“ดิว อริสรา” ชิลๆ แหกกับ “เบล” ลูกบรรยิน ลั่นหลอนโควิดมากกว่า เห็นใจอีกฝ่ายโพสต์เยอะน่าจะเครียด ย้ำถ้าโกรธกับการที่คนตั้งคำถามก็ควรอยู่บ้าน ขอโทษแล้วกันที่ทำให้โกรธ โต้หึงแฟนเคยไปจีบ บอกไร้สาระ ตอนนั้นตนก็ไม่ว่างเหมือนกัน ปลื้ม “เซบาสเตียน” เปย์หนัก ให้รถหรูปลอบใจ
ฟาดกันคนละหมัด เรียกได้ว่าจัดหนักกันคนละยก สำหรับกรณีนางร้ายหน้าสวย “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” กับ "เบล บุษญา ตั้งภากรณ์" ลูกสาว “บรรยิน ตั้งภากรณ์” เพราะล่าสุด “สาวดิว” ก็ไปออกรายการ “แฉ” เปิดใจเคลียร์ทุกประเด็นร้อน ว่าสรุปแล้วใครเป็นคนเริ่มก่อน
“(หัวเราะ) ยังไม่ได้ตบใครเลยค่ะ แต่แค่โดนคนมาต่อย คนที่มาต่อยคือเพื่อนสนิทเขา ไม่ใช่คนที่ชอบโพสต์มาทำร้ายเรานะ ก่อนลงเรือแถวกาบเรือ เพื่อนเขาก็วิ่งมาสาวเราไป 1 ที วิ่งมาต่อยแล้วไปเลย ดิวไม่ได้เป็นคนลงไม้ลงมือหรือเป็นคนเริ่มก่อน
เป็นช่วงเวลาที่ไวมาก หนูหงายหลังไปเลย น้องที่เป็นนักแสดงที่ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นคนรับไว้ ไม่งั้นหงายหลังไปเลย จริงๆ มันคือล้มไปแล้ว แต่เขาก็รับไว้ทัน (ถ้าหงายหลังไปไม่มีคนรับ เสียฟอร์มมากกว่านี้อีก?) แค่นี้ก็เสียฟอร์มแล้ว ซึ่งดิวก็ยอมรับรู้จักเขา แต่ไม่ได้สนิทกัน ไม่ได้เป็นเพื่อนในแก๊ง แต่ครอบครัวเรารู้จักคุณแม่เขา เป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน
การที่หลายคนสงสัยว่าทำไมดิวไม่ออกมาพูดอะไรเลย คือสำหรับตอนที่ดิวไปลงเรือเสร็จแล้ว พอมีข่าวว่าคนบนเรือเป็นโควิด ข่าวนี้กับโควิด ดิวกลัวโควิดมากกว่า ให้ความสำคัญต่อเรื่องโควิดมากกว่า ดิวต้องไปตรวจ ไปเช็ก ไปกักตัว พูดตรงๆ หนูหลอนโควิด จนไม่ได้โฟกัสกับสิ่งที่เขาโพสต์ ดิวไม่ได้สนใจ ทำไมต้องเอาไอจีเราไปสู้กับใคร”
เห็นใจอีกฝ่ายโพสต์เยอะ บอกน่าจะเครียด
“จริงๆ ต้องบอกไม่ได้รู้สึกโกรธ ไม่ได้เป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขาเป็น ตอนนี้ก็เห็นใจ เพราะดูโพสต์เยอะ ก็น่าจะเครียด ก็เห็นใจและเข้าใจ ว่าโอเคมันก็น่าจะมีที่มาที่ไป แต่ดิวก็ต้องปกป้องตัวเอง ด้วยความที่เราก็มีชื่อเสียง ดิวมีงาน มีพรีเซ็นเตอร์ เราก็ต้องปกป้อง ก็ให้ความยุติธรรมเป็นตัวตัดสิน”
ซัดเรื่องมารยาทอีกฝ่าย
“เรื่องชนไหล่ คือดิวมีการถามจริง แต่เราไม่ได้เห็นว่าเอาไหล่มากระทบนะ นี่สิ่งที่ดิวเห็นนะ เราลองจินตนาการดู แต่ดิวไม่ใช่จะต้องมาบอกว่าคนหนึ่งพูดแบบนี้ อีกคนพูดแบบนี้ แต่ถ้าถือของจริง และเอาไหล่มาชน ซึ่งภาพที่เห็นมันไม่ใช่ไหล่ แต่ดิวแค่รู้สึกว่ามันคือมารยาท มันคือความเหมาะสม เข้าใจว่ามันเป็นแบบตะวันตก แต่เราอยู่ในประเทศไทย อะไรควรทำหรือไม่ควร พอเราเห็นว่าไม่เหมาะสม ดิวเดินไปถามว่ามันคืออะไร เขาก็ตอบว่าทักทายแบบตะวันตก ดิวก็โอเค ดิวก็เดินกลับมาอยู่กับเพื่อน แค่นั้นเอง
เอาจริงๆ นะถ้าทุกคนได้ดูตรงนี้และได้เห็นสัมภาษณ์ที่น้องยีนส์ เกวลินได้พูดไปแล้ว ดิวไม่อยากออกมาพูดให้แก้ต่างกับตัวเอง แต่ยีนส์ก็พูดในสิ่งที่ดิวพูดกับยีนส์ในวันนั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่อย่างที่อีกฝ่ายพูดไป เอาความเป็นจริงน้องยีนส์เป็นนางเอก เขาก็คงไม่เอาชื่อเสียงของเขามาร่วมกันโกหกกับดิวหรอก เราไม่ได้อยากโกหกอะไรอยู่แล้ว”
รับเคยมีแฟนเป็นทอม โอเคกับทุกเพศ บอกพูดถึงจริงแต่ไม่มีเจตนาพูดถึงไม่ดี ย้ำถ้าโกรธกับการที่คนตั้งคำถามก็ควรอยู่บ้าน ขอโทษแล้วกันถ้าทำให้โกรธ
“ใช่ ดิวเคยมีแฟนเป็นทอมและก็มีเพื่อนเป็นทอม ดิวโอเคกับทุกเพศ คนรอบตัวเราเป็นแบบนั้น ดิวยอมรับว่ามีพูดถึงเขาจริงๆ กับเพื่อน แต่ไม่ได้มีเจตนาว่าจะไปพูดถึงเขาไม่ดี ดิวไม่ได้เดินไปว่าเขา หรือว่าเราไปมองหน้าเขาและพูดใส่หน้าเขา คือน้องยีนส์อยู่บนเรือและเขาไม่รู้จักใคร เราก็มีการพูดถึง
แต่สิ่งที่ดิวพูดก็คือ โอเคมันเป็นคำถามว่าทำไมคุณพ่ออยู่ในโหมดแบบนั้น แต่ทำไมยังมาอยู่ในงานแบบนี้ อันนี้เราพูดกับเพื่อนเรา ไม่ได้พูดกับเขา ซึ่งหนูพยายามสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าวันหนึ่งเราเคยมีคลิปตบกับคนอื่น มีคนอื่นมาถามว่านี่อีดิวมือตบใช่ไหม หนูไม่เคยโกรธใคร เพราะหนูทำจริง เพราะฉะนั้นการที่คุณออกมานอกบ้านและมีคำถาม และโกรธกับการที่คนอื่นมีคำถาม เราก็ต้องอยู่บ้าน เพราะสุดท้ายเราเป็นคนที่ทุกคนมองเห็น เราเป็นคนของสังคม
ถ้าการที่ดิวมีคำถาม แล้วมันเป็นการไปก้าวก่ายเขา ทำให้เขาโกรธ งั้นดิวก็ต้องขอโทษเขาด้วย แต่ดิวไม่ได้มีเจตนาจะไปว่าเขา แต่ดิวมีคำถามจริงๆ เพราะก็แค่งงไง ว่าสถานการณ์มันไม่ค่อยดีแล้วมาวันเกิดทำไมวะ มันเป็นการคุยกับเพื่อนเฉยๆ เขาอาจจะเดินผ่านแล้วได้ยิน แต่อาจจะฟังไม่ละเอียดหรือเปล่า
อันนี้ดิวตอบเคลียร์มาก ซึ่งเขาอาจจะคิดว่าเราไปว่าพ่อเขาหรือเปล่า ซึ่งมันไม่ใช่ ดิวก็อยากจะบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งหลงประเด็นกันไปว่าทำไมดิวถึงพูดแบบนั้น ประเด็นมันคือว่า ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรายังไงก็ตาม มันไม่ใช่ว่าเราจะมีสิทธิ์ไปตบใครก็ได้ และไม่ใช่มีสิทธิ์จะอัปไอจีด่าใครก็ได้ และถ้าไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้นก็ถามดิวซิว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร เหมือนที่ดิวเห็นเขาทำการทักทายแบบนั้น ดิวก็ถามเขาว่ามันคืออะไรเหรอ คือทั้งหมดเราพูดกับยีนส์ว่าคนนี้คือใคร เราก็เล่าให้น้องฟังเฉยๆ แต่เข้าใจว่ามันอาจจะกระทบกระเทือนจิตใจ แต่ก็ต้องถามตัวเองว่าที่จี๊ดเพราะอะไร”
ลั่นไม่หึงแฟนหนุ่มเคยไปจีบอีกฝ่ายมาก่อน เพราะตอนนั้นตนก็ไม่ได้ว่างเหมือนกันจะไปหึงทำไม
“ในความเป็นจริงนะ ตอนที่เขาจีบกับมาก่อน หนูก็มีผู้ชายของหนู จะไปหึงทำไม มันไม่ใช่ไทม์ไลน์ของหนู มันไม่เกี่ยวกัน ไม่ได้ซ้อนกัน เพราะตอนนั้นดิวก็ไม่ได้ว่าง มันไม่ใช่สาระหรอกค่ะ แต่สาระตอนนี้มันไปไกล บางทีเราต้องนิดหนึ่ง
(แต่ไม่ใช่ไปด่าว่าพ่อใกล้จะตายแล้วนะ?) และคิดว่ามันเป็นไปได้เหรอ ว่าเราจะไปพูดว่าพ่อเขาจะเป็นอะไร แต่ก็ไม่อยากพูดอะไร เดี๋ยวมันก็จะมีการอัปอะไรอีก มันจะไม่จบไม่สิ้น และนิสัยดิวคือถ้าจะพูดคือพูด
ส่วนเรื่องพี่ไผ่ วันพ้อยท์ ดิวให้โทร.ถามได้เลยว่าดิวฟ้องหรือเปล่า ในความจริงพี่ไผ่ทักมาหาดิวเพราะทางคู่กรณีทักไปในเฟซและขอเบอร์เพื่อจะโทร.ไปเล่าให้ฟัง เขาก็เลยโทร.มาหาดิวว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไลน์มาหา ซึ่งถามดิวฟ้องไหม ดิวไม่ได้ฟ้อง แต่ทางนั้นไปเล่า พี่ไผ่เลยโทร.มาถามดิว คนที่ฟ้องไม่ใช่ดิวหรอก พี่ไผ่แคปฯ มาให้ดูใหญ่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากนี้ไม่ยุ่งแล้ว ให้ทนายจัดการ
“ถามจะให้จบยังไง คือหลังจากนี้ดิวคงไม่มาวุ่นวายอะไรแล้ว ดิวให้ทางทีมทนายจัดการไปทางกฎหมาย (และถ้าเขาออกมาขอโทษล่ะ?) จริงๆ แล้วก็ให้ทนายดำเนินการไปเลย คือคุณพ่อดิวกับคุณแม่ของเขามีการคุยกัน ทางผู้ใหญ่คุยกัน ดิวไม่อยากให้มันรุนแรงหรือว่าอะไร หรือต้องออกมาโต้ตอบกันผ่านไอจี ก็ให้ทางทีมทนายทำไป
ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพลอยู่ข้างหลัง หนูก็ไม่ได้รู้จักใครนะ เวลาเจอข่าวลบๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรแล้ว ตอนนี้เฉยๆ หมดแล้ว ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เวลาที่มีใครส่งอะไรมา จริงๆ ทุกวันนี้สิ่งที่กลัวคือกลัวโควิดมากกว่า เอาตรงๆ เรื่องบางเรื่อง เราผ่านอะไรมาเยอะ เราก็ไม่ได้อยากจะอิน อยากจะดรามาอะไร ตอนนี้เฉยๆ กับชีวิตตัวเอง ขี้เกียจโต้ตอบอะไร เป็นคนขี้เกียจ”
ปัด “เซบาสเตียน ลี” ให้รถหรูเพื่อง้อ แต่รู้สึกผิดเลยจัดเซอร์ไพรส์ ให้ของขวัญปลอบใจ
“ไม่ใช่การง้อ (ยิ้ม) รถไม่ใช่ของขวัญกักตัว แต่ที่ผ่านสถานการณ์มันคงเครียด และที่ไปลงเรือวันนั้นมันเป็นวันเกิดเพื่อนเขา ไม่ใช่เพื่อนดิว และถ้าเราไม่ได้ไป ก็คงไม่ต้องมากักตัว เขาก็เลยรู้สึกผิดก็เลยเซอร์ไพรส์ ซื้อของขวัญปลอบใจให้ และเขาก็คงรู้สึกว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดดรามานี้
ดิวก็พูดใส่เขาว่าถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีดรามานี้หรอก เพราะดิวก็คงไม่ไปลงเรือกับคนแปลกหน้าหรอก เขาก็เลยมีเซอร์ไพรส์ และดิวคิดว่าการให้รถมันก็สิ้นเปลืองเกินไปหน่อย และหนูก็ไม่ได้ขับรถ แต่ก็รู้สึกดีในสิ่งที่เขาทำให้ ถามว่าเวลาเจอข่าวลบๆ ต้องรับมือยังไง ก็ไม่ได้คิดว่าต้องรับมืออะไร ก็พยายามตอบเรื่องจริง ตอบด้วยความจริงใจ เวลาโกรธก็คือจะโกรธ ยอมรับเลยว่าเวลาถ้าด่าชาวบ้าน ก็ยอมรับเลยว่าด่าเราหรือว่าถ้าทำอะไรก็ค่อนข้างจริงใจ ทำเพราะอะไร ตอบออกมาจากความจริงใจ”
