“บูม” เผยตอนนี้เป็นเจ้าของร้านเบเกอรีคนเดียว 100% แล้ว เพราะหุ้นส่วนขอถอนตัวไปทำกิจการของครอบครัว บอกไร้ปัญหาเรื่องเงิน เพราะเคลียร์กันเรียบร้อย ตอนนี้ให้ “กีฟ” มาช่วยบริหารด้วย เผยยังไม่มีแพลนแต่ง โควิดยังระบาดไม่เลิก อยากมีลูกค่อยแต่ง
ขึ้นแท่นผู้บริหารเต็มตัวแต่เพียงผู้เดียวมาได้สักพักแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” กับร้าน Boom’s bakes (บูมส์เบกส์) ร้านเบเกอรี่ที่เจ้าตัวปลุกปั้นร่วมกับหุ้นส่วนมาได้ร่วม 3 ปี แต่ตอนนี้หลังจากที่หุ้นส่วนขอถอนตัวไป หนุ่มบูมก็เลยขอซื้อหุ้นทั้งหมด กลายเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวเรียบร้อย
“จริงๆ ก็ต้องบอกว่าได้รับผลกระทบทั้งหมดเลย เพราะลูกค้าที่เดินวอล์กอินก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะสถานที่ทำงานบางที่เริ่ม work from home แล้ว แต่ก็ค่อนข้างโชคดีที่ยังมีออเดอร์บ้าง เพราะของเราก็มีทำเป็นสแน็กบ็อกซ์ สามารถจัดส่งได้ ก็มาทดแทนกับยอดหน้าร้านที่หายไป
ตอนนี้ตั้งแต่มาเป็นของบูมทำคนเดียว มีหุ้นคนเดียว 100% ทั้งหมด 4 สาขาครับ ไม่ได้มีการปิดตัวครับ ยังอยู่ครบหมด เป็นความต้องการของเราอยู่แล้ว ต่อให้กำไรเยอะหรือน้อย เราอยากให้เกิดการจ้างงาน อยากให้พนักงานมีงานทำ และเราก็จ่ายเงินเดือนเขาเต็มที่ 100% ได้กำไรน้อยลงไม่เป็นไร
คือเรายังมีงาน มีธุรกิจ มีรายได้จากตรงอื่น แต่พนักงานเขามีรายได้จุดเดียว และเขาลำบากกว่าเรา เขาต้องดูแลครอบครัว ไม่มีการลดพนักงานเลยครับตั้งแต่เปิดร้านมาเลย จนมาช่วงโควิดพนักงานทุกคนอยู่ครบหมด และจ่ายเงินเต็ม”
เผยที่ทำคนเดียวเพราะหุ้นส่วนขอกลับไปทำธุรกิจของครอบครัว
“ก็ด้วยความคิดเห็นบางอย่างเรามองคนละมุมกัน แต่ก็จบกันด้วยดี น้องก็เข้ามาบอกเราว่าขอไม่ทำต่อนะ น้องบอกว่ามีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ มีธุรกิจของคุณพ่อที่ต้องไปดูแล เราก็โอเค ขอซื้อหุ้นทั้งหมดมาเลย ก็เริ่มทำคนเดียวมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ปีกว่าแล้วครับ ถามว่าต้องรับความเสี่ยงยังไงบ้าง เพราะเราทำคนเดียว คือผมค่อนข้างโชคดีที่มีทีมบริหารดี
ตอนนี้คือมีพี่น้องและน้องกีฟ (ดราภดา โสตถิพิทักษ์) ก็เป็นหนึ่งในทีมบริหารด้วย คือมีคนเก่งประสบการณ์เยอะมาช่วยกัน ปรับแผนอะไรกันใหม่หมด ก็แทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรเลยหลังจากที่เรามาทำเอง เคลียร์ส่วนแบ่งกับหุ้นส่วนเรียบร้อย ไม่มีปัญหาครับ คือเขาถือหุ้นอยู่เท่าไหร่ มูลค่าเท่าไหร่ เขาขายหุ้น 50% ผมก็ซื้อหมดเลย ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินอะไรเลยครับ”
เผยยังไม่แต่งงานปีนี้แน่ เพราะโควิดยังระบาดไม่เลิก
“ถามว่าโควิดมีผลกระทบกับงานแต่งไหม พูดตรงๆ ก็คงมี เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ปีนี้คงไม่จัดอยู่แล้ว และโชคดีที่ปีนี้ไม่ได้มีฤกษ์อยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นอีก 1-2 ปี ก็คงต้องดูว่าถ้าปีหน้าเรื่องโควิดอีก ไม่อยากให้คนเดินทางกันเยอะๆ แต่ถามว่าใจเราสองคนอยากแต่งไหม อยากสิครับ แต่ไม่ซีเรียสเลยว่าต้องรีบแต่ง ก็คงคุยกันก่อน คือถ้าไม่ได้คิดจะมีน้องก็คงแต่งเมื่อพร้อม แต่ถ้าคิดจะมีน้องก็คงต้องเร็วหน่อย เพราะอายุก็เริ่มเยอะมากขึ้นแล้ว เผื่อมีน้องจะได้โตมาเล่นกับเราทัน”
