xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีวุ่น ยุติออกอากาศซีรีส์ “Joseon Exorcist” หลังฉายแค่ 2 ตอน เหตุบิดเบือนประวัติศาสตร์เปิดศึกจีน – เกาหลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลายเป็นความวุ่นวายที่แฟนซีรีส์เกาหลีต่างงงกันเป็นแถบๆ เมื่อมีรายงานว่าซีรีส์ที่กำลังมาแรงอย่าง Joseon Exorcist จำเป็นต้องยุติการออกอากาศกะทันหัน หลังออกอากาศไปได้แค่ 2 เตือน เนื่องจากคนเกาหลีไม่พอใจเมื่อมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์จนนำไปสู่การกล่าวหาว่าทางทีมงานผู้ผลิตละครได้รับเงินลงทุนจากจีน

ตามรายงานระบุว่า บริษัทผู้ผลิตสินค้ากว่า 20 รายสั่งให้ถอนโฆษณาออกจากซีรีส์ย้อนยุคแฟนตาซีเรื่อง Joseon Exorcist หลังจากที่ซีรีส์นำเสนอเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อว่า จีน มีอิทธิพลด้านวัฒนธรรมต่อเกาหลีจนกลายเป็นการบิดเบือน

ชาวเกาหลีกว่า 163,890 คนได้ลงรายชื่อร้องเรียนไปยังบลูเฮาส์ ที่ทำการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพื่อให้ถอดซีรีส์ Joseon Exorcist ออกจากช่อง SBS หลังจากที่เริ่มออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ทีมงานของซีรีส์เรื่องนี้ได้กล่าวว่าเป็นเรื่องราวแฟนตาซีเกี่ยวกับการไล่ผี แต่เนื้อหาบางส่วนที่ปรากฏในซีรีส์ก็ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นำเสนอว่า กษัตริย์องค์ที่ 3 จากราชวงศ์โชซอน ( 1392 – 1897 ) ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์ และกษัตริย์องค์ที่ 4 หรือ พระเจ้าเซจง ผู้ประดิษฐ์ภาษาเกาหลี ได้ต้อนรับอาคันตุกะภายในห้องรับรองด้วยอาหารจีน ที่มีขนมไหว้พระจันทร์รวมอยู่ด้วย

ผู้ชมต่างพากันวิจารณ์ใน Naver เว็บไซต์ดังเกาหลีระบุว่าเป็นการนำเสนอความไม่ถูกต้องในประวัติศาสตร์ขั้นต้น และยังมีการพรรณนาถึงอิทธิพลของจีนที่ไม่ถูกต้อง

ศาสตราจารย์ ซอคยองดักจากมหาวิทยาลัยสตรีซองชิน ที่เป็นนักเคลื่อนไหวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเกาหลี ได้เขียนโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่า ละครเรื่องนี้ทำให้ความขุ่นเคืองของคนเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีประเด็นที่ชาวจีนอ้างว่าวัฒนธรรมเกาหลีอย่างเช่น กิมจิ อาหารเกาหลีที่ทำจากกะหล่ำปลีดองมีต้นกำเนิดมาจากจีน จนกลายเป็นการเปิดศึกกิมจิที่แย่งชิงการเป็นต้นกำเนิดตามอินเทอร์เน็ตระหว่างชาวจีนและเกาหลีจนกลายเป็นความเกลียดชังกันและกัน นอกจากนั้น ซอคยองดัก ยังระบุว่า ซีรีส์เกาหลีตอนนี้โด่งดังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ดังนั้นจึงไม่ควรแสดงประวัติศาสตร์ที่ผิดๆออกไปให้ผู้ชมทั่วโลกได้ดู

พอกลายเป็นประเด็นเดือดในเกาหลีใต้ ค่ายมือถืออย่าง KT และ บริษัทโซจูชื่อดัง HiteJinro และอีกกว่า 24 สินค้าต่างสั่งถอนโฆษณาจากซีรีส์เรื่องนี้ทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่อนุญาติการถ่ายทำก็ยกเลิกข้อตกลงกับกองถ่ายนี้ทันทีเช่นกัน

ทางด้านสถานี SBS และทีมงานที่ผลิตละคร ก่อนหน้านี้ยังออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่า จีน ได้ลงทุนในซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่าเป็นการผลิตโดยทุนของเกาหลี และยืนยันว่าจะแก้ไขตอนต่อๆไปทั้งหมด รวมถึงตัวละครต่างๆ และจะตัดต่อรวมถึงถ่ายซ่อมส่วนที่มีปัญหาทั้งหมดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ล่าสุดวันที่ 26 มี.ค. ทางสถานี SBS ได้ยืนยันแล้วว่า ซีรีส์ Joseon Exorcist จะยกเลิกการถ่ายทำเป็นการถาวร โดยบริษัทที่ร่วมผลิตละครเรื่องนี้ทั้ง YG Studioplex, Creative Works และ Lotte Culture Works ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันระบุว่า

“สวัสดี นี่คือการแถลงร่วมของบริษัทผู้ผลิต Joseon Exorcist

ก่อนอื่นเราต้องขอโทษอย่างจริงใจไปยังผู้ชมละครทุกท่าน เราได้ตัดสินใจเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นผ่านทางแถลงการณ์นี้เพื่อรับผิดชอบและตอบข้อซักถามที่มีเข้ามามากมาย ที่ต้องการให้ชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกการถ่ายทำละคร ตามที่ SBS ได้แถลงไปก่อนหน้านี้

ตอนนี้กองถ่ายละครได้ยุติการทำงานทุกอย่างแล้ว

เราได้ทราบถึงความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเราได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทีมงาน และบริษัทในเครือทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซีรีส์เรื่องนี้ รวมไปถึงสัญญาการจัดจำหน่ายซีรีส์ Joseon Exorcist ในต่างประเทศก็จะถูกยกเลิก นอกจากนั้นตามแพลตฟอร์มสตรีมมิงซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็จะถอดละครเรื่องนี้ออกจากแพลตฟอร์มภายในวันนี้เช่นกัน”

อย่างไรก็ตามแม้จะมีแถลงการณ์ออกมา แต่ก็เกิดข้อกังขาจากชาวเน็ตที่ตีความคำแถลงการณ์ไปว่า มีความเป็นไปได้ที่ละครเรื่องนี้จะยังคงถ่ายทำต่อไป และในอนาคตอาจจะขายต่อให้กับตลาดต่างประเทศ

ส่วนทางด้านนักแสดงของเรื่องทั้ง ดองจุน, จองฮเยซอง และ อียูบี ต่างก็รีบทำตามนโยบายของสถานีที่ยืนยันยกเลิกออกอากาศซีรีส์ ด้วยการลบภาพโปรโมทซีรีส์เรื่องนี้ออกจากโซเชียลมีเดียของตนเองทั้งหมด

ทางชาวเน็ตเองก็ยังมองว่าบรรดานักแสดงของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ควรรอดพ้นความผิด เพราะพล็อตเรื่อง Joseon Exorcist ได้บอกชัดเจนว่ามีจุดมุ่งหมายที่จะ บิดเบือน รวมถึง ล้อเลียน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโชซอน อยู่แล้ว จึงถือว่ามีส่วนรู้เห็นในการบิดเบือนประวัติศาสตร์เช่นกัน











กำลังโหลดความคิดเห็น