“นักข่าวสื่อดัง” ปิดเฟซบุ๊ก หลังกระแสข่าวแผลงฤทธิ์เป็นอภิสิทธิ์ชน ลัดคิวขอเตียงจนได้ห้องพิเศษ ด้านต้นสังกัดเผยคาดโทษถ้าไม่ลบคลิปมีความผิดถึงขั้นไล่ออก
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทีเดียว หลังจากที่ เพจซีทรู ได้นำเสนอข่าวว่า นักข่าวสื่อดังสื่อหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 และใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชนที่เป็นสื่อดัง เรียกร้องขอเตียงและห้องพิเศษจากกลุ่มคนสีกากีให้จัดหาให้ และขอให้มีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวไปรับการรักษา แถมพอได้ห้องก็ยังไม่พอใจ ไลฟ์สดระบายอารมณ์เรื่องความสะดวกสบายของโรงพยาบาล อีกทั้งยังพาดพิงว่าไม่มีน้ำดื่มให้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา ทำให้ต้องกรอกน้ำประปาในห้องน้ำคนป่วย กินข้าวกินยาประทังชีวิต
ล่าสุดรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ของช่อง 3 ที่มีสองผู้ประกาศข่าวอย่าง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และ “หมวย อริสรา กำธรเจริญ” ดำเนินรายการ ได้นำเสนอข่าวนี้ พร้อมกับเปิดคลิปการให้สัมภาษณ์ของนักข่าวคนดังกล่าวที่ทางเพจกะโหลกแดงอินเลิฟได้โพสต์คลิปเอาไว้ และมีการตั้งคำถามถึงการเป็นอภิสิทธิ์ชน ว่าทำไมได้คิว 103 แล้วได้เตียงไวเหลือเกิน ซึ่งบางช่วงบางตอนของคลิป นักข่าวคนดังกล่าวได้พูดว่า
“พอทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 ผมก็รีบหาเตียง เพราะคุณหมอเขาบอกว่าเตียงของโรงพยาบาลตำรวจตอนนี้ยังเต็มอยู่ และคิวรอเตียง 103 คิว ผมเป็นคิวที่ 103 หลังจากนั้นผมก็พยายามประสาน พยายามติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นติดต่อทางแม่รวยให้ช่วยหาเตียงให้ ฝากทางโรงพยาบาลตำรวจหาเตียงให้ จนได้ไปพูดคุยกับทางแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจ ท่านแพทย์ใหญ่ท่านกรุณาดีมากเลยครับ ท่านอุตส่าห์หาเตียงให้
แต่ด้วยความที่เตียงมันเต็มจริงๆ ท่านก็บอกว่ารอหน่อย โดยติดต่อกับหน้าห้อง แต่ท่านแพทย์ใหญ่โทร.มาเองตลอดเลยว่ากระบวนการมันถึงตอนนี้ๆ แล้วนะ แต่สุดท้ายทางพี่อ้อก็ประสานท่านอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.ให้”
จากนั้นทาง “หมวย อริสรา” ได้เผยว่า ได้มีการสอบถามไปทางโรงพยาบาลตำรวจ ก็ได้รับการชี้แจงว่า มีน้ำแจกทุกห้อง ถ้าไม่พอก็ขอเจ้าหน้าที่ได้ แต่น้องคนนี้สั่งน้ำมาจากร้านสะดวกซื้อ เมื่อไม่มีน้ำกินก็ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นคนไข้ห้องเดียวที่มีปัญหาเรื่องไม่ได้น้ำ เพราะตัวน้องเองไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ และตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลก็บ่นตลอด เตียงแข็งบ้าง อาหารไม่อร่อย ให้น้อย ทั้งๆ ที่คนไข้ติดโควิดเยอะมาก มีคนไข้อาการหนักที่รอคิวรักษาเยอะ แต่ด้วยความที่น้องเป็นนักข่าว และมีผู้ใหญ่ฝากมารับดูแลในห้องพิเศษ
โดยอาการล่าสุดยังมีหอบ เหนื่อยง่าย หายใจติดขัด วันนี้วัดไข้อยู่ 37-38 องศา แต่คาดว่าเร็วๆ นี้อาการน่าจะดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
ซึ่งทาง “หนุ่ม กรรชัย” ก็เผยว่าได้พูดคุยกับนักข่าวรายนี้ เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า ทุกสิ่งที่ปรากฎในโลกโซเชียลไม่เป็นความจริง พอรู้ว่าตัวเองติดโควิดก็พยายามติดต่อโรงพยาบาล โดยมีพี่ที่เคารพคนหนึ่งคอยช่วย สรุปได้โรงพยาบาลมาสองแห่ง ก็คือโรงพยาบาลตากสิน กับ โรงพยาบาลกลาง ก่อนจะสรุปให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์เอราวัณมารับตัวไปส่งที่โรงพยาบาลกลาง
พอมาถึงไม่ได้ห้องพิเศษ มานอนรวมกับคุณลุงอีกท่านนึง ทุกวันนี้ก็ยังช่วยพยาบาลดูแลคุณลุงท่านนี้ด้วย ส่วนเรื่องของการสั่งน้ำดื่ม สั่งอาหารจากร้านสะดวกซื้อ เพราะก่อนหน้านี้มีพยาบาลมาแนะนำว่าให้พนักงานนำของใช้ เครื่องดื่มมาส่งที่เคาน์เตอร์พยาบาลได้ จากนั้นพยาบาลก็จะมาส่งต่อให้กับคนไข้ เรื่องน้ำดื่มที่เป็นประเด็นดรามา ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตอนแรกที่ตนมารักษาที่โรงพยาบาลไม่มีน้ำดื่มเพียงพอที่จะแจกให้กับผู้ป่วย ตนจึงต้องไปซื้อน้ำมาดื่มเอง จนตอนนี้ทางโรงพยาบาลมีน้ำบริการให้กับผู้ป่วยทุกคน อยากจะขอให้สังคมเห็นใจว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่สื่อโซเชียลได้มีการกล่าวหา
พร้อมกันนี้ก็ได้เปิดคลิปเสียงที่ได้พูดคุยสัมภาษณ์นักข่าวสื่อดัง ที่เผยว่า
“ไม่เข้าใจว่าได้สิทธิพิเศษตรงไหน เพราะก็นอนรวมกับคนอื่น พยาบาลก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว พอข่าวออกไปกลับกลายเป็นว่าผมไปโวยวายขอจะสั่งอาหารจากเซเว่นข้างนอกให้มาส่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงแรกๆ โรงพยาบาลเขามีนโยบายที่ให้คนป่วยสามารถสั่งอาหารจากข้างนอกได้ ผมก็สั่งตามรอบที่เขาจัดหามาให้ครับ
และผมก็ได้รับการแจ้งจากพี่พยาบาลว่าทางโรงพยาบาลไม่มีน้ำดื่มให้ ทีนี้เราก็ไม่มีปัญหา สามารถสั่งจากเซเว่นได้ พอผู้บริหารของโรงพยาบาลมีนโยบาลที่ไม่ให้ส่งแล้ว ผมก็ถามว่าแล้วจะสั่งน้ำได้จากที่ไหน ก็ไม่มีคำตอบว่าเราจะสามารถได้น้ำดื่มมาได้ยังไง จนปัจจุบันทางโรงพยาบาลเขาแก้ไขปัญหานี้โดยการจัดหาน้ำดื่มให้กับผู้ป่วยทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่เป็นข่าวแล้วครับ”
ซึ่ง หนุ่ม กรรชัย ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ได้สอบถามทางต้นสังกัด บอกว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยตั้งแต่แรก รู้แค่ว่าน้องได้รับเชื้อโควิด และไปติดต่ออยู่โรงพยาบาลเอง สุดท้ายมีการลงคลิปต่างๆ ทางต้นสังกัดเขาต่อว่านะครับว่าคุณทำแบบนี้ได้ยังไง และให้ลบออกด้วย ถ้าไม่ลบเขาคาดโทษถึงขั้นไล่ออกเลย และที่สำคัญที่สุดรอดูหลังจากที่น้องออกมา ว่าทางต้นสังกัดจะมีการคาดโทษอย่างไร และทางโฆษก กทม. คือ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง บอกว่าทางต้นสังกัดโทรศัพท์ไปขอโทษแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
โดยหลังจากที่เกิดกระแสดังกล่าว ทางนักข่าวสื่อดังได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้วเรียบร้อย
