“คำภีร์ อลังการ” ดีไซเนอร์ปลากัดลาวยืนยันทำชุดนี้มาตั้งแต่ปี 2018 บอกมีแบบสเก็ตชัดเจน แต่ชุดของตนจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ส่วนเรื่องสีที่บอกว่าเหมือนกัน ตนมองว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ไม่มีกฎเกณฑ์ ใครก็มีสิทธิทำออกมาแบบไหนก็ได้ แต่ก็พร้อมขอโทษถ้าทำให้เกิดเป็นประเด็นดรามาระหว่างประเทศขึ้นมา ด้าน “ณวัฒน์” เผยไม่ขอออกความคิดเห็นเรื่องนี้ แต่ตนก็เห็นสิ่งที่ดีไซเนอร์เอามายืนยันว่าทำมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วจริงๆ บอกคนไทยต้องใจกว้าง อย่าตีกันเพราะเรื่องแค่นี้ให้เป็นปัญหาระหว่างประเทศเลย
หลังจากที่เกิดเป็นประเด็นโต้เถียงกันระดับประเทศระหว่างไทยกับลาว เรื่องชุดประจำชาติปลากัดที่ออกจะคล้ายกันอย่างมากของ “โตหมิว พัฒนา” สาวงามจากเวทีมิสแกรนด์ลาว 2020 กับชุดปลากัดลาว ที่ออกแบบโดย “คำภีร์ อลังการ” และฝั่งเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2020 ที่สาว “อแมนด้า ออบดัม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 จะสวมใส่ชุดไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา ขึ้นเวที Miss Universe 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ที่ออกแบบโดย “อัครัช ภูษณพงษ์” จนตอนนี้ก็ยังเป็นประเด็นทีถกเถียงกันไม่เลิก
ล่าสุดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเวที มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 โดย “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานและผู้ก่อตั้ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดอวดโฉมในชุดประจำชาติจากสาวงามทั้ง 63 ประเทศ ณ SHOW DC HALL ซึ่งพอจบโชว์ทาง “คำภีร์ อลังการ” ดีไซเนอร์ที่ออกแบบชุดประจำชาติปลากัดลาว พร้อมทั้ง “โตหมิว พัฒนา” มิสแกรนด์ลาว 2020 จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นว่า
หมิว : “ความรู้สึกคือดีใจ เพราะหมิวก็ชื่นชมผลงานของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นผลงานของใครก็ตาม หมิวคิดว่ามันเป็นผลงานที่สวยงาม น้องเป็นคนลาว น้องชื่นชมอยู่แล้ว และดีใจที่ได้ใส่ชุดผลงานของพี่เขา และพี่เขาก็เป็นคนไทย อยู่ที่ประเทศไทยด้วย ถามว่าก่อนหน้านี้ได้เห็นการดีไซน์ชุดนี้ไหม ก่อนอื่นต้องบอกว่าชุดนี้ออกแบบมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว เพื่อว่าจะทำให้กับมิสแกรนด์ลาว 2019 ตอนนั้นน้องเป็นรอง ตอน 2019 เลยไม่ได้ไป เนื่องจากว่าการทำวีซ่าต่างๆ มันไม่ทัน แต่พอมาเป็นปี 2020 ก็เป็นปีของน้อง และน้องก็รู้ตัวแล้วว่าจะได้ใส่ชุดปลากัด
สำหรับปลากัดกับคนลาว มันเป็นการละเล่นของคนลาวอยู่แล้ว คนลาวจะรู้กันดีในเรื่องของการตีปลากัด เรื่องการเลี้ยงปลากัดถ้าทุกคนได้ไปศึกษาดีๆ มันก็มีสตอรี่เรื่องราวของคนลาวกับปลากัดด้วย ส่วนเรื่องดรามาที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่คนลาวจะให้กำลังใจหมิว เพราะหมิวมาทำหน้าที่ให้กับประเทศ หมิวเป็นคนเดียวที่มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้รู้ และแน่นอนว่าทุกคนก็ต้องจับตา ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่ามันมีความกดดัน หลายคนก็เลยให้กำลังใจสำหรับแฟนคลับทางลาวค่ะ ถามว่าตอนนั้นเห็นแบบมั้ย ตอนนั้นน้องเห็นแต่โครงค่ะ แต่น้องรู้อยู่แล้วว่าเป็นปลากัด”
ยืนยันตนเป็นผู้ออกแบบชุดนี้ขึ้นมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว
คำภีร์ : “ถามว่ามั่นใจใช่มั้ยว่าเราออกแบบก่อนจะมีดรามาเกิดขึ้น ใช่ครับ ชุดนี้ผมมั่นใจว่าผมออกแบบ และทำขึ้นมาเอง เพราะจริงๆ แล้วชุดนี้ผมตั้งใจขายกลไกของชุดที่มันขยับหัวได้ ตอนพรีเซ็นท์ทุกคนเห็นมั้ยครับว่าตรงหัวปลามันสามารถกระดิกได้ และสิ่งหนึ่งที่ผมคิดเอาก็คือเรื่องของเกล็ด เรื่องของการเอาตัวปลาอยู่ด้านหน้า หางปลาอยู่ด้านหลัง ถ้าทุกคนย้อนกลับไปดูในมิสแกรนด์กาญจนบุรี ตัวนั้นผมเป็นคนไทยที่ทำเป็นคนแรกๆ ที่มีลักษณะเป็นชุดแบบนั้น เพราะด้วยชุดสไตล์คอสเพลย์ ผมเป็นคนริเริ่มซะด้วยซ้ำถ้าพูดถึงในประเทศไทย ผมก็เลยคิดว่าการทำงานสไตล์นี้ มันก็ไม่แปลกที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ผมมั่นใจว่าคนแรกที่ทำก็คือผมทำสไตล์นี้มา
ถามว่าชุดนี้ออกแบบให้มิสแกรนด์ลาวโดยเฉพาะ หรือเผื่อให้จังหวัดอื่นด้วย ชุดนี้หลักการออกแบบของงานผม คือเราจะขายไอเดียอะไรเวลาที่เราจะขึ้นเวที ผมก็เลยคิดว่าถ้าเป็นงานผ้าโดยตรงผมไม่ถนัด ถ้าเป็นงานติดเพชรหรือปักเพชรลงไปบนผ้าผมไม่ถนัด ผมก็เลยต้องหาจุดขายของตัวเอง อย่างที่ผมบอกเลยว่าคือการทำชุดให้มันดูมีความแปลกใหม่ และคนอื่นคิดว่าเวลาอยู่บนเวทีแล้วมันมีความว้าวในตัวของมัน และนี่คือชุดของคำภีร์ อลังการแน่นอน อยากให้คนติดตามว่าชุดของคำภีร์มาเวทีนี้ ถ้าเวทีถัดไปเขาจะทำอะไร สิ่งแรกที่ผมคิดก็คือทำยังไงให้ปลาผมขยับได้ พอผมคิดวิธีได้เสร็จ ผมก็พยายามหาวิธีจะไปเวทีสากลให้ได้ และเวทีที่ผมคิดได้ตอนนั้นก็คือเวทีของประเทศลาว เพราะผมมองว่ามันไม่ต้องมีการแข่งขันภายในประเทศ ผมก็เลยตั้งใจเลยว่าจะให้เป็นตัวแทนของประเทศลาวเลยครับ”
บอกมีการสเก็ตภาพไว้ แต่งานของตนมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว
คำภีร์ : “ถามว่าตอนที่ผมมีแบบสเก็ตไว้มั้ย ถ้าเป็นงานของผม คือผมไม่ได้ทำงานแบบวาดภาพแล้วก็ทำ แต่ผมจะทำไปเรื่อยๆ ถึงจะรู้ว่าอันนี้ทำได้ อันนี้ทำไม่ได้ แต่แบบสเก็ตมีนะครับ แต่งานทุกชิ้นของผมจะมีการแก้ไขไปเรื่อยๆ เพราะงานของผมบางครั้งใส่แล้วเดินได้ บางครั้งใส่แล้วเดินไม่ได้ ตอนนั้นชุดนี้ผมคิดค้นตอนประมาณปี 2017 พอ 2018 ผมก็ทำมาเรื่อยๆ (โชว์รูป) รูปนี้คือชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์สลาวยังไม่เสร็จครับ ปี 2018 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพน่ะครับ ผมก็ได้ศึกษาเรื่องปลากัดของลาวนะครับ ก่อนที่ผมจะทำอะไรผมก็ศึกษาบ้าง แต่เราก็ศึกษาในระดับนึงที่เราพอจะศึกษาได้ ทีนี้เรื่องสีที่คนมองว่าเหมือนกัน ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะทำเป็นสีน้ำเงินเป็นสีหลัก แต่ถ้าเราจะทำให้มันมีมิติ ผมก็ต้องแซมสีฟ้าเข้าไป สีน้ำเงินเลยต้องเบาลง ก็ทำให้สีน้ำเงินสว่างขึ้นครับ และสีแดงกับสีน้ำเงินถ้ามันมาอยู่ใกล้กันมันจะกลายเป็นม่วงหรือไม่ก็กลายเป็นดำเลย ผมก็เลยเอาสีขาวเข้ามาแซม
ถามว่าได้เห็นชุดของอีกเวทีนึงมั้ย ตอนนั้นชุดของเรายังไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ประมาณสัก 80% อย่าบอกว่าเอาแนวความคิดเขามาปรับเลย เพราะถ้าเป็นงานศิลปะทุกคนมีสิทธิที่จะทำได้หมดเลย ทุกคนมีความคิดในรูปแบบของตัวเองได้ ทุกคนสามารถสร้างงานศิลปะในรูปแบบตัวเองได้ แต่ที่คนมองว่าเราก๊อปปี้ ผมก็ขอโทษนะครับ ผมพูดจากใจเลย เพราะว่าถ้าเราเป็นคนทำงานศิลปะ ทุกคนมีสิทธิที่จะทำงานละม้ายคล้ายคลึงกัน หรือใกล้เคียงกันได้หมดเลย งานศิลปะมันไม่มีกรอบ ไม่มีถูก ไม่มีผิด แต่มันอยู่ที่ว่าคุณตั้งใจทำมันมากแค่ไหน และคุณตั้งใจทำมันเพื่ออะไรมากกว่า”
พร้อมขอโทษถ้าทำให้เกิดข้อพิพาท แต่ไม่เข้าใจว่าโดนปลดจากเวทีมิสยูนิเวิร์สลาวด้วยเรื่องอะไร เพราะไม่เคยมีสัญญาลายลักษณ์อักษร
คำภีร์ : “ถ้าผมอยากจะขอโทษ ผมอยากขอโทษที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดในรูปแบบไหน หรือว่าคนไทยหรือคนลาวที่มีการโต้แย้งกัน ตรงนี้ผมอยากขอโทษ ทุกเรื่องผมขอโทษได้หมดแหละครับ ถ้าสมมติว่าผมขอโทษแล้วทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น
ที่บอกว่าผมโดนปลด ทำไมถึงโดนปลดล่ะครับ คำว่าปลดมันต้องมีการแต่งตั้งก่อน แต่นี่ผมยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งนะครับ ผมเป็นสปอนเซอร์ในการทำชุดให้น้องจริงครับ แต่ผมยังไม่รู้นะครับว่าปลด เพราะเราไม่ได้มีเอกสารรับรองเป็นที่แน่ชัด แต่เหมือนมิสยูนิเวิร์สเป็นเวทีที่ผมได้รางวัลมาแล้ว และผมสามารถทำประวัติศาสตร์ให้กับประเทศลาวแล้ว ผมก็เลยคิดว่า ณ จุด
นี้ผมภูมิใจแล้วล่ะครับที่ผมสามารถทำให้คนลาวมีชื่อเสียงในด้านนี้ได้ ถามว่าผมต้องขอโทษน้องมั้ยที่ทำให้เป็นประเด็นดราม่า คือวันแรกที่เราให้น้องใส่ชุด เราก็คุยกันเรื่องชุด น้องก็โอเคนะ น้องก็ชอบ”
หมิว : “ถามว่านอยด์มั้ย ไม่นะ เพราะหนูตั้งใจมาแล้ว หนูซ้อม แล้วหนูก็ได้เทรนด์การเดินอะไรต่างๆ แล้ว หนูก็ต้องใส่ชุดนี้ขึ้นแน่นอน เพราะว่าหนูเป็นตัวแทนมาแล้ว หนูก็ต้องทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ก็คาดหวังค่ะ”
คำภีร์ : “น้องก็คาดหวังนะครับ เพราะระหว่างที่น้องเก็บตัวที่มุกดาหาร เราก็มีไลฟ์สดให้น้องซ้อมกับชุดด้วย”
หมิว : “ถามว่าหนูได้ผลกระทบอะไรจากเรื่องดรามานี้บ้าง ก็มีคนเข้ามาด่าเยอะค่ะ แต่ส่วนมากก็เป็นฝั่งไทย แต่ก็ไม่แปลกเนอะ เพราะทุกคนก็มีสิทธิที่จะออกความคิดเห็น แต่ส่วนตัวหมิวแล้วคิดว่าไม่อยากให้เกิดประเด็นดรามาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าลาวกับไทยก็เป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน มีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ลาวไปเวทีระดับโลกแน่นอนว่าทางไทยก็ช่วยเหลือทางลาวตลอด หมิวก็ไม่อยากให้มีประเด็นนี้ขึ้นมา แต่ตัวหนูจะสู้ต่อแน่นอนค่ะ ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพราะน้องเป็นตัวแทนมาแล้ว (ยิ้ม)”
ทางด้าน “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ในฐานะเจ้าของเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่าตนไม่ขอออกความเห็นว่าใครผิดหรือถูกในเรื่องนี้
“เรื่องดรามานี้จริงๆ ผมไม่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ว่าใครผิดใครถูก เพราะผมเป็นผู้ดูแลการประกวดระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเหมือนกับมิสยูนิเวิร์สและมิสเวิลด์แหละครับ เวลาที่เราให้ลิขสิทธิ์ประเทศไหนไป นั่นหมายความว่าเขาต้องจัดเตรียมทุกอย่าง เราจะไม่รู้หรอกครับว่าเขาเตรียมอะไร เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเตรียมชุดปลากัดมา แล้วหลายคนถามว่าผมให้ขึ้นเวทีมั้ย ผมต้องให้ขึ้นเวทีครับ เพราะเราไม่มีข้อกำหนดว่าห้ามชุดแบบนี้ขึ้น เนื่องจากแบบนั้น เนื่องจากเหตุผลนี้ เพราะอย่างที่เราเห็นว่าวันนี้ลาตินก็มีชุดสไตล์ของคานิวัลไม่ต้ำกว่า 10 คน ซึ่งขึ้นเวทีเดียวกัน เขาก็ยังมาชนกันได้ และแน่นอนครับเวทีมิสยูนิเวิร์สหรือมิสเวิลด์คนลาตินก็มีชุดคานิวัลเยอะแยะมากมาย ซึ่งมันก็ซ้ำ ผมว่ามันเป็นเรื่องแฟร์นะครับ และเป็นเรื่องของศิลปะและความสนุก ตามหลักเกณฑ์ผมก็ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปคอมเพลนหรือไปบอกว่าให้หยุด
ถามว่าพอมีข่าวดรามาน้องเขาเครียดมั้ย ไม่เครียดครับ ก็มีเรียกมาถามครั้งนึง ก็คือเมื่อวานซีนถามว่ายังจะใช้ชุดนี้อยู่มั้ย ถามเพื่อยืนยัน เพราะว่าเราต้องเตรียมกราฟฟิก น้องก็บอกว่ายืนยันแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะขนมาด้วยความยากลำบาก และได้มีการเตรียมตัวไว้เรียบร้อย ก็เป็นสิทธิของทางน้องหมิว น้องเขาบอกว่าพร้อมก็พร้อม อยากจะใช้ก็ต้องให้เขาใช้ครับ ถามว่ากระแสดรามาส่งผลต่อการตัดสินมั้ย ไม่เกี่ยวครับ การตัดสินของผมเป็นสไตล์ผมอยู่แล้ว มิสแกรนด์ของเราค่อนข้างที่จะยุติธรรม จริงๆ แล้วไม่อยากให้มีดรามาเยอะๆ นะ
จริงๆ แล้วผมว่าวัฒนธรรมเป็นเรื่องของความหลากหลาย และเราก็ตัดสินยากมากนะว่าวัฒนธรรมจริงๆ แล้วเป็นของใคร เพราะอย่าลืมว่าดินแดนในแถบนี้มันเป็นดินแดนสุวรรณภูมิ เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่มันเหมือนอยู่ร่วมกันมาก่อน ก็อยากให้ทำใจกว้างๆ บางคนบอกว่าโขนก็เป็นของอีกประเทศนึง บางคนก็บอกโขนเป็นของไทย บางคนบอกว่าวเป็นของมาเลเซีย บางคนบอกเป็นของอินโดนีเซีย บางคนบอกเป็นของไทย ผมว่ามันมีวัฒนธรรมที่ละม้ายคล้ายกันมาก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมว่าต้องยืนอยู่บนหลักการที่อลุ่มอล่วยและเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า”
บอกตนได้เห็นต้นแบบที่ดีไซเนอร์เอามาให้ดู เห็นว่าทำมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วจริงๆ
“ส่วนเรื่องดีเทลของปลากัดเนี่ย ผมขออนุญาตไม่ออกความคิดเห็นว่าเรื่องปลากัดพันธุ์นี้หรือพันธุ์ไหนก็แล้วแต่ แต่อย่างเมื่อสักครู่นี้ผมเองก็ได้มีการเช็กข้อมูลกับดีไซเนอร์อีกทีนึง ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องเช็กก็ได้ น้องเขาก็บอกว่าเขาออกแบบมาตั้งแต่ปีที่เขาทำชุดที่ชนะของยูนิเวิร์ส ซึ่งมีภาพในการเริ่มทำหัว ทำหาง และเผอิญว่าในซีนนั้นมันมีปลากัดอยู่ด้วย มันก็เลยเป็นหลักฐานว่าปลากัดตัวนี้เริ่มต้นคิดมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และไม่ประสบความสำเร็จในการขึ้นโชว์มา 2 ครั้ง และครั้งที่เวเนซุเอล่าก็คือไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับนางงาม เพราะเผอิญว่าสถานทูตเวเนซูเอล่าในลาวไม่มี น้องต้องเดินทางไปต่างประเทศในการขอวีซ่า แล้วค่อยกลับมา ซึ่งยุ่งยาก อันนี้คือข้อมูลที่ผมได้รับ และขอดูรูปภาพที่เป็นหลักฐาน ซึ่งแค่ดูเฉยๆ นะครับ แต่ก็ไม่ขอวิจารณ์ เพียงแค่ให้รู้ว่าฝ่ายนี้เป็นแบบนี้ ฝ่ายนี้เป็นแบบไหนเท่านั้นเอง แต่ผมไม่ได้บอกว่าฝ่ายไหนผิดเลย เพราะว่าถูกทั้งสองฝ่าย
แต่ถามส่วนตัวผมคิดว่าเหมือนมั้ย ก็เหมือนครับ คล้ายๆ นะ ก็เหมือนธรรมดาครับ โขนก็คงเหมือนโขน ปลากัดก็คงเหมือนปลากัด ได้คุยกับอีกเวทีมั้ยเหรอ ไม่ครับ ไม่เกี่ยวกับผม (ยิ้ม) เพราะว่าผมระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ต้องให้เขาคุยกันเองในระดับประเทศครับถ้าเขาอยากจะคุย อันนี้ต้องให้ทุกคนไปดูรูปเอาแล้วกัน เพราะผมก็ขอเช็กรูปอยู่หลายรูปเหมือนกัน แต่จากเรื่องเล่าจริงๆ แล้ว สตอรี่นี้มันก็มีมานานแล้วนะ มีมาตั้งแต่ปีแพมแล้ว และยังมาปีกาญจนบุรี เปลี่ยนเป็นปลายี่สก แล้วก็มาเห็นว่าขณะที่ทำสองอัน แล้วทิ้งอันนึงไว้ก็คือปีที่เป็นตัวแทนประเทศลาวที่ชนะ ก็เห็นสตอรี่มาตลอดครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของผมครับ ผมว่าผมให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย
จริงๆ แล้ววัฒนธรรมเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ และปรับปรุงพัฒนากันได้ อย่ายึดติดว่าเป็นของใคร เพราะการยึดติดเป็นของใคร สิ่งที่สำคัญเลยนะต้องยึดติดผ่านกฎหมาย ยังไม่มีใครจดลิขสิทธิ์ แต่เท่าที่ตอนนี้ดูรู้ในหลักกฎหมายมันยังไม่มี ถ้าพูดถึงหลักกฎหมายทุกคนก็อิสระ และยังมีเวลาในการไปปรับแต่งอีก ก็อีกเรื่องนึงครับ ซึ่งสนิทกันทั้งสองฝ่ายนะ คนออกแบบทั้งสองฝ่ายก็สนิทกับผม คือสำหรับแฟนๆ ที่กำลังตีกัน จะตีกันทำไมครับ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตเลย สบายๆ และทำใจเป็นกลาง เราคนไทยต้องใจกว้างๆ อยู่แล้ว อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องไม่สบายใจของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นหลายๆ ครั้งที่เรามีประสบการณ์กับต่างประเทศมาแล้ว ฉะนั้นบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น และเมืองไทยเป็นเมืองที่มีความอลุ่มอล่วย โอบอ้อม ก็อยากให้ความเมตตากับทุกๆ คนด้วย เอาจริงๆ เราจะมาบลัฟกันเพื่ออะไร มันไม่มีประโยชน์ นี่เขาก็โชว์แล้ว อย่างน้องมิสยูนิเวิร์สก็ไปโชว์ต่อ ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
บอกวันนี้ “น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ์” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ก็เต็มที่ในแบบของตนแล้ว
“วันนี้น้องน้ำก็เต็มความสามารถเขาครับ เล็กพริกขี้หนู เรือลำเบ้อเร่อเท่อ (ยิ้ม) ก็ต้องยอมรับครับว่าศึกครั้งนี้ไม่ใช่หนักเฉพาะน้ำหนัก แต่หนักที่ผู้เข้าประกวดเยอะเหลือเกิน ก็ต้องฝากกำลังใจให้กับน้องเยอะๆ หน่อยนะครับ เพราะเวทีเรายุติธรรมเสมอ ถ้ามีคนที่ดีกว่ายังไงก็ต้องเป็นไปตามความจริง ไม่ให้ใครมาค้านได้ เราก็ต้องยอมรับว่าประเทศอื่นน่ากลัวเยอะ พรุ่งนี้รอบพรีลิมเราจะรู้เลย ใครพลาดนิดเดียวก็ถือว่าเป็นจุดบอดที่ทำให้เอาเขาลงได้เลย เพราะเรื่องรูปร่างเราได้แอบเช็คแล้วครั้งนึง ค่อนข้างที่จะปราบกันยาก รูปร่างดีกันเยอะ ทีนี้ก็เหลือโชว์ว่าพรุ่งนี้ใครจะทำโชว์
ได้น่าสนใจกว่ากัน”
“ก็ฝากพรุ่งนี้นะครับรอพรีลิม 19.00 น. ทางช่องยูทิวบ์ของเรา มีทั้งสองชุด ชุดราตรีและชุดว่ายน้ำ ส่วนวันตัดสินวันที่ 27 ก็ 19.00 น.เช่นกัน รู้ผลแน่นอนครับว่าใครจะเป็นมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นนอล 2020 ครับ”
