอเงิน เพื่อจะให้คนมาบริจาค แต่เดี๋ยวนี้เราไม่เอาแล้ว เพราะว่ามันมีรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก แต่ทีนี้ ที่คุณบิณฑ์บอกนะครับ ถ้าใครร่วมบริจาค ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน บอกคุณบิณฑ์ บอกผม ผมทางมูลนิธิร่วมกตัญญู หรือบอกที่สื่อก็ได้ ให้ผมไปรับผมกับคุณบิณฑ์จะไปรับถึงที่เลย ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ได้ร่วมบริจาค เท่าไหร่เราก็ไป แต่ขอให้มาทางนี้ดีกว่า เราจะไม่เปิดรับครับ แจ้งมาได้โดนตรงเลย ที่หน้าเพจคุณบิณฑ์ก็ได้”

บิณฑ์ : “แต่ตอนนี้ก็ผมพยายามที่จะหาเงิน ผมก็ทำเสื้อออกมา เป็นเสื้อบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ด้านหน้าเสื้อก็จะเป็นที่ผมไปช่วยเหลือมา คนเจ็บคนป่วย หรือน้ำท่วม ก็จะเอาตรงนั้นมาเป็นประวัติตรงด้านหน้าเสื้อ ทำออกมาจำหน่ายตัวละ 200 บาท ผมจะได้ตัวละ 50 บาท ใครอยากจะช่วยเหลือผมโดยทางตรงและทางอ้อม ก็สั่งซื้อเสื้อผมได้ ถ้าคุณสั่งผมสัก 1 ล้านตัว ผมจะได้ 50 ล้านบาท เพราะฉะนั้นตรงนี้จะได้มากมาย ตอนนี้ผมทำมาก่อนคร่าวๆ 5 พันตัว เดี๋ยวผมจะไลฟ์สดให้ดูอีกที ก็โอนเงินเข้าบัญชีผมได้เลย แล้วผมก็จะส่งเสื้อไป

ถามว่าเราจะช่วยไปในระยะเวลาเท่าไหร่ เราไม่สามารถบอกได้ แต่เราจะช่วยไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์มันคลี่คลาย จนกว่าทุกอย่างจะกลับมาเกือบปกติ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมว่า ณ เวลานี้น่าจะยาว ยาวกว่าครั้งที่แล้ว ผู้ที่เดือดร้อนก็คือชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ แล้วก็จะมีอีกเจ้าหนึ่ง ที่ติดต่อมาจะมอบไข่ไก่ให้ 1 ล้านฟอง ข้าวสารอีกประมาณ 15 ตัน ผมกำลังรออยู่ เดี๋ยวจะเอาไปให้พ่อแม่พี่น้องแท็กซี่ กับวินมอเตอร์ไซค์ เอาไปเลยคนละร้อยฟอง อันนี้ก็จะประมาณต้นๆ เดือนพ.ค.นี้

ส่วนที่จะเดินไปแจกตามบ้าน ก็เสาร์-อาทิตย์นี้ครับ รับรองว่ามาตรการสำหรับเราปลอดภัยทั้งตัวเราแล้วก็ชาวบ้านด้วย เพราะฉะนั้นผมก็ไม่สามารถที่จะอยู่เฉยๆ ได้ พัฒนาชุมชนโทร.มา ว่าไม่มีอะไรกินแล้ว ทุกคนก็ไม่กล้าออกไปไหน ทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องเรี่ยไรข้าวสารไปแบ่งกัน เราถือว่าอันนี้มันลำบากและวิกฤตมาก

และเรื่องโครงการที่จะไปช่วยสัตว์ ช่วยช้าง ก็อยู่ที่มังกรฟ้า เขาบอกว่าจะให้งวดละ 1 ล้านบาท เดี๋ยววันที่ 2 ล็อตเตอรี่ออก แล้ววันที่ 4-6 ก็จะไปเอากับเขาอีก 1 ล้าน อันนั้นเราจะไปช่วยเหลือสัตว์ แล้ววันที่ 16 พ.ค. อีก 1 ล้าน อันนี้เรามีโครงการอยู่แล้ว ว่าเราจะช่วยได้ตลอด ถ้ามังกรฟ้าเขาทำตามที่เขาพูดจริง เราก็สามารถที่จะช่วยสัตว์ได้เลย”

ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์คอมมานโด 5 ล้าน จะบริจาคหมดเลย
บิณฑ์ : “บริจาคหมดเลย ผมไม่เอาเลย ครั้งที่แล้วผมได้มาเกือบ 20 ล้าน ผมเดินไปประมาณ 18 ล้าน คนบอกว่าบ้าหรือเปล่าเนี่ย ผมไม่บ้าครับ ผมจะเอาเงินเก็บไว้ในธนาคารมีประโยชน์อะไร ผมจะไปใช้อะไร สู้ให้พี่น้องประชาชนได้เป็นประโยชน์ ได้ใช้ได้กินได้อิ่มกัน”

รับกดดัน คนจะรอความหวังจะได้รับการช่วยเหลือ เห็นแล้วก็สงสาร คิดตลอดต้องทำให้พวกเขาเบาทุกข์ลงได้บ้าง ไม่มากก็น้อย พรุ่งนี้เตรียมเสิร์ฟกุ้งเผา 300 กิโล ให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโควิด ที่หนองจอกอารีน่า
เอกพันธ์ : “กดดันมาก ผมเห็นแล้วก็สงสาร ก็มีอะไรขึ้นมาในหัวทันที ว่าเราจะทำยังไงให้พวกเขาได้เบาทุกข์ลงบ้าง ไม่มากก็น้อยที่เราจะทำให้เขาสบายใจ ให้เขายิ้มได้ ก็นึกโครงการโน่นนี่ โทร.ปรึกษากันตลอด แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาจะสั่งกุ้ง 300 กิโล เอาไปเผาให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลสนาม แล้วก็ผู้ป่วยโควิดด้วย”

บิณฑ์ : “ผมดูแล้วเนี่ย อาหาร 3 มื้อ หมู ไก่ ปลา อยู่ประมาณนี้ ควรจะมีอาหารทะเลบ้าง มีกุ้งบ้าง พรุ่งนี้ 300 กิโล จะเผาแล้วก็แจกจ่ายให้กับพี่น้องที่หนองจอกอารีน่า จะเผาตั้งแต่เที่ยง แล้วก็ส่งให้กับบุคลากรทางการแพทย์ก่อน บ่าย 3-4 น่าจะเสร็จครับ”

เอกพันธ์ : “ยังไงก็ขอเชิญชวนนะครับ พ่อแม่พี่น้องทุกๆ คน หรือว่าคนที่มีอันจะกิน มีฐานะที่ร่ำรวยและไม่เดือดร้อน อยากให้ออกมาช่วยคนไทยด้วยกัน ในสถานการณ์โควิดแบบนี้ คนละไม้คนละมือ ผมคิดว่าคนไทยมีรอยยิ้มแน่นอนครับ”

บิณฑ์ : “ฝากอีกนิดเดียวครับ ถ้าใครจะมอบวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกะปิ น้ำปลา น้ำมัน ไก่ หมู อะไรก็แล้วแต่ ไปมอบให้เราได้ ที่มูลนิธิร่วมกตัญญูบางพลี หรือมูลนิธิที่สามย่านตรงหัวลำโพง หรือจะไปที่โรงพยาบาลสนาม ที่หนองจอกอารีน่า กับวัดเลา พระราม 2 ซอย 51 ไปที่นั่นได้เลย”

คาดรอบนี้คงไม่มีดรามาแล้ว
บิณฑ์ : “ไม่มีครับ ผมว่ารอบนี้ไม่มี”

เอกพันธ์ : “ผมว่าเราบริสุทธิ์ใจที่สุดแล้ว ไม่ไปรบกวนทรัพย์สมบัติใดๆ ของคนอื่นแล้วครับ”









กำลังโหลดความคิดเห็น