xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “มีล่า” หลังถูกทำร้าย!! วอนอย่าด่าแม่ ยันเอาเรื่องน้องชายถึงที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"มีล่า" เปิดใจถึงเรื่องถูกน้องเอามีดสับหัว เผยจำต้องพูดเพราะมันคือหนทางสุดท้ายแล้ว สุดหวาดกลัวแม่ปกปิดที่อยู่น้อง หวั่นจะโดนกลับมาทำร้ายอีก น้อยใจแม่ที่ไม่ช่วยอะไรเลย จะปล่อยให้น้องชายอยู่แบบนี้ไม่ได้ ต้องยอมรับผิดและแก้ไขปัญหา รู้ว่าครอบครัวไม่โอเค แต่มีล่าไม่โอเคมานานแล้ว 

ยันคือเรื่องจริง เป็นฝันร้ายที่มากกว่าในหนัง ทนไม่ไหวต้องออกมาพูดเพราะแม่ปกปิดไม่ให้รู้ความเคลื่อนไหวของน้อง หวาดกลัวจะโดนกลับมาทำร้ายอีก “ตอนนี้ก็คิดว่าจะดำเนินคดี เพราะการที่เราออกมาเปิดเผย มันคือทางสุดท้ายของมีล่าแล้ว เราไม่รู้จะทำยังไงต่อกับชีวิตตัวเอง เพราะคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด แต่ทำไมเขาไม่ช่วยอะไรเราเลย

หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์เรื่องราวการถูกน้องชายแท้ๆ ทำร้ายจนเกือบปางตาย ด้วยการถูกมีดแทงเข้าที่ศรีษะ จนเกือบจะตาบอด พร้อมได้โชว์บาดแผลจากการถูกกระทำ และความรู้สึกที่ต้องทนอยู่กับมันมานาน 2 ปี ล่าสุด “มีล่า จามิล่า พันธ์พินิจ” ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “บรรจงชงข่าว” ทางช่องเวิร์คพ้อยท์ ทีวี ถึงเหตุผลที่เพิ่งออกมาโพสต์ไม่ใช่ต้องการกระแสแต่อย่างใด เพียงเพราะทนไม่ได้กับการที่ต้องอยู่แบบหวาดระแวงว่าน้องชายจะกลับมาทำร้ายอีกไหม

พร้อมยังวอนสังคมว่าอย่าไปด่าแม่ของตนเองเลย รับตอนนี้ครอบครัวกับกำลังเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตนเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน พร้อมจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในทุกๆ ด้าน ฝากบอกน้องชายว่า ถ้าอยากใช้ชีวิตแบบปกติก็ต้องออกมายอมรับความผิดที่ตนเองได้กระทำ

“ที่มีล่าตัดสินใจออกมาโพสต์ก็ตามที่ทุกคนทราบว่า เราอดทนมานาน ได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ รู้สึกอึดอัดมานาน มีเพียงเพื่อนสนิทที่ได้รู้ การที่มีล่าได้พูดออกมา มีล่ารู้สึกดีขึ้นมากๆ ที่มีคนได้รับรู้เรื่องนี้และมีคนให้กำลังใจมีล่ามากๆ บางคนอาจจะพูดว่า ทำไมเพิ่งออกมาโพสต์ แต่ที่ผ่านมามีล่าต้องทนอยู่กับเรื่องมานานมากพอแล้ว แต่ก็อยากจะพูดอีกว่า ก็มีกระแสออกมาว่าครอบครัวของมีล่า แต่มีล่าขออย่าให้ใช้คำหยาบ (เสียงสะอื้น) หรือด่าแม่มีล่าแรงๆ เพราะมีล่ารู้สึกว่า ที่โตมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ เขาดูแลมีล่ามาโดยตลอด และพอมันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าแม่แต่อย่างใด หรือให้คนอื่นมาว่าแม่เรานะ”

“มีล่าเข้าใจทุกคนที่เห็นเรื่องที่มีล่าแชร์ออกไป เพราะเรื่องมันไม่ธรรมดา แต่อยากให้ทุกคนเห็นใจ มีล่าเป็นคนออกมาพูดเอง เห็นใจและทำความเข้าใจ แต่อาจไม่ได้บอกว่านี่คือคนถูกหรือว่าใครเป็นคนผิด แต่อยากให้ดูที่ความจริงและความผิดของเรื่องนี้มันคืออะไร ไม่ใช่ให้มาแย่งกันอยู่ฝั่งไหน”

“ถ้าจะให้เล่าปัญหาของน้องชาย คือน้องมีปัญหาตั้งแต่เด็กแล้ว มีหลายสาเหตุที่เราเดาได้เป็นเพราะอะไร น้องของมีล่าไม่ธรรมดา ทำลายข้าวของ อาละวาด และเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ตัวใหญ่ที่สุด แรงเยอะที่สุด เคยผลักแม่ก็คือล้มเลย เราก็เคยบอกกับคุณแม่ไปแล้วว่ามันไม่ใช่แล้วนะ มันไม่ไหวแล้วนะ คือมันไม่โอเค แม่ต้องทำอะไรสักอย่าง อยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว (หรือเพราะมีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง พฤติกรรมเลยเป็นแบบนี้?) คือยาเสพติดไม่ได้เห็นกับตาว่า เขาเสพไหม ทราบมาจากที่แม่และพี่สาวคุยกันว่า เขาคบเพื่อนไม่ดี มียาเสพติด เขาดื่มแอลกอฮอล์ลเยอะ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหามานานแล้ว เราบอกมาเป็นปีก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นซะอีก มีล่าจะไม่ยุ่งเรื่องน้องแล้ว เพราะพูดไปก็ไม่มีใครฟัง ทำแบบนี้ก็อันตราย อยากให้ดูแลกันดีๆ หน่อย และเหตุการณ์นี้มันก็เกิด มีล่าไม่ไหวแล้วว่า 2 ปีที่ผ่านเขายังใช้ชีวิตยังไง แต่เราก็ไม่ได้คำตอบใดๆ กลับมา”

“ซึ่งดำเนินคดีหรือไม่นั้น มีล่าไม่ทราบ เพราะตอนนั้นตอนที่รถพยาบาลมาคืนนั้นมีตำรวจมา แต่พอตื่นมาที่โรงพยาบาล ก็ถามว่าแจ้งความยัง ทางครอบครัวก็บอกว่าแน่ใจเหรอว่าอยากให้เรื่องเป็นเรื่องใหญ่ อยากขึ้นศาลเหรอ มันไม่ใช่เรื่องดีนะ ครอบครัวก็สัญญาว่าจะจัดการเรื่องนี้ บอกเราไม่ต้องห่วง บอกให้เราไปใช้ชีวิตของเราเอง ไม่ต้องมายุ่งนะ แต่คนที่ถูกทำแบบนี้ ถ้าไม่ทราบว่า คนที่ทำร้ายเรา เขาอยู่ที่ไหน มันเป็นความรู้สึกอึดอัด เพราะมีล่ากับน้องก็ไม่คุยกันมา 3-4 ปีแล้ว”

“ตอนนี้ก็คิดว่าจะดำเนินคดี เพราะการที่เราออกมาเปิดเผย มันคือทางสุดท้ายของมีล่าแล้ว เราไม่รู้จะทำยังไงต่อกับชีวิตตัวเอง เพราะคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด แต่ทำไมเขาไม่ช่วยอะไรเราเลย มีล่าไม่มีความมั่นใจจริงๆ ว่าจะเอาผิด หรือขึ้นศาลได้ไหม ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนั้น แต่พอตัวเองได้ออกมาเล่าเรื่องนี้ มีคนให้กำลังใจ มีคนบอกเอาเรื่องได้นะ เราก็เริ่มกำลังใจมากขึ้น”

“เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ อยากออกมาเปิดเผย อย่างที่บอกมีล่าถามแม่ตลอดว่า น้องทำอะไร อยู่ที่ไหน แต่ไม่เคยได้คำตอบอะไรกลับมาในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เดือนที่แล้วก็ถามและก็ทะเลาะกัน มีล่าก็บอกแม่ว่าหนูไม่โอเค สุขภาพจิตมันแย่ลงมากๆ ทำไมแม่ไม่บอกความจริง และถ้าแม่สนับสนุนหนูและเข้าข้างหนู จะทำให้หนูเชื่อใจ แต่ถ้าแค่คำพูดมันอาจจะยาก เพราะหนูเชื่อมาหลายปีมาก และพอเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้น มีล่าว่ามีล่าต้องสู้แล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องแจ้งความกำลังคุยกับแฟนและทนายอยู่ เพราะมีล่าไม่ทราบกฎหมายประเทศไทยเยอะ”

“ผ่านไป 2 ปีทางร่างกายแผลก็ดีขึ้น คุณหมอรักษาดีมาก ได้ไปหาจิตแพทย์ พูดได้ว่าดีขึ้นจริงๆ แต่มันยังมีข้อนึงที่ติดอยู่ว่าเขาอยู่ไหน เขาทำอะไร มีล่าว่าในความเป็นจริงถ้าเขาจะมาหามีล่าที่คอนโดมันมีความเป็นไปได้ แต่การที่เรารู้สึกกลัว มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว”

“อย่างที่สังคมมองว่า ฟังความฝ่ายเดียว มีล่าได้บอกไปแล้วว่ามันไม่ได้มีฝ่ายใดทั้งสิ้น มันมีแค่ที่เราโฟกัสกัน มีล่าเล่าเรื่องให้เหมือนความจริงมากที่สุดเท่าที่มีล่าจำได้ พยายามพูดความจริง ไม่ได้แต่งเรื่องแต่อย่างใด มีล่าเสียใจมากเวลาที่คนมาบอกว่าเรื่องจริงหรือเปล่า มันจริงมาก สำหรับมีล่ามันจริงมากกว่าฝันร้าย (ร้องไห้) กว่าหนังผีทุกเรื่อง”

“เพราะที่ผ่านมามีล่าไม่คิดเลยว่าจะพูดเรื่องนี้ เพราะครอบครัวบอกว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย มีล่าก็อายนะ เวลามีคนทักแผลที่แขน มีล่าก็ไม่อยากบอกความจริงว่ามันคืออะไร มีล่าก็อายเหมือนกัน แค่คนรอบข้างบอกว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย เป็นใคร ใครจะกล้าบอก มีล่าก็ไม่บอก เก็บเงียบคนเดียว บอกว่าเป็นแผลอุบัติเหตุ”

“ถ้าจูเนียร์ดูอยู่ สิ่งที่ยูทำมันแย่มากก็จริง มันไม่ได้แปลว่ายูต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ ถ้าอยากเป็นคนปกติหรืออยากอยู่ในสังคม มันต้องยอมรับผิดที่ตัวเองทำ ไม่ใช่ใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไม่สนใจปัญหา ไม่กินยา แล้วใช้ยาอื่นเป็นยาแทน มันไม่เวิร์คเลย อย่างที่เห็น ยูทำให้บ้านเราพัง บ้านแตก รู้ว่าแม่ไม่สบายใจมากตอนนี้ รู้ว่าเจนนี่ไม่โอเคในตอนนี้ แต่มีล่าไม่โอเคมานานแล้วจูเนียร์ก็คงไม่โอเคเหมือนกัน ถ้าอยากให้เรื่องมันจบก็ออกมายอมรับ ทำตามความถูกต้องเถอะ และการที่ถ้าเขาออกมา แล้วมีล่าต้องคุย มีล่าไม่รู้ว่ามันเป็นประโยชน์ต่อใครหรือเปล่า เคสเขามันเป็นเคสพิเศษ มีล่าไม่รู้ว่า ถ้าเขาคุยกับมีล่าแล้ว มันจะดีขึ้นไหม”













กำลังโหลดความคิดเห็น