“ป้อง ณวัฒน์” บอกไม่ได้ไปทำงานที่จีนตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด ไม่รู้เพราะปัญหาอะไร แต่เข้าใจถึงสัจธรรม อาจจะมีคลื่นลูกใหม่มาแทนตน บอกไม่มีใครฮอตไปตลอดได้ ไม่หวั่้นคนติดภาพเจ้าชู้จากละครเรื่องวันทอง ฟุ้งแสดงว่าตนเล่นถึงบทบาท
ทำเอาผู้บุกเบิกการไปโด่งดังที่จีนอย่างพระเอกหนุ่ม “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” ถึงกับต้องทำใจว่าตอนนี้คงมีคลื่นลูกใหม่มาแทนที่ตนไปซะแล้ว โดยเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงาน ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2021 ณ เซ็นเตอร์ คอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ บอกว่าเข้าใจถึงสัจธรรม เพราะคงไม่มีใครจะฮอตไปตลอดกาล
“งานที่จีนช่วงนี้บินไปบินมาก็ยาก เพราะต้องกักตัว ก็พักไปก่อน รอดูว่าหลังโควิดจะเป็นยังไง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ก็เห็นเพื่อนดาราบางคนก็มีไปกันอยู่นะครับ อันนี้ผมก็ไม่รู้เนอะ แต่ของผมก็หยุดไปโดยปริยาย
ถามว่าที่หยุดเพราะผลจากโควิดใช่ไหม ก็อาจจะหลายๆ อย่าง อาจจะไม่ได้มีงานให้เราด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ช่วงโควิดก็เงียบกันหมด แต่ไปทำงานที่นั่นผมก็ชอบนะครับ เวลาบินไปจีนเราก็เหมือนไปเที่ยวด้วย ไปเจออะไรใหม่ๆ ด้วย ได้ทำงานด้วย แฟนๆ จีนก็น่ารัก ก็อยากไปตลอดแหละครับ อากาศก็หนาวๆ ดี ถ้าเปิดหรือถ้ามีโอกาสก็จะทำครับ ดูเหตุการณ์จังหวะและโอกาส
โปรเจกต์ที่คุยไว้ก่อนหน้านี้ ก็มีหนังบ้าง ละครบ้าง อีเวนต์ก็ยังมีเยอะ เพราะเขาชอบแบบไลฟ์ เอาเราไปไลฟ์ที่โน่นก็มี ที่โน่นเรื่องไลฟ์จะเป็นที่นิยมมาก ถามว่าเสียดายไหมที่งานหายไป ก็เสียดายกันทุกคนทั่วโลกแหละ เราไม่ได้เดินทาง ทำงาน ไปเที่ยว ก็ตัดโอกาสกันหมดครับ ทั้งผู้ประกอบการในไทยด้วย ก็เสียดาย งานที่จีนห่างไปนานขนาดไหนเหรอ โห นับไม่ได้ ก็เอาเป็นช่วงก่อนโควิดแล้วกันครับ เพราะหลังๆ ถ้าไม่ได้มีละครยาวก็จะเป็นอีเวนต์บินไปไลฟ์บ้าง แต่หลังๆ ก็หยุดไปเลย”
เผยถูกเด็กเบียดร่วงเป็นวัฎจักรอยู่แล้ว ไม่มีใครฮอตตลอดกาล
“เรื่องน้องๆ รุ่นใหม่ๆ มาแทน มันก็เป็นวัฎจักรนะ เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่แค่ในจีน แต่ทั่วโลกแหละ เป็นสัจธรรมปกติครับ ใครจะฮอตได้ตลอดเวลา ไม่มีใครอยู่ได้ตลอดกาล มันเป็นเรื่องของสัจธรรม เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องปกติ”
ติดใจงานพิธีกร แต่ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ
“ก็ฝากงานพิธีกรด้วยนะครับ รายการเศรษฐีป้ายแดง ไม่หรอก อยากทำงานพิธีกรอยู่แล้ว มันก็ยังยากอยู่นะครับ ยังไม่เป็นธรรมชาติ อย่างเวลาเราเข้ากองถ่ายละคร เราจะรู้ว่าอะไรเป็นยังไง ต้องทำยังไง เราจะรู้จังหวะ แต่พิธีกรยังต้องเรียนรู้ไปอีกเรื่อยๆ ครับ เราก็ดูจังหวะพิธีกรร่วม ก็ดีครับ เราจะได้พัฒนาตัวเอง ก็ชอบนะครับ อยากทำอะไรที่เราชอบด้วย ไม่ใช่ว่าทำเพื่อได้เงินอย่างเดียว บางอย่างที่ไม่อินก็ไม่อยากไปทำ เราอยากทำคอนเทนต์ที่เราสนุกกับมันด้วย
ส่วนงานยูทิวบ์ก็เห็นเพื่อนๆ ทำกันเยอะนะ อย่างดีเจภูมิ (ภูมิใจ ตั้งสง่า) อย่างเพชรจ้า (วิเชียร กุศลมโนมัย) ก็ทำกันเยอะ ก็ดีครับ แต่จริงๆ พวกนั้นเขาเก่ง เพราะว่าคอนเทนต์ก็ต้องคิดเอง ต้องขยันด้วย สนใจ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี (หัวเราะ)”
เผยเรื่องวันทอง แตกต่างจากบทแนวเจ้าชู้มากเมียที่เคยเล่นมา
“รู้ตั้งแต่ก่อนเล่นแล้วว่าบทจะเป็นแนวนี้นะครับ ก็เต็มที่ แต่ใครดูก็จะรู้ว่าบทก็ช่วยขุนแผนเยอะ (หัวเราะ) คือเราปรับให้ทันยุคทันสมัย และให้ผู้ชมดูแล้วน่าจะสนุกที่สุดในแบบนี้ ล่าสุดก็มีซีนคอมเมดี้ ได้คุณต้นหอม (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) มาช่วย พี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) เก่งมาก เขาจะมีการเล่าเรื่องที่ดีครับ อย่างวันทองก็ว่าสองใจจริงหรือเปล่า ขุนแผนเจ้าชู้จริงไหม ขุนช้างชั่วโหดร้ายจริงหรือเปล่า ตอนจบก็จะได้รู้กันว่าเป็นยังไง
ก็คุยกับพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) นะครับว่าเล่นบทเจ้าชู้มากเมียมาเยอะ พี่บอยก็บอกว่าลองอีกทีไหมล่ะ ไหนๆ มาทางนี้แล้วก็ลองไปให้สุด ก็คือบทขุนแผนที่น่าจะเป็นบทที่สุดของความมากเมียอยู่แล้ว ก็ลองดูครับ เป็นพีเรียดด้วย ซึ่งมันจะว่าซ้ำก็ไม่ใช่ เพราะอย่างเราเล่นเรื่องอื่นเวลามีกิ๊ก มีเมียน้อย มันต้องกลัว ต้องแอบ ต้องรู้สึกผิดต่อเมียหลวง
แต่นี่แอดว๊านซ์ไปอีกขั้น ไม่ต้องรู้สึกอะไรเลย ต้องรู้สึกดีด้วย (ยิ้ม) เพราะว่าต้องเซ็ตความคิดใหม่ว่าคนยุคนั้นการมีเมียเยอะเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องเสริมบารมี เป็นคนเก่ง มันก็จะเป็นอีกอินเนอร์นึงดี อีกคาแร็กเตอร์นึง แบบที่เล่นปัจจุบันก็จะอีกแบบนึง อันนี้เรามองวันทองแปลกด้วยซ้ำว่าเมียเยอะไม่ดีเหรอ บ้านเราก็ยิ่งใหญ่ เจริญก้าวหน้า มันก็ควรจะเป็นเรื่องที่ดีสิ ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ”
ไม่หวั่นคนติดภาพเจ้าชู้ สาวๆ เข้าใจว่าเป็นแค่การแสดง
“กลัวคนจะติดภาพเจ้าชู้ไหมเหรอ ติดภาพก็ดี แปลว่าเราเล่นแล้วคนดูเชื่อ (ยิ้ม) ถามว่ากลัวสาวๆ จะไม่กล้าเข้าหาไหม ก็เล่นบทอย่างนี้มาเยอะแล้วครับ มันก็เป็นการทำงานเนอะ จะกลัวทำไม ไม่มีอะไรต้องกลัว คนที่มีเหตุผลเขาก็ต้องเข้าใจสิว่านี่คือการทำงาน คือบทบาท นางร้ายในละคร ตัวจริงก็ไม่เห็นจะร้ายสักคน เขาก็ดีทั้งนั้น นางเอกในละครตัวจริงอาจจะไม่ดีก็ได้ คือมันเป็นการทำงาน เป็นการแสดง ไม่เกี่ยวครับ”