ร้อนแรงกันข้ามคืน สำหรับดรามาของ “น้าค่อม ชวนชื่น” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราในการย้ายโรงพยาบาล ได้เตียงเร็วเพียงแค่ชั่วข้ามคืน รวมไปถึงเหล่าคนรัก “น้าค่อม” ไม่ว่าจะเป็น “บอล เชิญยิ้ม” และ “แจ๊ส ชวนชื่น” ที่ออกมาโพสต์เหมือนจะเป็นการกดดันทีมหมอ ชาวเน็ตจึงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
งานนี้ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” บุคคลที่เคยสัมภาษณ์ “น้าค่อม” ในตอนป่วยโควิดฯ ที่ฝากไว้พร้อมวลีเด็ด “กูโอเค...สบายดีนะไอ้สัส” ขอออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวผ่าน “คลับเฮ้าส์” ยืนยันว่าการย้ายตัว “น้าค่อม” ไปรักษาตัวอีกโรงพยาบาล เป็นไปตามกลไกของระบบ ไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์หรือใช้ความเป็นดาราใดๆ พร้อมแจงหลังจาก “ดีเจวินิจ เลิศรัตนชัย” โพสต์รูปขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขรวมไปถึง “จ่าพิชิต” เผยการย้าย “น้าค่อม” ไปรักษาอีกโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือความพร้อมมากกว่านั้น เป็นไประบบการแพทย์ของประเทศไทย
“ผมก็รักแกไม่คิดว่าจะมีประเด็นนี้เกิดขึ้นกับแก ผมต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้ออกตัวแทนใครนะ แต่จะพูดในข้อเท็จจริงเท่าที่ทราบมา แต่ถ้าพูดออกไปแล้วไม่ถูกใจใครหรือว่าทำให้หลายคนไม่สบายใจในสิ่งที่พูดออกไป ต้องขอโทษด้วยนะ คืออย่าว่ากัน
จะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกให้ฟังก่อน เท่าที่ทราบเรื่องมานะ ประเด็นแรกคือน้าค่อมได้เชื้อโควิดฯ มา น้าค่อมไม่ได้รู้เรื่อง เลยไปตรวจเพราะหลายคนรอบข้างติดเชื้อ น้าค่อมไม่ได้มีอาการอะไรเลย และพอรู้ว่าตัวเองติดเชื้อก็ยังเฉยๆ แต่ด้วยตัวของน้าค่อมเองมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว 3 โรค คือโรคเบาหวาน, ความดัน, เส้นเลือดในสมองตีบ เรารู้อยู่แล้วว่าโควิดมันไม่ชอบคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
ประเด็นถัดมาน้าค่อมถูกตัวไปที่ รพ.สินแพทย์ตั้งแต่แรกเลย ผมก็ได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวของน้าค่อม ว่าเป็นไงบ้าง ก็ได้มีการโทร.สัมภาษณ์น้าค่อมในรายการโหนกระแส และก็ได้ทิ้งวลีเด็ดเอาไว้ให้ว่า โอเค กูสบายดีไอ้สัส ทุกอย่างก็ดูปกติดี วันนั้นสัมภาษณ์วันที่ 13 เม.ย. หลังจากนั้นข้ามวันไปวันเดียวก็คือวันที่ 14 เม.ย. ตัวน้าค่อมก็เข้าเครื่องเอกซเรย์ปอด ไปเจอจุดที่ปอด
คุณหมอก็สงสัยว่าจุดนี้มันคือจุดที่เกิดขึ้นก่อนติดเชื้อโควิดฯ หรือเกิดขึ้นเพราะเชื้อโควิดฯ กันแน่ สุดท้ายน้าค่อมมีอาการหายใจติดขัด มีอาการเหนื่อย จากนั้นก็ได้มีการส่งตัวไปอยู่ที่ รพ.วิภาราม จากนั้นน้าค่อมก็มีอาการหายใจไม่ได้ เหนื่อยหอบมากขึ้น โรงพยาบาลก็ให้เครื่องออกซิเจนที่จมูก และก็ให้ยาน้าค่อมเลย
ประเด็นที่มันเกิดขึ้นเพราะปอดมันอักเสบหนัก หมอก็ประเมินอาการ น้าค่อมไม่สามารถหายใจเองได้ สุดท้ายก็ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจใส่จากปากลงไปในปอด คุณหมอก็ให้นอนคว่ำหน้า และให้ยาไปเรื่อยๆ จากนั้นข้ามไปอีกวัน วันที่ออกมาพูดในรายการข่าวใส่ไข่ ตอนเช้าของเมื่อวานซืนที่ผ่านมา น้าค่อมมีสภาวะไตวายเฉียบพลัน คุณหมอโทร.หาทางครอบครัวน้าค่อม ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ขออนุญาตในการฟอกไต คุณหมอบอกว่ามันเป็นวิธีเดียวที่เราต้องทำตอนนี้ เราจำเป็นต้องฟอกไตแล้ว จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาฟอกไตตอน 3 ทุ่ม
และประเด็นถัดมาที่มันเป็นประเด็นอยู่ล่าสุด น้าค่อมถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์แล้ว ส่งตัวไปตอน 6 โมงเย็น ดรามาที่มันเกิดขึ้น ว่าทำไมน้าค่อมใช้อภิสิทธิ์ชนถึงได้มีการย้ายโรงพยาบาลในตอนนี้ได้ ทั้งๆ ที่คนอื่นยังนอนรออยู่ที่บ้าน หรือไม่มีเตียง แต่ทำไมน้าค่อมถึงได้ย้าย ประกอบกับมีบอล เชิญยิ้มหรือมีเพื่อนๆ ในแก๊งน้าค่อมได้ออกมาร้องขอ หรือจะพูดอะไรก็ตามแต่ อยากได้ทีมคุณหมอที่ดีที่สุด
คือเราก็เข้าใจบริบทของคนเหล่านี้ ว่าคนมันรักกัน เขาก็มีความรู้สึกว่ากูรักของกู กูก็ต้องขอหมอที่ต้องดูแลคนที่กูรัก แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกติกา ไม่มีสิทธิ์ที่น้าค่อมจะไปแทรกแซงไปอยู่เตียงของคนโน้นคนนี้ หรือจะไปถอดเครื่องช่วยหายใจจากปากคนอื่นมาใส่ปากตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้
ทีนี้ย้อนกลับได้ไปอ่านข้อความในทวิตเตอร์ ก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ น้าค่อมแกไม่รู้เรื่องแล้ว แกนอนอย่างเดียว คือหลับอย่างเดียว ครอบครัวก็กักตัวอยู่ที่บ้าน เขาไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงแก้ตัวอะไรได้เลย เพราะฉะนั้นเรารู้สึกไม่ไหว ถามว่าเราเสือ_ไหม จริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับตัวเราเลยแต่แค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องได้รับการชี้แจง เลยโทร.ไปคุยกับทางจ่าพิชิต (นพ.วิทวัส ศิริประชัย แอดมินเพจ Drama-addict) กับทางปุ๊ก ว่าเราจำเป็นไหมที่ต้องชี้แจงประเด็นนี้ ว่าทำไมน้าค่อมต้องย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์
คือเรื่องมันเป็นมาแบบนี้ น้าค่อมเองไปอยู่โรงพยาบาลและไตวาย หายใจเองไม่ได้ เรียกว่าระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หลายคนไม่เข้าใจตรงนี้ว่าหายใจเองไม่ได้ ทำไมไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่เขาเรียกว่าระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หายใจเองไม่ได้นะ สุดท้ายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจลงไปที่ปอด เพื่อให้ปอดมันทำงาน จากนั้นที่มันหนักกว่าคือน้าค่อมไตวาย เอาภาษาชาวบ้านคือมีโอกาสเสียชีวิตสูง เพราะฉะนั้นนี่คือที่มาที่ไปที่ปรึกษาทางแพทย์แล้วว่าจะเอายังไงดี ก้มีการศึกษากันว่ามีเครื่องมือที่ชื่อว่า เอคโม”
จ่าพิชิต : เอคโมคือเครื่องหัวใจและก็ปอดเทียม ปกติที่คนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือว่าปอดหนักๆ หรือว่าระบบหัวใจจะล้มเหลว พูดง่ายๆ คือใกล้ตาย ก็จะใช้เครื่องนี้มาพยุงชีพ มาทำหน้าที่แทนปอดและหัวใจก่อนชั่วคราว เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู จุดประสงค์หลักๆ ของเครื่องคือบีบตัว ปั๊มหัวใจ ปั้มเลือดให้สูบฉีดไปเลี้ยงร่างกาย ทำหน้าที่แทนปอด ไปฟอกออกซิเจนในเลือด เครื่องนี้มันไฮเอนต์มาก ถ้าจำได้ตอนคุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ป่วยหนักๆ ก็เคยใช้เครื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งเครื่องนี้ก็มีอยู่ไม่กี่ที่ ตามโรงพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทย์ใหญ่ๆ โรงพยาบาลเอกชนแบบไฮเอนต์มากๆ
หลังจากนั้นก็คิดกันว่าจะต้องนำตัวน้าค่อมส่งไปที่โรงพยาบาลที่มีเครื่องนี้ไหม ปรากฏว่าทางครอบครัวก็มีการพูดคุยกัน และโรงพยาบาลที่รักษาตัวอยู่ตอนนั้นไม่มีเครื่องนี้ แล้วน้าค่อมถือว่าเป็นผู้ป่วยหนักแล้ว ตามกลไกของมัน จำเป็นต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่พร้อมที่ดูแลได้ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นน้าค่อมคนเดียวนะ หมายถึงคนป่วยทุกๆ คน ที่จำเป็นต้องใช้ และวันนี้ถ้าไม่ใช่น้าค่อม เป็นชาวบ้านชาวช่อง ไอ้เครื่องนี้ก็มีคนใช้อยู่เหมือนกัน”
จ่าพิชิต : เป็นเรื่องปกติในระบบการทำงานของการแพทย์ในบ้านเรา ไม่ใช่ว่าเราจะมีคนไข้แล้วเราต้องส่งไปโรงพยาลที่มีเครื่องมือไฮเอนต์ทุกเคสนะ คือเราจะรักษาในระดับกับเคสนั้นๆ คือถ้าคุณป่วยไม่มากอาจจะรักษาโรงพยาบาลก่อน แต่ถ้าต้องรักษาเฉพาะทางก็ต้องส่งไปโรงพยาบาลที่ถนัดๆ ในด้านนั้น หรือถ้าหนักขึ้น หรือโรงพยาบาลนั้นเอาไม่อยู่ ก็ต้องส่งไปมหาวิทยาลัยแพทย์ และถ้าเคสน้าค่อมตามที่หมอบอกว่าต้องใช้เครื่องเอคโม ก็ต้องส่งไปโรงพยาบาลที่มีเครื่องนี้อยู่
ทีงี้พอเรารู้ว่าโรงพยาบาลที่น้าค่อมอยู่ เครื่องมือไม่พร้อมดูแลเคสนี้ เขาก็ได้ติดต่อไปยังศูนย์ราชวิถี ศูนย์ราชวิถีก็คือตัวกลางหลักที่เป็นคนกระจายเคสต่างๆ ไปอยู่ในศูนย์ที่มีเครื่องมือที่พร้อมกับเคสนั้นๆ อย่างเช่นศิริราช จุฬาฯ ราชวิถี รามาฯ แต่บอกเลยว่าทุกโรงพยาบาลเต็มหมด น้าค่อมไม่ได้ไปแซงคิวใครหรือว่าใช้อภิสิทธิ์ชนใดๆ และทางทีมแพทย์ขอไป 2-3 วันแล้ว และได้รับการตอบกลับมาจากโรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์
ผมไม่แน่ใจว่ามีผู้ป่วยหนักเขาทุเลาลง หรือว่าอะไรสักอย่าง ผมไม่แน่ใจ เลยทำให้เครื่องนี้ว่าง เขาก็เลยได้ส่งตัวน้าค่อมไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก และประเด็นดรามาที่มันเกิดขึ้น มันเกิดจากคนรอบตัวน้าค่อมที่ได้มีการออกมาพูด พูดในลักษณะที่อยากจะได้หมอคนนี้ อยากจะได้หมอคนนั้น ซึ่งก็ทำให้เกิดประเด็นดรามาเหล่านั้นเกิดขึ้น ก็ทำให้ประชาชนเขามองว่าคุณทำแบบนี้เป็นการไปกดดันโรงพยาบาลอื่นๆ หรือเปล่า ใช้ความเป็นดาราไปขอเขาหรือเปล่า ซึ่งย้อนกลับมาที่น้าค่อม แกไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งเรื่องราวที่ทราบมา มันเป็นแบบนี้แหละ ก็เลยเล่าสู่กันฟัง”
หนุ่มเผยโทรหาวินิจ อีกฝ่ายรับโทรหาสาธิตจริง แต่โทร.ไปหลายๆ ทาง
“และตอนนี้ก็งงๆ อยู่เพราะพอเข้าไปดูข้อมูลในทวิตเตอร์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ในเรื่องของพี่วินิจที่โพสต์ ก็เลยโทร.ไปหาแก ตัวแกเองก็ชี้แจงมาว่าก็โทร.ไปหาท่านสาธิตจริงๆ และโทร.ไปหลายทาง ก็พยายามช่วยเหลือน้าค่อม ให้ไปถึงมือแพทย์ที่ช่วยเหลือได้ ก็เลยพยายาม และสุดท้ายพอน้าค่อมได้ย้ายไป แกก็คิดว่าที่ได้ย้ายไปก็เพราะในมุมที่แกติดต่อไป ก็เลยงง
คือผมได้คุยกับทางแบงค์ (อธิกิตติ์ ไพบูลย์รัตนกิจ) และน้องไอซ์ (ณพัชรินทร์ ปรีดากุล) ครอบครัวน้าค่อม ถึงได้ออกมาถ่ายทอดให้ฟัง แต่ในมุมของพี่วินิจและได้ลงรูปของ รมช.สาธิตและได้ขอบคุณ รมช. ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น และพี่วินิจก็ได้บอกผมมา ตามที่ผมเล่าให้ฟังไปแล้ว แต่ความคืบหน้ายังไง เดี๋ยวจะสอบถามทางโรงพยาบาลไปอีกครั้งนึง เพื่อจะเอาข้อมูลที่ชัดเจนมาบอก และวันนี้ถ้าพูดอะไรไป ไม่สบายใจ ต้องขอโทษตรงนี้อีกครั้งนึง ก็อย่าโกรธกันนะครับ”