“ขวัญ อุษามณี” ไม่หวั่นคนวิจารณ์แม่นากบาร์บี้ ลั่นเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองไม่ได้ มีแค่อินเนอร์ในการแสดงเท่านั้นที่จะพิสูจน์ให้เห็น บอกตอนนี้กลับมาเป็นนักแสดงอิสระแล้ว จบกับที่เดิมด้วยดี ได้เงินครบ โวย้อนกลับไปช่อง 3 ช่อง 7 ก็ไม่แปลกอะไร เพราะเป็นบ้าน ไม่สนคนบอกแต่งแอปฯ จนบ้านเบี้ยว ลั่นตัวจริงสวยมาก
หายจากงานละครไปนานทีเดียว สำหรับนางเอกสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” แม้จะเข้าไปเซ็นสัญญากับช่อง PPTV แต่ก็แทบจะไม่มีผลงานออกมาให้เห็น ก็เลยถูกมองว่าเพราะเลือกงานเยอะจนงานหดไปหมด แต่ล่าสุดเจ้าตัวมารับละครเรื่อง แม่นากพระโขนง 2021 และกลับมาเป็นนักแสดงอิสระเหมือนเดิมแล้ว พร้อมบอกไม่หวั่นกับคำวิจารณ์ต่างๆ ที่ออกมา
“ความชอบของคนก็มีทั้ง 2 อย่างค่ะ เพียงแต่ว่าเราเป็นนักแสดง เราก็ทำในส่วนของนักแสดงให้เต็มที่ สิ่งที่ขวัญยึดมั่นและกังวลคือในเมื่อเราทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว ขวัญก็ต้องทำอย่างอื่นมากกว่าเป็นนักแสดง มากกว่าการอ่านบท ขวัญก็ต้องเคารพตัวละครจริงๆ ที่มีอยู่ในชีวิตจริง แล้วก็เป็นแรงพลังศรัทธาของคนไทยด้วย แล้วรวมกระทั่งตัวเราที่เป็นคนศรัทธาในเรื่องความรัก เรารู้ว่ามันมีคุณค่าแล้วก็มันอยู่ในความทรงจำของเรามานานตั้งแต่เราจำความได้ แล้ววันนึงเราได้โอกาสในการถ่ายทอดก็ถือว่าเป็นอีกขั้นในการเป็นนักแสดงที่เราจะต้องพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ
ที่หลายคนบอกเป็นลูกครึ่ง เป็นแม่นากบาร์บี้ คือร่างกายของขวัญเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งเดียวที่สามารถเปลี่ยนได้ก็คืออินเนอร์หรือว่าการแสดงของเรา ขวัญก็พยายามที่จะทำส่วนของย่านากของขวัญให้ดีที่สุด ขวัญทำโดยการเคารพบทในสิ่งที่เคารพได้มา ขวัญไม่ได้เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับอดีตไปเปรียบเทียบอะไรกับใคร เพราะว่าอยากให้ผลงานเก่าๆ อยู่ในความทรงจำของทุกคนเหมือนเดิม เพียงแต่ว่านำผลงานของพาร์ตของเรา ณ ปัจจุบันเพิ่มเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำด้วย ไม่จำเป็นต้องมานั่งเปรียบเทียบหรือลบความทรงจำใคร ทำแบบนี้แหละขวัญว่ามันสวยงามมากกว่า”
บอกไม่กดดันกับเวอร์ชั่นที่ผ่านๆ มา
“ถามว่าได้ดูคอมเมนต์ไหมตอนเปิดตัวโปสเตอร์ คือคำว่า อุษามณี มันก็จะมีคอมเมนต์ต่างๆ นานามาว่า ทำให้คนได้บันเทิงกัน เราก็เอาสิ่งที่มันงดงามมาทำให้สตรองขึ้นดีกว่า ให้มันมีผลที่ดีขึ้น สิ่งที่รอชมก็มี สิ่งที่เขารอคอยเราห่างหายไปจากวงการไปทำธุรกิจก็มี มันก็เป็นพลังในชีวิตขวัญมากขึ้น
ถามว่ากดดันไหมเพราะหลายเวอร์ชั่นทำออกมาดีมาก ไม่กดดันนะคะ ถ้าเกิดว่าทุกอาชีพถ้าเราทำงานภายใต้ความกดดัน เราก็จะไม่มีความสุขกับการที่ว่าลืมตาตื่นมาไปทำงาน นักแสดงตื่นมาตั้งแต่ตี 5 กว่าจะกลับบ้านก็ 5 ทุ่มแล้ว แล้วขวัญทำงานภายใต้ความกดดันอย่างงั้น ขวัญไม่ไหว แต่ขวัญจะทำให้ดีที่สุดในพาร์ตของเราแต่ดีที่สุดของขวัญจะถูกใจใครหรือเปล่า อันนี้ขวัญก็ไม่สามารถไปชี้นำได้ก็จะทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด
เชื่อเรื่องอาถรรพ์แม่นากไหมเหรอ ตอนแรกเรากลัว ตอนเด็กพอเราโตเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ขวัญว่าทุกคนถ้ามีความรักเหมือนย่านากก็ต้องมีแรงผลักดันคล้ายกับท่าน ไม่มีใครอยากโดนรังแกตลอดเวลา วันนึงถ้าเราโดนรังแกมากๆ เราก็ต้องออกมาปกป้องสิ่งที่เรารัก เป็นเรื่องปกติ ที่ไปไหว้ท่านเมื่อกี้ จริงๆ ขวัญขอตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ มันเป็นสิ่งที่เกินเอื้อมถึง เราทำได้ดีสุดคือเราพยายาม เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าท่านทราบหรือไม่ทราบ ไม่มีการเซ็นว่ารับทราบ มันอยู่ที่จิต
ถามว่าสัมผัสได้ไหม ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บอกย่านากว่าถ้าย่านากอยากสื่อให้มาสื่อกับพ่อแล้วให้พ่อมาบอกหนู คือเราไม่ได้กลัวค่ะ คนเรามันต้องมีอยู่สองสติ ผีไม่ได้น่ากลัวกว่าคน คนน่ากลัวกว่าผีอีกตอนนี้ พอเราโตมาแล้วเราจะรู้แบบนี้
เผยจบกันด้วยดีกับอดีตต้นสังกัด
“กับเรื่องสัญญาที่ผ่านมา อย่างที่บอกค่ะว่าไม่ว่าวิกฤตอะไรก็แล้วแต่ ขวัญก็ยังคงยึดมั่นในหน้าที่ของเรา ถึงจะก้าวไปไหนไม่ได้ เราก็ต้องคงในความที่ตัวอักษรหรือสัญญากำหนดไว้ พอในวันที่สัญญาสิ้นสุดเราก็ก้าวมาเป็นนักแสดงอิสระเหมือนเดิม การเป็นนักแสดงอิสระชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนค่ะ เหมือนเดิม เพราะว่าในวงการก็จะมีทีมงานเดิมๆ คนเดิมๆ เปลี่ยนแค่ตรงโลโก้หน้าจอแค่นั้นเอง แล้วที่ผ่านมาเราก็มาทำธุรกิจของเรา วางไทม์ไลน์ในการออกสินค้าต่างๆ แล้วก็เรื่องเกี่ยวกับแม่บ้านทำความสะอาด เพราะตอนปัจจุบันโควิดเราไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย ก็จะมีรายรับด้านนี้แล้วก็ธุรกิจเครื่องสำอางของเรา
ก่อนเป็นนักแสดงอิสระก็มีดรามา ก็โอเค รักทุกคน (มินิฮาร์ต) รักโลกและรักทุกคน (ยิ้ม) เคลียร์กันลงตัวค่ะ ได้อะไรกลับมาไหม ก็ได้ครบตามจำนวนค่ะ ก็คุยกันหลายรอบค่ะ จนผู้ใหญ่เขาเมตตาเรา แล้วก็เข้าใจเรา เพราะว่าเราทำงานคนเดียว อาชีพหลักรายได้หลักมันก็คือนักแสดง พอเราไปเซ็นสัญญาแล้วที่ช่องเราไม่มีงาน เราก็ขาดรายได้หลักไป เอื้อเฟื้อเมตตาเราคือทำตามสัญญา ครบตามจำนวนเรียบร้อย
ถามว่าถ้าเราไปออกให้สัมภาษณ์ อาจจะไม่ได้ตามสัญญา อาจจะล่าช้าไปอีกเหรอ อดีตไม่เป็นไรค่ะ แต่ปัจจุบันสำคัญที่สุด ก็ได้ครบเรียบร้อยค่ะ ขวัญไม่ได้มีปัญหากับทางผู้ใหญค่ะ ทุกอย่างจบลงด้วยดีค่ะ ถามว่าต่อไปจะเซ็นสัญญากับช่องไหนหรือเข็ดแล้ว คือเราไม่ได้เข็ด ทุกคนไม่ใช่เฉพาะขวัญเราต้องเรียนรู้ว่าเราต้องใช้ชีวิตบนความเสี่ยงให้น้อยที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ย้อนไปเมื่อปีที่แล้วเราก็ไม่สามารถว่าอยู่ดีๆ ทุกคนจะตกงาน บริษัทจะปิด ตัวเราต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างแล้วมาพัฒนาตัวเรา”
บอกเตรียมมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นเร็วๆ นี้
“งานก็ติดต่อมาเยอะค่ะ ตอนนี้ก็กลับมาให้คุณแม่ดูแลเหมือนเดิม เพราะว่าดีที่สุดแล้ว เพราะขวัญรับโทรศัพท์ไม่ไหว แม้แต่ตอนที่ติดสัญญาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านก็เมตตาขวัญเอางานมาให้ คิดถึงเรา อยากร่วมงานกับเรา แม่ขวัญก็คุย แล้วเราก็น้อมรับนะ เพียงแต่ว่าเรายังไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เราเป็นอิสระแล้ว เราก็ทำได้ตามอิสระ แล้วก็สบายใจด้วย ตอนนี้ก็รับไว้หลายเรื่องค่ะ เราก็ค่อยๆ ทยอยดูบทบาทที่ใช่ และเดี๋ยวมีข่าวดีเร็วๆ นี้”
ทั้งช่อง 3 ช่อง 7 คือบ้าน เป็นที่ที่สร้างตนมา ย้อนกลับไปก็ไม่แปลกอะไร
“ข่าวที่บอกว่าจะกลับไปช่อง 7 คือทุกคนอย่าลืมว่าเราอยู่วงการมาตั้งแต่เด็ก ขวัญอยู่ที่ไหนคือบ้านขวัญหมด ช่อง 7 ขวัญก็อยู่ ช่อง 3 ก็อยู่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าขวัญจะไปที่ไหนทุกที่คือบ้านของขวัญทั้งนั้น ไม่มีคำว่าขวัญกลับไป เพราะว่าขวัญโตมาจากทั้ง 2 ที่ หนูไม่ใช่เด็กที่เพิ่งเข้ามา แต่ในนั้นเขาสร้างเรามา เรากลับย้อนไปมันก็ไม่แปลก ก็สามารถกลับไปร่วมงานช่อง 7 ได้ค่ะ จะมีโปรเจกต์ร่วมงานเซอร์ไพรส์กับพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ไหม ค่ะ เซอร์ไพรส์เยอะจังเลย (หัวเราะ) ต้องถามพี่ฉอด เพราะพี่ฉอดเป็นผู้ใหญ่ ต้องให้ผู้ใหญ่พูด เราเป็นเด็กต้องเดินตาม”
เผยยืมเงินแม่มาจริง แต่ยังไงก็ใช้คืนแน่นอน
“ส่วนเรื่องยืมที่เงินคุณแม่เพราะช่วงโควิด ใช่ ก็ไม่มีตังค์ เดี๋ยวค่อยคืนคุณแม่ค่ะ อย่างที่ขวัญบอกไปเราใช้ชีวิตโดยที่ไม่ได้ตั้งรับเหมือนกัน พอวันนึงรายรับเราหาย เราจะไปพึ่งใครไม่ได้ ธนาคารดอกเบี้ยก็สูง สิ่งเดียวที่ปลอดภัยและเซฟที่สุดไม่ว่าขวัญหรือใครก็คือคุณพ่อคุณแม่เรา อาจจะไม่ได้หนักเท่าคนอื่นๆ หรอกค่ะ ขวัญเชื่อว่าคนอื่นๆ ที่หนักกว่าขวัญก็มี แต่ว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่ขวัญมีสติ ย้อนกลับมาด้วยว่าคนที่รักเรา คนที่ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดเราคือใคร คนที่อยู่กับเราตอนที่ไม่ได้มีผลประโยชน์คือใคร
ตอนนี้ก็เก็บตังค์แม่ไว้ก่อน ไปผ่อนบ้านก่อน เดี๋ยวค่อยใช้คืน ต้องใช้ เขาพูดเนอะ ทุกคนพูดก็ต้องมีสัจจะ แต่ตอนนี้เราอุดรอยรั่วหมดแล้วค่ะ ไม่มีแล้ว เพราะมีการผลิตเครื่องสำอางตัวใหม่ด้วย ตอนช่วงเราหายไป เราก็พยายามทำตัวเองให้มีประโยชน์มากที่สุด อย่างคนก็จะมองว่าขวัญไปศัลยกรรมมา มันมาจากการที่เราเป็นอย่างที่เราชอบ เป็นอย่างที่เราเป็น เราถ่ายละครก็เป็นตัวเรา
ขวัญชอบแต่งแบบสายฝอ ปากเบิร์น ๆ เราก็ทำจนคนคิดว่าเราไปฉีดปาก ทำศัลยกรรมมา จริงๆ ไม่ใช่ มันมาจากแท่งลิปของเราที่มันเป็นทรีตเมนต์ มันเพิ่มเนื้อปากได้ อันนี้เป็นอีกทางเลือก แล้วก็อีกอย่างเราเป็นคนไม่มีคิ้ว หนูก็จะพยายามหาที่เขียนคิ้วมา ทำยังไงให้เป็นเส้นธรรมชาติ ขวัญก็แทบจะพลิกแผ่นดินหนีแล้วไม่รู้จะทำยังไง แต่เราก็ได้มาแล้วกำลังจะออกเดือนหน้า เป็นลายเส้นคิ้วสำหรับคนไม่มีคิ้ว ทำให้เราสวยได้แบบไม่โป๊ะ”
ไม่สนคนบอกแต่งแอปฯ จนบ้านเบี้ยว ไม่ซีเรียส ตัวจริงสวย คือจบ
“แต่ที่บางคนดรามาเรื่องเราลงรูป ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย หนูลงรูปคือเรามั่นใจแล้วว่าเราสวยถึงลง คนบอกว่าสวยอยู่แล้วไม่น่าแต่งแอปฯ เยอะเหรอ ก็ขวัญอยากสวยแบบนี้น่ะ (หัวเราะ) ถามว่านอยด์ไหมคนติดแฮชแท็กเป็นขวัญบ้านเบี้ยว ไม่เห็นเป็นไรเลย บ้านเบี้ยวแต่หน้าเราไม่เบี้ยว เราลงให้หน้าเราสวยไม่ได้ให้บ้านสวย (หัวเราะ) ก็ตลกดี เราพลาดเพราะเราดูแต่ตัวเรา อย่างขวัญไปเรียนเรื่องหุ้นมา เราก็ลงตัวเราสวย เราไม่ได้ดูหน้าจอเบี้ยว ก็แค่เบี้ยว ก็ไม่ได้เป็นปัญหาโลกแตก (หัวเราะ)
ต้องดูเยอะขึ้นไหมจากนี้เหรอ ไม่เอา ไม่ต้องสกิล เอาหน้าจริงเราสวยพอ เรื่องสกิลไม่เป็นไรพลาดกันได้ บางอย่างก็เป็นเรื่องตลกๆ น่ารัก เราก็ไม่ต้องไปซีเรียสทุกอย่างก็ได้ เอาตัวจริงสวยพอ จบ
ส่วนเรื่องแฟน ใคร มีหลายคน (ยิ้ม) คนที่พาไปงานเกรซ (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) เหรอ ไม่มี ไม่ได้มีแฟนใหม่ มีทั้งแฟนเก่าและใหม่ (หัวเราะ)”