“นุ้ย สุจิรา” เปิดเส้นทางดาวติ๊กต็อก ติดมากต้องลงวันละคลิป เห็นคอนเทนต์ต้องรีบถ่าย ถ้าทำไม่ได้จะนอนไม่หลับ แจมกับใครถามความสะดวกใจก่อนทุกครั้ง ยอมเจ็บ แต่ไม่ยอมตาย ขอแค่ได้สร้างคอนเทนต์ แอบกลัวลูกรู้ เลยอัดคลิปนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ เก็บทรงไม่อยู่ได้เจอ “แด๊ดดี้แพท”
ขึ้นแท่นเป็นดาวติ๊กต็อกของวงการบันเทิงไปแล้ว สำหรับ “นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” ที่ขยันสร้างคอนเทนต์มาเรียกเสียงฮาได้ทุกวี่ทุกวัน ทั้งถ่ายเดี่ยวถ่ายกลุ่มไม่มีพัก ล่าสุด วันนี้ได้เจอเจ้าตัว ในงานเปิดตัว “My little Club” ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว ก็เลยขอถามเคล็ดลับหนทางสู่ดวงดาวกันสักหน่อย
“ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ลืมตาขึ้นมาเราก็ต้องฮัลโหลโซเชียลมีเดียก่อน วันนี้ 1 วัน น้อยๆ ต้องลง 1 คลิป เพราะว่ามีคุณผู้ชมส่งมาว่ารออยู่ เราก็คิดไม่ออก ทำยังไงเราก็ต้องคิดให้ออก ต้องลงเซฟอารมณ์คุณผู้ชม (คิดเยอะไหมแต่ละคลิป?) คิด...เวลาที่ทำคอนเทนต์ เหมือนเป็นคอนเทนต์ที่ได้เงินได้ตังค์นะ แต่ไม่ได้ ได้หัวใจ ได้รอยยิ้ม ซึ่งอันนั้นมีความสุขมากกว่านะ
แต่ความรู้สึกของนุ้ยมีความมีรู้สึกว่า เวลาที่คิดคอนเทนต์นุ้ยต้องคิด เพราะว่าลงไปแล้วต้องให้คุณผู้ชมได้รับความสุข แล้วก็ด้วยความที่คุณผู้ชมที่มาชื่นชมเรา เราก็จะรู้แล้วว่า ด้วยความที่เรามีบุคลิกแบบนี้ เราก็เลยรู้สึกว่า เราต้องเซฟอารมณ์คุณผู้ชมในทุกๆ วัน”
บางครั้งก็ถ่ายเก็บไว้ แต่จะลงแค่วันละคลิปสองคลิป เพราะกลัวเต็มฟีด สงสารคนดู
“วันหนึ่งต้องลง 1 คลิป แต่ถามว่ามากสุดกี่คลิป จริงๆ ถ่ายไว้แล้วก็จะลงวันละคลิปสองคลิป เพราะไม่งั้นเวลาเข้าไปในแอปพลิเคชั่น เปิดมาจะเจอแต่ นุ้ย สุจิรา เต็มฟีด สงสารคุณผู้ชมเหมือนกัน”
แต่ละคอนเทนต์หากมีคนมาร่วมแจม ก็จะถามความสะดวกใจก่อน หรือถ้าถ่ายคนเดียว ก็จะขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อน
“ต้องมี บางทีไม่มีก็ได้เดี่ยวๆ ก็ได้ อย่างกับรถพุ่มพวง เราก็ต้องขออนุญาตรถเจ้าของก่อน นุ้ยก็จะถามก่อนว่าสะดวกไหม ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรเราเข้าใจ แต่ว่าไม่มีปฏิเสธเลย อันนี้คือความน่ารักของพี่น้องในวงการบันเทิงเนอะ
เพราะว่านุ้ยรู้สึกว่า การที่เราจะทำคอนเทนต์ต่างๆ ลงในพื้นที่ส่วนตัวของเรา แต่มันเป็นที่สาธารณะที่จะทำให้หลายๆ คน ได้เห็นความน่ารักของคนในวงการบันเทิง ว่าพี่เขาน่ารักแบบนี้ พี่เขาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ นุ้ยรู้สึกว่าโลกออนไลน์ทำให้คนใกล้กันมากขึ้น ทำให้คุณผู้ชมเอง หรือแฟนคลับคนนั้นๆ เขาได้ใกล้ชิดกับดาราที่เขาชื่นชอบ หรือไปสร้างความชื่นชอบให้ดาราคนนั้นก็ได้นะ แบบพี่คนนี้มีมุมนี้ด้วยน่ารัก”
มีพลาดบ้างการในถ่ายคลิป ไม่ยอมตาย แต่ยอมเจ็บ ขอให้ได้คอนเทนต์ เตือนอย่าทำตาม ต้องดูความปลอดภัยก่อน
“เราไม่ยอมตาย เรายอมเจ็บ ขอให้ได้คอนเทนต์ รถโฟล์คลิฟท์เป็นโรงงานของเพื่อน จึงมั่นใจที่จะเล่น และโรงงานพึ่งสร้างเสร็จ ตัวโฟล์คลิฟท์ใหม่มาก สะอาด อยากเตือนน้องๆ ด้วยว่าอย่าเล่นตามเรา เพราะว่าเวลาเราจะเล่นอะไร เราจะดูก่อน บังเอิญว่าโฟล์คลิฟท์ข้างหน้าเขาไม่ได้ล็อก มันเป็นแค่แท่งเหล็กเสียบเข้าไป ถ้าข้างหน้าหนักกว่า มันก็เอียงลงไป เนื่องจากว่าจากพื้นในโฟล์คลิฟท์มันไม่ค่อยสูงมาก”
เห็นอะไรที่เป็นคอนเทนต์แล้วไม่ทำ มันนอนไม่หลับ แต่ก็ยืนยันว่ายังมีลิมิตอยู่
“มี แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคอนเทนต์ ว่าคอนเทนต์ถ้าต้องทำจริงๆ มันเห็น ถ้าไม่ทำแล้วมันนอนไม่หลับ มันต้องกลับไปที่โรงงานนั้นแล้ว (หัวเราะ)”
ปัดเป็นติ๊กต็อกลิซึ่ม แต่เป็นคอนเทนต์ลิซึ่ม
“ไม่นะ เราเป็นคนคิดคอนเทนต์มากกว่าเนอะ เราเป็นคอนเทนต์ลิซึ่ม เราอยากจะนำเสนอเวลาเราเห็นแล้วคอนเทนต์นี้น่าทำจังเลย”
ขำๆ ศุกร์นี้จะไป รพ.ประสาทพอดี เดี๋ยวหาหมอรับยาเลยทีเดียว
“วันศุกร์นี้ ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลประสาทพอดีเลย ไปที่สถาบันประสาท ไปรับยา (หัวเราะ)”
เผยมีงานลูกค้าถามเข้ามาบ้าง แต่ต้องรับเงื่อนไขของตัวเองให้ได้ เพราะทำเพื่อสร้างความสุข จะให้รีวิวต้องลองก่อนว่าดีจริง
“ถามว่ามีไหม คือมีถาม เพียงแต่ว่าบางครั้ง ทางลูกค้าต้องเข้าใจเรา เพราะว่าจุดเริ่มต้นของเรา เจตนาของเราที่ทำ ทำเพื่อสร้างความสุขให้กับคุณผู้ชมที่ชมเราเนอะ แล้วก็บางทีเขาต้องรับเงื่อนไขของเราให้ได้ บางครั้งถ้ารับไม่ได้ งานนั้นก็อาจจะไม่ได้เกิดขึ้น เพราะว่าเราทำทุกอย่าง อย่างของสิ่งนั้น เราต้องมาลองก่อนว่าดีจริง เราถึงจะยอมรีวิวให้ ก็เลยรู้สึกว่า การที่นุ้ยได้การตอบรับจากผู้ชม เราก็ต้องมีความซื่อสัตย์กลับไปเหมือนกัน”
พยายามไม่ให้ลูกรู้เรื่องดาวติ๊กต๊อก แต่ลูกก็รู้อยู่แล้ว ว่าแม่เป็นคนตลก เพราะเลี้ยงกันแบบพี่น้อง
“ลูกเนี่ยพยายามไม่ให้รู้ ล่าสุดลูกมาร้องเพลง เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์ เราก็เอ๊ะใครเปิดให้ลูกฉันดู พี่คนขับรถบอก ดูสิเนี่ยคุณแม่ มีคนดูตั้ง 29 ล้านคน ลูกก็มาบอกแม่เต้นให้ดูหน่อยๆ เราก็เลยต้องบอกว่าลูกนี่คืองานของแม่ (กลัวว่าลูกจะรู้ว่าตลก?) จริงๆ ลูกก็คงรู้แหละว่านุ้ยเป็นคนตลก เพราะหลักการเลี้ยงลูก ก็เลี้ยงแบบเป็นแบบพี่น้อง ไม่ค่อยตั้งตัวเองว่าเป็นแม่เท่าไหร่ นอกจากเวลาที่ต้องสอนที่จริงจัง เราก็จะสวมบทบาทนั้น
แต่ในทุกๆ วันเราก็เล่นกัน นุ้ยถือหลักมาจากแม่นุ้ยนะ เวลาเขาเลี้ยงไม่ได้ว่าฉันเป็นแม่ ฉันเป็นลูกทุกอย่าง...ไม่ใช่ เราเป็นบัดดี้กัน ก็ทำให้รู้สึกว่าเราใกล้ชิดคุณแม่ คุณพ่อ แล้วเวลามีความใกล้ชิดมันทำให้เวลาที่มีทางเลือกมาในชีวิต ว่าเราจะไปลองตรงนี้ดีไหม เราไปทำอันนั้นดีหรือเปล่า หรือเลือกทำอันนี้ดีหรือไม่ดี เราก็จะคิดถึงพ่อแม่เรา ก็เลยคิดว่าตรงนี้แหละเป็นหลัก ก็เลยเอาตรงนี้มาใช้กับตัวเราเองด้วย
แต่แน่นอนเดี๋ยวนี้สิ่งเร้าเยอะ เราก็ไม่ได้อยู่กับเขาตลอด วัยรุ่นเขาก็ต้องแยกตัวบ้างมีความเป็นส่วนต้วบ้าง เราจึงต้องบ่มเพาะตั่งแต่ตอนนี้ไง ให้ความรักของเราไปอบอวลอยู่ทุกอณูของลูกเรา มันจะทำให้เวลาเขาตัดสินใจอะไรไปแล้ว เขาจะเลือกในทางที่เขาไม่เสียใจ พ่อแม่ไม่เสียใจ”
เวลาจะดุลูก จะเป็นลุคเข้มๆ
“อืม ท่าจะดุ ก็เข้มเลย ถ้านุ้ยทำเสียงอย่างนี้ (ซี้ดปาก) ทุกอย่างจะต้องหยุดนิ่ง เพราะว่าแม่กำลังจิกตัวเองอยู่ อย่าให้แม่ปลดปล่อยพลังนี้ออกไป...ขอร้อง มันจะเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง เหมือนเพื่อนชินจังที่เขาต่อยหมีในห้องน้ำ แบบนั้นเลย (กลัววันหนึ่งเราถ่ายติ๊กต่อกอยู่ แล้วลูกมาทำเสียงแบบนั้นบ้างไหม?) กลัวลูกเลย น่าจะมีโอกาสนั้น แต่โชคดีส่วนใหญ่ทำนอกบ้าน”
เก็บทรงไม่อยู่ ตัวแข็ง ได้เจอ “แพท พาวเวอร์แพท”
“ก็ลองไปยืนใกล้ๆ เขาสิ แบบไม่ตั้งตัว แด๊ดดี๊เขาเป็นสายร็อก ไม่สะดวกแดนซ์ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร และนั่นก็เป็นคลิปติ๊กต่อกคลิปเดียวที่จะยืนเฉยๆ กับพี่อ้น ยืนเฉยๆ ก็ยืนเฉยๆ โปรโมตเพลงให้พี่เขา แต่ก็รู้สึกมีพลังงานบางอย่าง หันไปโอ้โห แววตาทรงพลัง หรือเธอไม่รู้สึก เวลาเธอมองแววตาของแด๊ดดี๊ เธอไม่รู้สึกเหรอ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างนะ ต้านทานไม่ไหวเลย แววตาเขาจริงใจนะ ด้วยเขาเป็นคนสุขุมมาก เลยทำให้ไม่ไดตั้งตัวที่จะหันไป พอสบตาเขาก็เออตัวแข็งจ๊ะ (กระดิกไม่ได้เลย?) ไม่ได้ค่ะ”
