xs
xsm
sm
md
lg

“เจนนี่” ยอมรับ “น้องชาย” ป่วยจิต ทำร้าย “มีล่า” เพราะไม่ถูกกัน วอนอย่าด่าแม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจนนี่ รติพันธ์” พูดบ้าง ซัด “มีล่า” ต้องการอะไรออกมาพูดเรื่อง 2 ปีที่แล้ว เผยมีล่ากับน้องชายไม่ถูกกัน จนเป็นเหตุให้น้องชายทำร้ายร่างกายมีล่าและเตรียมจะฆ่าตัวตาย ยอมรับน้องชายป่วยทางจิต และมีล่าก็มีส่วนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ตนเองและแม่ต่างก็พยายามดูแลทั้งสองฝ่ายให้ดีที่สุด วอนสังคมเห็นใจอย่าด่าแม่ แม่เครียดมาก เรื่องคดีว่ากันไปตามกฏหมาย

หลังจากที่ “มีล่า จามิล่าพันธ์พินิจ”ได้ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถูกน้องชายตัวเองทำร้ายโดนเอามีดสับหัวตาเกือบบอดแทบเอาชีวิตไม่รอด และต้องออกจากบ้านมาใช้ชีวิตอยู่กับแฟน ด้านครอบครัวขอปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้น รับปากจะแก้ไขทุกอย่างแต่สุดท้ายก็เงียบ ไม่บอกว่าน้องชายไปอยู่ที่ไหน ส่งผลให้สภาพจิตใจมีล่าย่ำแย่และหวาดกลัวจะถูกทำร้ายอีก ขอทวงคืนความยุติธรรม ให้คนผิดมารับโทษและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

งานนี้ครอบครัวของมีล่าเลยโดนถล่มอย่างหนักที่ปกปิดข้อมูล ล่าสุด พี่สาวคนโตของบ้านอย่าง “เจนนี่ รติพันธ์ พันธ์พินิจ” อดรนทนไม่ไหวออกมาโพสต์ผ่านไอจีชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ร่ายยาวพร้อมถามกลับมีล่า ว่า เรื่องผ่านไป 2 ปีแล้ว ทำไมถึงเพิ่งออกมาพูด

“เจนนี่ขอโทษที่ออกมาพูดช้า เพราะทันทีที่ข่าวนี้ออกมา ต้องดูความรู้สึกคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ก่อนค่ะ เจนนี่เลยจำเป็นต้องใช้เวลาจัดการเรื่องในครอบครัวก่อนที่จะมีโอกาสได้มาเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดมาเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้”

“ก่อนอื่นอยากจะขอความกรุณาหยุดโจมตีคุณแม่นะคะ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก ลูกเจ็บ ลูกทะเลาะกัน คนเป็นแม่เจ็บยิ่งกว่า ลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน แต่เรื่องที่ทุกคนได้ฟังเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องทั้งหมดเท่านั้น แม่และเจนนี่เป็นห่วงน้องทุกคนมาก และทำให้น้องๆ ทุกอย่างเท่าเทียมกันมาเสมอ เท่าที่เราจะทำได้ ทั้งซักผ้าให้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ตลอด คอยดูแลรับส่ง หาดอนโดให้ทั้งเรียกตำรวจและหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาพาน้องไปรักษาจะได้หาย จะได้กลับมาเป็นครอบครัวอย่างครอบครัวอื่น พอน้องสาวได้ออกมาชี้แจงแบบนั้น ทำให้แม่ถูกคนอื่นด่า มันเจ็บปวดมากเลยค่ะ”

“เรื่องเกิดมา 2 ปี ทำไมเพิ่งมาออกมาพูดต้องการอะไรกันแน่ เจนนี่โดนถล่ม เจนนี่ยอมรับได้ แต่ถ้าแม่โดนตำหนิ โดนถล่ม ทั้งที่ ไม่ใช่เรื่องจริง เจนนี่รับไม่ได้จริงๆ ปกติแม่จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับร้องไห้อยู่เรื่อยๆ กราบขอเวลาทุกคนอ่านความจริงฝั่งของเจนนี่บ้างนะคะ”

ความสัมพันธ์พวกเราพี่น้อง ช่วง 10 ปี “มีล่า” กับน้องชายทะเลาะกันรุนแรง
“เรา 3 คนพี่น้องอาศัยอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เกิด แต่ตลอดมาโดยเฉพาะช่วง 10 ปี หลังทั้งน้องสาวและน้องชายมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ตลอด ทั้งคู่ต่างรุนแรงใส่กัน ทั้งคู่มีการใช้อาวุธข่มขู่กันทั้งสองฝ่าย เจนนี่และแม่ซึ่งอยู่ในฐานะคนกลางมีความลำบากใจมาโดยตลอด ทั้งคู่คือน้อง ทั้งคู่คือลูกแม่ เคยมีเหตุการณ์ทะเลาะกันรุนแรง 1 ครั้งทำให้แตกหัก เลิกคุยกันไปเลย”

“ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องสาวไปๆมาๆ ระหว่างต่างประเทศและไทยเพื่อเรียนต่อ ตอนที่น้องสาวอยู่บ้านจะส่งน้องชายไปต่างจังหวัด แล้วตอนน้องสาวกลับต่างประเทศถึงจะให้น้องชายกลับมาอยู่บ้าน เพื่อปกป้องจิตใจของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นไม่นานน้องชายก็เริ่มป่วยเป็นซึมเศร้า แม่และเจนนี่เลยพาน้องไปรักษาอาการซึมเศร้าและพยายามหาวิธีที่จะทำให้เขาดีขึ้น
พอเริ่มอาการดีขึ้น ทุกคนจึงกลับมาอยู่บ้านด้วยกันอีกครั้ง”

เล่าเรื่องราวในวันเกิดเหตุครั้งที่ 1 เรื่องราวจบด้วย แยกน้องชายออกไปอยู่ที่อื่น ซึ่งหลังจากนั้นน้องชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
“ในวันนั้นแม่ไปต่างจังหวัด ที่บ้านเลยจะมีแค่น้องชายซึ่งนอนอยู่ชั้น 2 และพี่สาวทั้งสองแยกห้องนอนกันอยู่ชั้น 3 ตอนเวลาประมาณตี 4 เจนนี่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้อง รีบวิ่งเข้าไปดูในห้องน้องสาว แล้วสิ่งที่เจอคือน้องสาวนอนอยู่ในสภาพถูกทำร้ายหนักมาก ส่วนน้องชายยืนขาดสติและโมโหอย่างฉุนเฉียว เจนนี่ตกใจมากๆ แต่ต้องตั้งสติ รีบวิ่งเข้าไปขวางและพูดให้น้องชายได้สติ ใจเย็นลง จับแยกให้ไปอยู่อีกห้อง มีล่าสู้จนหมดแรงแต่ก็ยังพยายามฝืนตัวเอง เจนนี่รีบโทร.หาตำรวจเป็นสิ่งแรก ต่อด้วยหารถจากโรงพยาบาลใกล้ บ้านเพื่อที่จะให้มาถึงเร็วที่สุด”

“ในเวลานั้นเราคิดอยู่อย่างเดียวคือทำยังไงก็ได้ให้น้องสาวปลอดภัย และถึงมือหมอให้เร็วที่สุด พอรถพยาบาลพาน้องสาวไป ตำรวจก็มาถึงแล้วจับน้องชายใส่กุญแจมือไปที่โรงพัก เจนนี่รีบไปดูน้องสาวที่โรงพยาบาลแล้วฝากน้องสาวไว้กับป้า เพราะตำรวจโทร.ตามให้รีบไปทำเรื่องที่โรงพัก ในระหว่างที่เดินทางไปโรงพัก เจนนี่โทร.บอกแม่ แม่ก็รีบเดินทางกลับจากต่างจังหวัดทันที เจนนี่พยายามหาโรงพยาบาลและคุณหมอที่ดีที่สุดเพราะคิดว่าอาการน้องสาวหนักมากๆ เลยอยากให้พันอันตรายและอยากให้มีแผลเป็นให้น้อยที่สุด”

“พอไปถึงโรงพักตำรวจถามว่า น้องเคยรับการรักษาทางจิตไหม ดูน้องมีความผิดปกตินะ เราก็เลยตอบไปตามตรงว่าเคยรับการรักษาอยู่ที่ศรีธัญญาค่ะ ตำรวจจึงพิจารณาว่าในกรณีแบบนี้ต้องทำใบส่งตัวไปที่ตรีธัญญา ในฐานะพี่สาวและประชาชนที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ในเมื่อตำรวจแนะนำมาแบบนี้เราก็ทำตาม ตำรวจนำส่งที่โรงพยาบาลและน้องชายก็ได้ถูกแอดมิดเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาน้องสาวก็สามารถย้ายไปที่โรงพยาบาลใหม่ที่มีคุณหมอที่เก่งมากๆระดับประเทศ ช่วยผ่าตัดให้ภายในวันนั้นเลย”

“หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจนนี่ได้ถามน้องชายว่าทำไมถึงทำแบบนี้ น้องตอบว่า น้องไม่อยากอยู่แล้ว..และวางแผนที่จะฆ่าตัวตาย เตรียมอุปกรณ์ไว้ในห้อง และออกไปซื้อสุรามาดื่มย้อมใจก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย เมื่อขาดสติก็มีความคิดขึ้นมาในหัวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เขาเป็นแบบนี้เขาคิดว่าเพราะมีล่า เขาเลยตัดสินใจทำแบบนั้น”

เผยเหตุการณ์ 2 ปีหลังจากนั้นแม่และตนต่างช่วยกันหาทางเยี่ยวยาทั้งสองคน โดยเลือกให้ทั่งคู่แยกกันอยู่ ไม่เจอกันเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ตอนนี้เจนนี่และแม่โดนกระแสหนักมากว่าทำไม 2 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยทำอะไรเลย แต่จริงๆแล้วเราทำมาโดยตลอดไม่เคยนิ่งเฉยเลยค่ะ สำหรับมีล่าหลังจากที่น้องเข้ารับการรักษาบาดแผลภายนอกเสร็จสิ้นแล้ว แต่น้องก็ยังอยู่ในขั้นตอนการรักษาและดูแลโดยจิตแพทย์ เราในครอบครัวจึงคุยกันว่า การหาที่อยู่ใหม่ให้มีล่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่อยากให้มีล่ากลับไปอยู่ในที่ๆ เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรง และเป็นคอนโดที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและที่ทำงานเดิมที่สุด ซึ่งมีล่าเองก็เต็มใจและเห็นด้วย
ที่ผ่านมาแม้น้องสาวจะย้ายออกไป แต่แม่ก็เข้าไปดูแลความเป็นอยู่ของน้องเป็นประจำไม่เคยขาดและเต็มที่สุดเท่าที่คุณแม่จะทำให้ได้ ไม่ว่ามีล่าจะต้องการอะไรหรือมีปัญหาอะไรแม่จะรีบไปหาน้องทันที”

“ส่วนน้องชายหลังจากรักษาตัวที่ศรีธัญญาอยู่ 2 เดือนกว่า หมอก็ตัดสินใจต้องปล่อยตัวน้องด้วยอาการที่ดีขึ้น ให้น้องออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เจนนี่กับแม่ก็ยังต้องคอยพารักษาทุกอาทิตย์ เข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอดและทานยาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเจนนี่และแม่ก็พยายามเยียวยาให้น้องดีขึ้น คุณหมอบอกว่าต้องให้น้องค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่สังคมให้ได้ต่อไป”

ยินดีหาก “มีล่า” ฟ้องร้อง เพราะตนก็คิดว่าน้องชายผิดจริง
“ทุกคนในครอบครัวทุกข์ทรมานและไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วเราก็พยายามเยียวยาแก้ไขให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาสิ่งที่น้องสาวร้องขอคือที่อยู่ของน้องชาย ไม่ได้มีการพูดถึงการขึ้นศาลอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากต้องไปในทางนั้นจริงๆเราเองก็ยินดี แต่เราไม่สามารถให้ข้อมูลนี้กับน้องสาวได้ ได้เพียงบอกแค่ว่า น้องชายกำลังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบำบัดจิต
ทั้งสองคนมีเรื่องแตกหักรุนแรงมาตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ เลยคิดว่าการไม่บอกสถานที่เพื่อให้ทั้งสองคนเลี่ยงต่อการปะทะกัน ให้ต่างคนต่างอยู่ต่างรักษาให้ดีขึ้นก่อน เป็นสิ่งที่เราคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ถ้าน้องสาวยืนยันจะฟ้องและขึ้นศาลเพื่อรับความเป็นธรรม เราก็ยินดีทำตามขั้นตอนไม่เคยห้าม เพียงแต่เราในฐานะพี่สาวเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการให้ทั้งสองฝั่งได้รับการรักษาทั้งกายและใจก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าการตัดสินใจแบบนั้นมันผิดต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”

“สำหรับเรื่องทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เจนนี่ยินดีหากจะมีการตรวจสอบหลักฐานและเอกสารต่างๆ สุดท้ายเจนนี่ขอความเห็นใจสังคมด้วย เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องภายในครอบครัว อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งรีบตัดสิน อย่าเพิ่งวิจารณ์ อย่าเพิ่งด่า”

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวมันรุนแรงมากๆ และไม่มีอะไรที่จะมาชดเชยได้เลย น้องชายผิดเต็มๆ ไม่มีใครปกป้องได้ ว่ากันตามกฎหมาย และเจนนี่เข้าใจในความรู้สึกโกรธของทุกคนมากๆ แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ตามข่าว ครอบครัวเราผ่านอะไรมาบ้าง เราได้พยายามทำการรักษาน้องชายแล้ว หลังเหตุการณ์รุนแรงเราก็พยายามรักษาสถานะภาพครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว แม่และเจนนี่หาทางแก้ไขมาโดยตลอด ไม่เคยละเลยเลยจริงๆ คงไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวทะเลาะกันเองขอความกรุณาเข้าใจครอบครัวของเราด้วยนะคะ ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งให้มีล่าและครอบครัวเรามากๆ สิ่งนี้มีค่ากับเรามากจริงๆ ค่ะขอบคุณค่ะ”





























กำลังโหลดความคิดเห็น