“ฟิล์ม” เผยให้เงิน “ลาล่า” 2 แสนบาทจริง แต่แค่ให้ยืม เพราะเห็นว่าเดือดร้อน ไม่มีรถใช้ กลัวจะอันตราย บอกไม่จำกัดเวลาคืน มีเมื่อไหร่ค่อยเอามาใช้ บอกวงการนักร้องลำบากสุด ร้องไห้กันหมด ให้คนใกล้ตัวยืมเงินไปหลายล้านแล้ว
หลังจากที่ผันตัวเองไปลุยงานสายเมืองมาพักใหญ่ ตอนนี้หนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ได้โอกาสหวนกลับสู่งานละครอีกครั้ง กับละครเรื่อง "ตะวันตกดิน" ของค่าย Change 2561 ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าไม่ค่อยถนัดสายดรามาเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับโอกาสและบทโดนใจก็พร้อมทำให้เต็มที่เพื่อแฟนๆ ที่รอคอย
“คิดถึงวงการอยู่แล้วครับ แล้วผมก็ไปเดินเส้นทางที่ผมชอบ ไปการเมืองบ้าง ไปธุรกิจบ้าง แต่เมื่อได้มีโอกาสก็กลับมาเล่นอยู่แล้ว บวกกับทางผู้ใหญ่ทางเชนจ์เขาให้โอกาสด้วย พออ่านบทก็รับเลย เพราะว่าสนุกมาก และมันเหมือนเราจริงๆ ในพาร์ตของธุรกิจนะ น้อยมากที่ผมจะมาเล่นแบบนี้ ส่วนใหญ่ผมจะเล่นแต่ตลก ผมไม่ชอบเล่นอะไรเครียดๆ เพราะแค่บริหารงานทุกวันผมก็เครียดอยู่แล้ว
ก็ต้องเคาะสนิมบ้างครับ ทางเชนจ์ก็มีให้ไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติมครับ ก็มีละครติดต่อมาเยอะครับ แต่ในยุคสมัยละครที่จะสร้างเรตติ้งได้ก็มีแต่ดรามา มันก็ไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่ แต่ก็มีผู้จัดที่เอ็นดูเรา เขาก็ส่งมาให้ตลอด แต่ส่วนใหญ่เราจะเลือกที่เป็นตลกไว้ก่อน อะไรที่เป็นดรามาเราก็บอกให้เขาเลือกคนอื่นก่อนดีกว่าไหม ถามว่าคาดหวังการกลับมาจากแฟนๆ ไหม ก็คาดหวังครับ อยากให้เขาประทับใจ อยากให้เขาชอบ ก็ทำเต็มที่ครับ ขอบคุณโอกาสที่ผู้ใหญ่มอบให้ด้วย”
บอกให้เงิน “ลาล่า อาร์สยาม” 2 แสนบาทจริง แต่ให้ยืม ไม่ได้ให้เฉยๆ
“ก็ยังงงว่าเป็นข่าวเลยเหรอ ปกติผมก็ช่วยอยู่แล้วนะ ไม่ใช่แค่พี่ลาล่าหรอก ใครที่เป็นครอบครัวเรา เราก็ช่วยอยู่แล้ว เพราะว่าสงสารเขา แต่ผมก็ช่วยนานแล้วนะ ผมก็ถามว่าทำไมเพิ่งเป็นข่าว เขาก็บอกว่าเพิ่งตัดต่อเสร็จ (หัวเราะ) คือประมาณว่าเขาจะมีทีมงานของเขาทำคลิปอะไรให้มันตลกๆ ช่วยไปก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วครับ แต่เราก็ไม่ได้ให้ไปเลยนะ อย่างที่เขาบอกว่าเราให้ยืม ไม่ใช่ว่าผมรวยมากเอาเงินไปให้เขา มันไม่ใช่อย่างนั้น
ก็ให้ยืมไป 2 แสนบาทครับ เพราะจากที่สอบถามคือเขาอยู่ดีๆ ก็ไม่มีรถ ขีวิตผู้หญิงมันก็สำคัญนะ แล้วแกก็อายุประมาณนึงแล้ว (หัวเราะ) คืออยู่ๆ ให้นั่งแท็กซี่ทุกวันมันก็ไม่ใช่เรื่อง ผมเห็นว่าแค่นี้เองก็ไม่ได้ลำบากอะไร ถามว่าเขามาขอยืมเราก่อนเลยไหม ไม่มีๆ ลองดูในโซเชียลของเขาได้ว่ากี่ปีๆ ผมก็เป็นแบบนี้ และช่วงแรกที่โควิดมาใหม่ๆ เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วผมก็เอาหน้ากากไปให้เขาขาย ให้เขามีรายได้ในตอนนั้น เอาเขามาถ่ายรายการโปรโมตที่เรามีโปรดักชั่นของเราเองก็ให้ค่าตัวเขาทั้งสองคนแหละ”
บอกเข้าใจดีว่าช่วงนี้กลุ่มนักร้องกำลังแย่ ถ้าช่วยได้ตนก็ช่วยเต็มที่
“คือมันผูกพันกันน่ะครับ เราโตมาพร้อมกัน เรารักกัน ใครก็ตามที่นับว่าเป็นครอบครัว มันก็ไม่ควรทิ้งกัน จริงๆ ถ้ามองผิวเผินเห็นว่าเขาขำทุกวันมันก็มองว่าเขาไม่ได้ลำบากนะ แต่จริงๆ แล้วลึกๆ ผมว่าไม่ใช่แค่เขาหรอก ผมเชื่อว่าอาชีพที่เป็นนักร้อง ยิ่งลูกทุ่งเนี่ยร้องไห้ทุกวัน สตริงยังร้องเลย จริงๆ ถ้าเกิดผมไม่มีธุรกิจผมก็ร้อง แต่ผมก็ปูทางของผมไว้นานแล้ว เพราะผมรู้ว่าอนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอน เชื่อว่าทุกคนร้องไห้กันหมดยิ่งในยุคแบบนี้ เศรษฐกิจแบบนี้
นักร้องลูกทุ่งนี่หนักเลย ส่วนใหญ่งานก็จะมีแค่โรงเบียร์กับงานวัด ผมรู้เลยว่าเขาต้องลำบากแน่นอน แต่ผมก็ไม่เคยโทร.ไปถามหรือไปยุ่งอะไรนะ เพราะว่าถ้าเขามีความสุขเราไม่ยุ่งอยู่แล้ว แต่เพราะมันดันมีข่าวว่าเขาขายรถ ผมก็โทร.ไปตั้งแต่วันแรกเลยว่าพี่เดือดร้อนไหม ถ้าเดือดร้อนก็บอกนะ เขาก็ถึงจะกล้าพูดออกมาบอกว่าหนักเลย ผมก็เลยให้ไป ก็ช่วยเหลือกันประจำนะครับ”
บอกไม่ได้เป็นการไปเพิ่มภาระหนี้ให้ แค่อยากช่วยเหลือ มีเมื่อไหร่ค่อยใช้คืน
“ที่มีคนแซวว่าเขาอยากจะลดหนี้สิน แต่เรากลับจะไปเพิ่มหนี้สินให้เขาใช่ไหม จริงๆ แล้วอย่าเพิ่งไปคิดถึงปลายทางเลย เราเอาต้นทางให้รอดก่อนดีกว่า และเขาเป็นผู้หญิงถ้าเกิดเขาเดินทางด้วยแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างตลอดเวลา ผลเสียมันน่าจะเกิดมากกว่าถ้าอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น เราอาจจะแก้ไขไม่ทัน
แต่สิ่งที่เราเข้าไปช่วยเหลือมันเป็นน้ำใจที่เรามอบให้กันมากกว่า เขาอาจจะไม่ต้องเอาไปดาวน์รถก็ได้ แต่หลักๆ แล้วผมเห็นเขาเดือดร้อนตรงนี้ เขาก็เอาเงินไปดาวน์รถ และผมก็คำนวนให้เขาแล้วด้วยว่าพี่ต้องผ่อนเดือนเท่าไหร่ ต้องทำยังไง เปิดหนทางทำธุรกิจให้เขา ทีนี้ก็อยู่ที่เขาเองแล้วว่าเขาจะดำเนินชีวิตตัวเขาเองยังไง
ปัญหาเรื่องเงินกับความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว ไม่เป็นไรหรอก คนยืมเงินผมตั้งเยอะตั้งแยะ คนใกล้ตัวผมไม่คืนก็มี ผมก็ทวงนะ ไม่ใช่ไม่ทวง (หัวเราะ) แต่ทำยังไงได้ มันโตมาด้วยกันน่ะ ถ้ารวมๆ เงินคนที่ติดผมก็หลายล้านครับ ให้ยืมหลายคนครับ คนใกล้ตัวทั้งนั้นแหละครับ ส่วนกับของพี่ลาล่านี่ผมคุยกันไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คือมีเท่าไหร่ก็ให้มาเถอะ ไม่ได้กำหนดว่าต้องคืนเมื่อไหร่ ผมวางแผนชีวิตให้เขาเลยเดือนเม.ย.ไปแล้วด้วยซ้ำ ผมถามเขาว่าเดือนเม.ย.พี่มีกี่งาน พี่ต้องทำยังไงบ้าง ผมวางแผนให้เขาไว้หมดแล้ว”