xs
xsm
sm
md
lg

“ไทด์” เผย “บิณฑ์” หมด 20 ล้านช่วยปชช. เดือดร้อนโควิดระบาดรอบ 1-2 ส่วนรอบ 3 หมดเงินแล้ว อยากเปิดรับบริจาคแต่หวั่นดรามา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไทด์ เอกพันธ์” เผย “บิณฑ์” หมดเงิน 20 ล้านช่วยปชช. เดือดร้อนโควิดระบาดระลอก 1-2 ส่วนรอบ 3 หมดเงินแล้ว เล็งขอความเมตตากับผู้ใหญ่ อยากเปิดรับบริจาคแต่หวั่นจะเกิดดรามาอีก เตรียมปรับแผนใหม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

โควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกรอบ ทำเอาประชาชนช้ำใจ เพราะที่ผ่านมาก็บอบช้ำยังไม่ทันจะได้ฟื้นตัว ล่าสุดเจอ “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” จึงสอบถามถึงแผนการในการช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงโควิด-19 ระลอก 3 ระบาด ซึ่งไทด์เผยว่าตอนนี้อยู่ในช่วงที่ตนกับบิณฑ์กำลังปรึกษาหารือกัน

“วันนี้ผมอยากจะฝากบอกกับทุกคนไม่ว่าจะศิลปิน ดารา นักร้อง คนทุกวงการที่อยู่ในสังคม ช่วยกันรับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว สังคม เพราะตอนนี้โควิด-19 เริ่มกระจายวงกว้างไปมาก ผมขอเลยครับให้ทุกคนรับผิดชอบต่อตัวเอง คนข้างๆ และสังคมผมอยากฝากขอบคุณดารา นักร้อง นักแสดงที่ดูแลใส่ใจสังคม ดูแลพี่น้องคนไทย ปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข”

คุยกับ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ปรับแผนใหม่ลงพื้นที่จะช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิดรอบใหม่ เล็งช่วยเหลือศิลปิน นักดนตรีที่ได้รับผลกระทบ
ตอนนี้กำลังปรึกษากับบิณฑ์ว่าวิกฤตมันเกิดขึ้นมาแล้ว มันหนักยิ่งกว่ารอบ1 และ 2 ที่ผ่านมา เราจะทำยังไงกับคนที่เขาได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพ ทำมาหากิน แน่นอนว่า ถ้าวันสองวันนี้ทางรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ปิดสถานที่ต่างๆ มันกระทบแน่นอน กับคนที่หาเช้ากินค่ำกับคนที่มีอาชีพพวกนักร้อง นักดนตรี ตกงานแน่นอน เราจะมีมาตรการหรือจะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนพวกนี้

ก็ปรึกษากับคุณบิณฑ์ว่าจะทำยังไงกันดี เราจะเอาอะไรจากไหนมาช่วยพวกเขา หรือจะลงไปช่วยชุมชนเหมือนเดิม หรือจะตามหารายชื่อคนที่ไม่ไหวกับชีวิตแล้ว ต้องการหาเงินมาซัปพอร์ตครอบครัวและชีวิตเขา ต้องขายโน่นขายนี่ เราก็ต้องมาคัดกรองว่าศิลปินคนไหนที่เราจะไปช่วยได้ก่อน ช่วยหลัง ก็กำลังปรึกษากันอยู่ แต่แน่นอนเลยคือเราต้องไปช่วยช้าง จ.สุรินทร์ แล้วก็ศรีสะเกษ

เขาขอร้องมา เขาไม่ขอเอาเงินเลย ทางควาญช้างต่างๆ เขากราบเลย เขาไม่เอาเงินทั้งนั้น เขาขอแค่มีอาหาร มีผลไม้เลี้ยงช้าง ให้ช้างได้กิน วันนึงช้างทานอาหารต่อตัว 2 ตัน นี่คือสิ่งที่สำคัญ เราเลยต้องไปดูแลช้าง พอประกาศโควิด-19 ล็อกดาวน์ก็ไม่มีใครไปให้อาหารช้าง ดูแลช้าง เราก็ต้องทำเรื่องไปถึงผู้ว่าฯ ขอเป็นกรณีพิเศษว่าจะเอาของไปมอบให้เพราะเขาเดือดร้อน”

เล็งปรับเปลี่ยนรูปแบบในการไปพบเจอช่วยเหลือชาวบ้านในวิถีใหม่
“มันเป็นอะไรที่หนักมาก สำหรับภาระของเรา เราจะดูเฉพาะที่เราเห็นก่อน ที่เขาเดือดร้อนจริงๆ เราจะไม่เดินตามชุมชนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนเรายังไม่รู้ว่าชุมชนไหนมีหรือไม่มีคลัสเตอร์ หรือเขาดูแลชุมชนกันเอง 100 กว่าชุมนม เราก็สามารถที่จะเดินได้ มาถึงตอนนี้มันเป็นอะไรที่อันตรายมาก มันเป็นของประเทศอังกฤษ มันขยายตัวและติดกันเร็วมาก เราต้องปฎิบัติตัววิถีใหม่ที่จะไปช่วยเหลือ

อย่างก่อนหน้านี้เคส จ.สมุทรสาคร ทางผู้ว่าฯ เขาก็ไม่ให้เราเข้า เขากลัวว่าเราจะไปติด เพราะมันควบคุมยากมาก ก่อนที่เราจะไปช่วยเหลือคนอื่นเราต้องเซฟตัวเอง ถ้าเข้าไปแล้วเราได้รับเชื้อ แล้วไปแพร่ที่อื่นต่อหรือเปล่า การช่วยเหลือ ณ ปัจจุบันนี้ลำบากมาก แต่ละที่ต้องขออนุญาต อย่างช้างเราไปได้ เพราะเกี่ยวกันสัตว์ ไม่ได้เกี่ยวกับคน ถึงเราจะมีมาตรการให้รักษาระยะห่าง แต่พอถึงเวลาแจกของ คนก็แย่งกันอยู่ดี มันไม่สามารถควบคุมได้

อันนี้ผมอยากจะฝากถึงทางรัฐบาล หรือหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ บางคนใจบุญ มีจิตใจที่ดี อยากจะช่วยเหลือประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ไปเอารถกระบะมาจอด 4-5 คัน เอาข้าวมาแจก เอาข้าวสารอาหารแห้งมาแจกคน ตอนแรกๆ ก็เหมือนจะรักษาระยะห่างกัน แต่เดี๋ยวก็จะเกิดอาการกลัวไม่ได้ กลัวของจะหมด ทีนี้ก็ทะลักเบียดเสียดกันเข้ามา ก็ต้องยุติการแจก นี่คือปัญหา มันมีเยอะคนที่อยากจะช่วยเหลือ แล้วเจอแบบนี้ คือมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่สามารถควบคุมได้”

เล่าเงินที่เคยรับบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านช่วงน้ำท่วมจนหมดแล้ว โดยบอกว่าช่วงโควิด-19 ระลอก 1-2 “บิณฑ์” ควักเงินส่วนตัวของตัวเองที่ได้จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์มาช่วย
“ตอนนี้เงินบริจาคไม่มีเลย ตั้งแต่อุบลราชธานี น้ำท่วม เพราะมันปิดบัญชีไปแล้ว เคลียร์หมดแล้ว 422 ล้านบาทเคลียร์หมดทุกบ้านทุกสตางค์ ส่วนโควิด-19 ครั้งที่ 1 และ 2 เงินส่วนตัวทั้งนั้น เงินของคุณบิณฑ์ทั้งนั้นที่ได้จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ วิ่งเข้ามาเกือบ 20 ล้าน เขาก็เอามาเทให้กับวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นครั้งแรกเกือบหมดนี่ก็เหลือมาหน่อยเลยได้ช่วยลิง ช่วยช้าง ช่วยสัตว์ต่างๆ ตามความลำบากในช่วงโควิด-19 ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมาๆ”

ซึ่งตอนนี้โควิด-19 ระลอกใหม่ “บิณฑ์” ไม่มีเงินแล้ว เล็งขอเงินจากบริษัทต่างๆ มาช่วยเหลือประชาชน
ครั้งที่ 3 เงินไม่มีแล้ว เขาก็กำลังจะเริ่มไปขอความเมตตาจากผู้ใหญ่ใจดี ตามบริษัทต่างๆ เพื่อเอามาช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ว่าตรงไหนที่มีความเดือดร้อน ก็ต้องดูอีกว่าทางบริษัทต่างๆ เขาจะมอบเงินมาให้เหมือนก่อนๆ หรือเปล่า”

โอดหากไม่มีบริษัทไหน สมทบเป็นสปอนเซอร์ตนและ “บิณฑ์” คงต้องควักเงินส่วนตัวไปช่วยเหลือ
“แน่นอนครับ ตอนนี้เราก็ดึงเงินส่วนตัวเราด้วย ถ้าเราไม่เดือดร้อน ถ้าเราเอาเงินออกไปสัก 1-2-3 ล้านเพื่อช่วยเหลือ แล้วเราก็จะมาดูกันว่าเราจะไปช่วยเหลือใครบ้าง เราสามารถที่จะทำได้ เพราะเราก็เสียมามากกว่านี้ เราให้ได้ แต่ว่าเราต้องไม่เดือดร้อน”

ลังเลเปิดบริจาคเพราะกลัวดรามาเหมือนครั้งก่อน
แล้วแต่บิณฑ์ ช่วงนี้เขาก็อยากจะเปิดรับบริจาคเหมือนกัน แต่กลัวเรื่องการดรามาต่างๆ ถ้าเปิดรับบริจาคก็ต้องดูด้วยว่าใครขอ ใครที่จะมาขอความเมตตา ถ้าคุณไว้ใจ คุณศรัทธาเขา เชื่อในตัวเขาว่าคนนี้ๆ จะเอาเงินทั้งหมดที่คุณบริจาคกันมานั้นถึงมือผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ คุณต้องดูด้วยใครรับบริจาคคุณก็บริจาคด้วยจิตเมตตาจริงๆ แต่คุณไม่รู้ว่าเงินบริจาคนั้นไม่รู้ไปอยู่กับใคร หรือจะอยู่กับคนที่รับบริจาคหรือเปล่า ก็ต้องดูให้ดีๆ”





กำลังโหลดความคิดเห็น