xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว "เคน ภูภูมิ" เจอทางที่ใช่ เพาะพันธุ์ต้นไม้หายากขาย รายได้งาม เพลงได้โกอินเตอร์ ขอใช้ชีวิตคู่กับ "เอสเธอร์"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เคน" เจ๋งจริง เพาะเอา ขายเอง สร้างรายได้หลักจากการจับธุรกิจนำเข้าส่งออกต้นไม้หายาก 1 ปีคืนทุนแล้ว ฟุ้งดังไกลถึงฟิลิปปินส์แล้ว รับ "เอสเธอร์" บ่นน้อยใจ เจอต้นไม้มากกว่าแฟน หยอดหวานใช้ชีวิตคู่กับคนนี้แน่นอน แฮปปี้โกอินเตอร์เซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโลก สตรีมมิ่งเห็นกันทั้งโลก

เรียกว่าโควิด-19 ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ สำหรับพระเอก "เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค" นอกจากหันมาจับธุรกิจนำเข้าและส่งออกต้นไม้หายาก ภายในเวลา 1 ปีคืนทุนแล้วนั้น เจ้าตัวยังได้ตามฝันโกอินเตอร์สมใจ ซึ่งหนุ่มเคนเผยเป็นก้าวใหม่ของตัวเอง
 
"ก็เป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ พวกเราทำมาประมาณ 3 ปีแล้ว ก็พยายามส่งค่ายต่างประเทศ ค่ายที่มีดีเจระดับโลกอยู่ในค่ายนั้นๆ ตอนนี้ก็มี 1 เพลงที่ได้เซ็นกับค่ายแอคทรูชั่นแล้ว ก็ดีใจมาก ค่ายนี้ก็เป็นค่ายที่มียอดสตรีมมิ่งสูงมาก ในพวกเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ดีใจที่ได้ขยับไปอีกเลเวลนึง ได้เซ็นสักทีครับ ตอนนี้เซ็นเพลงต่อเพลงครับ เขาก็ให้ทำเพลงส่งไปเรื่อยๆ กว่าเขาจะยอมรับก็ใช้เวลา 2-3 เดือนครับ เขาฟังแล้วเขาชอบไอเดีย พอชอบไอเดียเสร็จเขาก็ เฮ้ย เพิ่มตรงโน่นหน่อย ตรงนี้หน่อย ปรับไปปรับมา สุดท้ายก็โอเค เซ็นแล้วเดี๋ยวเขาก็ปล่อยสตรีมมิ่งทั่วโลกครับ ในแบบแชนแนลของเขา”

บอกไม่มีคอนแท็กใดๆ ทั้งสิ้น
"ไม่มีครับ ไม่มีคอนแท็ก ไม่มีคอนเน็กชั่นแต่คือค่ายนี้เป็นค่ายที่มียอดสตรีมมิ่งของเหล่าศิลปินหน้าใหม่ที่เข้าไปสูงมาก แล้วก็เป็นค่ายที่เหมือนกำลังมาแรง แล้วเขาเหมือนหาศิลปินใหม่ๆ อะไรใหม่ๆ เข้าค่าย เราก็ลองดูก็เลยส่งไปนั้น ถามว่าส่งหลายค่ายไหม แต่ละเพลงก็จะพยายามส่งไปค่ายนั้น ค่ายนี้ ตามค่ายที่เหมาะกับแนวเพลงนั้นๆ เพลงที่ทำมาก็เยอะมากครับ ภายใน 3 ปี ก็ทำมาเยอะมากๆ”

ภูมิใจเพลงแรกได้รับการยอมรับ เห็นกันทั่วโลก
"ผมรู้สึกว่าค่ายเพลงส่วนใหญ่ที่เป็นค่ายใหญ่ๆ ก็จะอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ อยู่อเมริกา ซึ่งผมว่าพวกนี้เหมือนเป็นเส้นหลักของสายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถ้าเราไปเข้าค่ายที่โน่นได้ก็แสดงว่าเพลงที่เราทำมันก็อยู่ในระดับที่มันโอเคนะ อันนี้ถือเป็นเพลงแรกเลยที่ได้รับการยอมรับ

ส่วนตัวเราอยู่ที่นี่ถามว่าจะมีปัญหาไหม ก็ไม่เป็นปัญหาครับ ส่วนใหญ่ดีเจหรือโปรดิวเซอร์จากทั่วโลก เขาก็จะส่งเพลงไปที่ค่ายใหญ่ แล้วถ้าเพลงนี้ผ่าน ขึ้นสตรีมมิ่งเสร็จเราก็จะได้คนฟังจากแชนแนลของเขาที่เป็นแฟนคลับของเขาอยู่แล้วจากทั่วโลกก็คือคนที่ฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเริ่มรู้จักชื่อของเขา เริ่มรู้จักชื่อของเรา ว่าคอสตี้ทำเพลงนี้ได้ออกค่ายนี้นะ มันก็จะค่อยติดไปเรื่อยๆ การที่เราได้อยู่ค่ายใหญ่ก็เหมือนเราได้มีชื่อให้คนเห็นจากทั่วโลกมากขึ้น ตอนนี้ยังไม่ได้เดินสายโปรโมต เพลงก็คือยิงในแชนแนลของเขาเลยซึ่งค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว”

ไม่กล้าเรียกว่าโกอินเตอร์ แต่เป็นก้าวที่ดี
"ก็ไม่แน่ใจครับ แต่ผมคิดว่ามันก็ถือว่าเป็นก้าวที่ดี เป็นก้าวที่แบบเราพอใจที่ในที่สุดเพลงที่เราทำก็ได้ไปติดค่ายเพลงหลักๆ เมืองหลักของแนวอิเล็กทรอนิกส์

จริงๆ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร ผมแค่อยากทำเพลง ก็เดี๋ยวต่อไปก็คงติดต่อส่งเพลงใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าถ้าผ่านเพลงแรกแล้วเพลงต่อไปที่จะไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ได้ยากแล้ว เพราะว่าเขาก็รู้จัก รู้ว่าเราแบบมีศักยภาพพอที่จะสามารถผลิตเพลงให้เขาได้ต่อไป

ถามว่าจะมีเป็นคอนเสิร์ตไหม จริงๆ ก็มีนะครับถ้าไม่มีโควิด ผมคิดว่าถ้าเราส่งเพลงไปเรื่อยๆ ก็มีสิทธิ์ที่เราจะได้ไปเล่นไลฟ์ ตอนนี้ยังเป็นแค่การเซ็นสัญญาเพลง แต่เพลงยังไม่ได้ออนในแชนแนลของเขา มันจะเป็นรอบของเขาที่แบบจะปล่อย ประมาณอีก 1-2 เดือน”

ไทยก็ฟังได้ สตรีมมิ่งทั้งโลก
"ได้ๆ สามารถฟังได้ในซาวด์คลาวด์ ในสปอติฟาย ในยูทิวบ์ คือฟังได้หมดสตรีมมิ่งทั่วโลกเลย เหมือนเราได้ไปอยู่ในแชนแนลของเขา สส่วนใหญ่เขาจะเรียกเราว่าเป็นดีเจโปรดิวเซอร์ครับ ก็คือเป็นดีเจด้วย เป็นโปรดิวเซอร์ด้วยครับ”

ฝันอยากเล่นเวทีใหญ่ระดับโลก
"เราก็อยากเล่นเวทีใหญ่ระดับโลกสักครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้หลักๆ ก็คือ อยากทำเพลงให้ได้เป็นที่ยอมรับในหมู่ของคนที่ฟังอิเล็กทรอนิกส์ จากที่ 3 ปีมันก็นิ่งๆ ตอนนี้ก็โอเคได้ขยับเลเวลไปอีกเลเวลนึงแล้วก็ดีใจ

เรื่องเตรียมรับมือกับแฟนคลับ ผมยังเฉยๆ อยู่เพราะว่าผมรู้สึกว่าเราต้องมีเพลงที่เยอะกว่านี้ ต้องมีสักเพลง ที่มันต้องฮิต มันติดหูก่อน มีดีเจที่ดังๆ เอาไปเล่นในไลฟ์ของเขา ตอนนี้ก็มีคนรู้จักวงเราบ้างแล้วครับ ก็ดีใจเพราะว่าเห็นพวกเราทำกันมานาน(หัวเราะ) ทำมาเรื่อยๆ ในที่สุดมันก็ได้ก้าวอีกก้าวนึงแล้ว แต่พวกเราก็ยังรู้สึกว่าแบบทำไปเรื่อยๆ ก่อนไม่ได้ซีเรียสอะไร ซึ่งเอสเธอร์ (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) ไม่มีส่วนช่วยในโปรเจกต์ครับ (หัวเราะ)"

แบ่งเวลาให้ละครได้แน่นอน ไม่อยากทิ้งสักทาง
"ก็รับได้ครับ เอาที่มันแบบบาลานซ์ครับ ผมอยากจะบาลานซ์ทุกอย่างให้มันดีที่สุด ก็ไม่ได้อยากทิ้งอะไรไปสักอย่างนึง ผมคิดว่ามันได้ครับ มันสามารถที่จะแบ่งได้

ตอนนี้รับทีละเรื่องก่อน เพราะว่ามีอะไรให้ทำหลายอย่างมากแล้วก็รู้สึกว่าเราขอโฟกัสทีละเรื่องก่อน ถ้ามันว่างจริงๆ หรือมีอะไรที่มันน่าสนใจจริงๆ ก็รับได้ครับ”

อิสระมาครึ่งปีแล้ว ถึงเวลาที่เหมาะสม
"ก็มีละครของช่อง one ครับ ผมเป็นนักแสดงอิสระมาครึ่งปีแล้วครับ ใกล้จะถ่ายแล้วครับตอนนี้ก็คือเวิร์กช็อปอยู่ เลือกอิสระเพราะผมรู้สึกว่าผมก็โตแล้ว ไม่รู้สิ ก็อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดู ก็คิดอยู่นานแต่พอคิดบวกลบดูแล้ว ผม 29 ปีแล้ว อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดูลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดูบ้างมันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

จริงๆ ไม่ต้องปรับตัวเลยนะครับ คืองานเราก็คือการแสดง ไปที่อื่นก็คือแสดงเหมือนกันมันก็เลยรู้ว่าก็แค่แบบลองแสดงใหม่ๆ เป็นความรู้สึกท้าทาย ก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน เราก็สามารถกลับมารับงานที่ช่อง 3 ได้ครับ

เลือกช่องวันก่อน ดูบทที่เหมาะสม เขินไม่พร้อมเล่นกับเอสเธอร์
"ด้วยบทมั้งครับ บทส่วนใหญ่หลักๆ ที่ดูก็คือเป็นบทแล้วก็เป็นอะไรที่มันรู้สึกว่ามันท้าทาย มันใหม่และมันน่าสนใจ ส่วนโอกาสร่วมงานกับเอสเธอร์ ไม่แน่ใจนะครับ ไม่รู้ว่าพอมาเล่นด้วยกันจริงๆ แล้วมันจะเป็นยังไง ผมก็ไม่ค่อยพร้อมที่จะอยู่ในจุดนั้นด้วย อาจจะยังรู้สึกแบบเขินๆ อยู่

มันไม่เหมือนแบบที่เราใช้ชีวิตกัน พอเล่นละครมันต้องมีบทสมมติ บทดรามา แล้วผมกับเอสเราก็ไม่ค่อยทะเลาะกัน แทบไม่ได้ทะเลาะกันเลยก็เลยยังคิดไม่ออกว่า เฮ้ย ถ้าไปเจอกันในละครต้องมาแบบทะเลาะกัน มาแบบโน่นนี่นั่นมันจะเป็นยังไง"

เลือกช่องวัน ไม่เกี่ยวกับเอสเธอร์
"ไม่มีนะ หลักๆ เลยเป็นเรื่องของบท เขาไม่ได้ช่วยดูขนาดนั้น แต่เท่าที่เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่า ถ้าตัวเราไปอยู่ในนั้นแล้วมันจะเป็นยังไง ก็เป็นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น 100 เปอร์เซ็นต์”

ชีวิตสบายๆ ได้ทำสิ่งที่ชอบ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา
"ช่วงนี้ก็ชิลๆ ครับ สบายๆ เหมือนได้มีเวลาทำอะไรที่ตัวเองชอบ แล้วก็ได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ได้มีเวลาปลูกต้นไม้ ทำธุรกิจที่มันเกี่ยวกับต้นไม้ ก็ดีครับ รู้สึกว่ามันก็มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา

ละครไม่ได้แพลนอะไรแล้ว คือรับทีละเรื่อง ส่วนเพลงก็ตอนนี้คือเคลียร์แล้วก็รอเซ็น รอทำเพลงใหม่ ส่งเพลงใหม่ๆ ส่วนของต้นไม้ก็คือปลูกขายนำเข้าส่งออก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วก็กำลังจะทำในอนาคตก็คงมีธุรกิจที่เกี่ยวกับต้นไม้ที่มันหลากหลายขึ้น

เรื่องต้นไม้ศึกษาลึกถึงขั้นไปเรียน จริงๆ ผมชอบครับ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี และมันค่อนข้างเป็นธุรกิจในระยะยาว เป็นอะไรที่คนคิดไม่ถึงหรอกว่าอันนี้มันดีแค่ไหน"

เพาะพันธุ์ต้นไม้ขายเองได้แล้ว
"ผมอยากรู้ ผมเห็นคนอื่นเขาผมก็อยากรู้ว่ามันทำยังไง ในสิ่งที่ผมชอบคือต้นไม้ การทำแบบนี้มันก็เป็นการขยายพันธุ์ต้นไม้ทีละเยอะๆ อยากรู้ว่า การทำมันทำยังไง มันทำแล้วได้อะไร อันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้ อันไหนดีหรือไม่ดี ต่อไปถ้ามันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เราก็ควรรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับมัน ตอนนี้สามารถเพาะพันธุ์ต้นไม้ขายเองได้แล้ว ก็เพาะจากต้นแม่พันธุ์ที่เรามีแล้วก็จากแล็บก็จะเป็นอีกส่วนนึง มันจะแยกกันครับ

ถามว่าทำกับเอสเธอร์ไหม จริงๆ ก็เป็นของผมแหละแต่เอสก็รู้เรื่องบ้างแต่ไม่ได้แบบรู้เรื่องเท่าผม ผมจะแบบลุย ลุยมาก"

แฮปปี้สร้างรายได้เกินคาด 1 ปีคืนทุน ทำทั้งส่งออกและนำเข้า แพงสุด 7 หลัก ฟุ้งดังที่ฟิลิปปินส์
"เยอะมากครับ คือตลาดต้นไม้มันเป็นตลาดทั่วโลก คือทั่วโลกชอบต้นไม้เหมือนกัน ชอบต้นไม้สายพันธุ์เดียวกัน แต่ต้นไม้มันมีไม่พอสำหรับโลกใบนี้ ก็นั้นแหละครับ

ผมทำธุรกิจนี้มา 1 ปีแล้ว ก็ไม่ได้ไวขนาดนั้นครับ ห้องแล็บก็ใช้เวลานานมากครับกว่าต้นไม้จะโตขึ้นมาเป็นปีครับ ก็คืนทุนแล้ว ตอนนี้ก็ทำทั้งส่งออกแล้วก็นำเข้าต้นไม้ครับ ที่แพงที่สุดก็ 7 หลัก ก็ส่งออกทั่วโลกเลย คนรู้จักค่อนข้างเยอะแล้ว ถ้าเป็นเพื่อนบ้านเราใกล้ๆ อย่างฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลี ก็จะติดตามเพจหรือว่าในไอจีค่อนข้างเยอะ คือคนรักต้นไม้เขาก็จะมีคนที่เหมือนเป็นเซเลบสำหรับต้นไม้ เขาก็เหมือนโพสต์กัน โพสต์ไปโพสต์มาเราก็ไปดังที่ฟิลิปปินส์ (หัวเราะ) คนเห็นว่าเราเป็นคนปลูกต้นไม้ เขาก็ทักมาสอบถามเพราะว่าเรามีต้นไม้ ที่เป็นต้นไม้สปีชีส์ที่ค่อนข้างจะหายากและก็มีน้อย เป็นต้นที่คนอยากเก็บสะสมกันทั่วโลก มันก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนครับ แค่กลุ่มๆ นึง

เราอยู่กับต้นไม้เยอะครับ เราก็ได้เห็นต้นไม้เยอะแล้วก็เราได้อยู่กับคนที่เก่งๆในเรื่องต้นไม้เราก็ศึกษาด้วยว่าต้นนี้มันยากง่าย มันมาจากประเทศอะไร มันอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้ มันก็เลยเป็นอะไรที่เหมือนเซ้นส์ว่าต้นนี้คนต้องอยากได้เพราะมันโตไปแล้วมันจะสวยมากครับ"

โกอินเตอร์ทั้งธุรกิจต้นไม้และงานเพลง
"แบบนั้นก็ว่าได้ครับ(ยิ้ม) ถามว่ารู้สึกยังไง ก็รู้สึกว่าโอ้โหไวมากเลย ที่มีคนรู้จักเราในวงการเยอะขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จริงๆ ผมก็รู้สึกว่ามันก็อยู่ที่เราตั้งใจทำ ตั้งใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยมันก็เลยส่งผลนี้ออกมา ผมก็พยายามถ่ายยูทิวบ์ต้นไม้ที่มันหายาก ต้นไม้ที่ควรมีในปี 2021 ซึ่งต้นไม้พวกนี้ มันก็ไม่ได้มีเยอะมาก แค่ขายในไทยก็ไม่พอแล้วครับ ก็คือคนก็แย่งกันเก็บ จะเรียกว่าเราเป็นเซเลบในวงการต้นไม้ก็ได้ครับ (หัวเราะ)

ก้าวต่อไปก็อยากสะสมไปเรื่อยๆ ครับ แล้วก็อยู่กับต้นไม้นี่แหละ ก็ต้องรอดูว่าต่อไปจะทำอะไรต่อที่มันเป็นการขยายธุรกิจด้วยได้ แล้วก็เป็นคาแร็กเตอร์เก็บสะสมต้นไม้ที่หายาก เลี้ยงให้มันเป็นท็อปฟอร์มที่สวยๆ เอาไว้ถ่ายให้คนทั่วโลกดู เพราะว่าบางประเทศเขาอาจจะเลี้ยงในบ้านแต่ฟอร์มมันอาจจะแบบไม่สวยเท่าที่เราเลี้ยงอยู่ข้างนอกครับ ถามว่าเป็นรายได้หลักไหม ก็อาจจะใช่นะครับ"

ชีวิตรักลงตัวเหมือนเดิม
"ก็เหมือนเดิมครับ ก็ดี ดีเหมือนเดิม เรียบๆ ครับ (หัวเราะ) เพราะว่าเอสก็ทำงานในส่วนของเขา ก็ถ่ายละครแล้วก็ดูแลร้านอาหาร ร้านกาแฟก็แบ่งกัน ส่วนผมก็ถ่ายละคร ปลูกต้นไม้แล้วก็ทำเพลง

เราแยกส่วนกันทำ เพราะทำรวมกันแล้วมันจะตีกันครับ (หัวเราะ) ความคิดไม่ตรงกัน ผมเป็นคนที่อ่านไลน์ช้า บางทีผมอยู่ในสวน ผมก็ไม่ได้อ่านไลน์ ไม่ได้อะไรที่มันเกี่ยวกับร้าน ทางนั้นคือให้จัดการไปเลยถ้าจะทำอะไรก็ทำเลยเพราะว่าผมก็ค่อนข้างไว้ใจแล้วก็ไม่ได้อะไร คือคุณทำก็ดีก็แบ่งกันไป "

เข้าปีที่ 5 ฝ่ายหญิงน้อยใจรักต้นไม้มากกว่า
"น่าจะเข้าปีที่ 5 แล้วมั้งครับ เขาก็มีบ่นว่าเรารักต้นไม้มากกว่า มีน้อยใจต้นไม้ (หัวเราะ) เพราะว่าคืออาทิตย์นึงถ้าเจอกันจริงๆก็ 1- 2 วัน เพราะว่าผมอยู่สวนเสียส่วนใหญ่ แล้วก็ไปยิม ไปสวนแล้วก็กลับมาคือมืดไปแล้ว กลับมาก็คือเตรียมนอน เอสก็ถ่ายละคร 2 เรื่อง ก็ 7 วัน ผมก็อยู่กับต้นไม้ เอสก็อยู่กองอะไรแบบนี้"

ไม่เติมหวาน แต่พยายามเทกแคร์มากขึ้น
"ครับ (ยิ้ม) ก็มีโดนบ่นบ้างครับแต่หลังๆ มาก็พยายามที่จะโอเค เทกแคร์มากขึ้น เขาก็แค่บ่นๆ แต่เขาไม่ได้จริงจังอะไรเพราะว่าเขาก็คงรู้สึกว่าผมชอบต้นไม้ ผมอยู่ตรงนี้ก็มีความสุข แล้วก็ไม่ได้ไปไหน ก็อยู่แต่สวนไม่ได้ไปเที่ยวไปลั้ลลา คือที่เราหายไปเราไปอยู่ในสวนแค่นั้นเอง ไม่ได้ไปไหน เขาก็จะบอกว่า โห เดี๋ยวนี้เจอต้นไม้มากกว่าหนูอีก (หัวเราะ)

ถามว่าพาเขาไปดูสวนไหม ผมมีสวนอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว เขามาเขาก็จะเห็นรู้จักต้นไม้สปีชีส์ต่างๆ แต่ถ้าเป็นต้นไม้จำนวนเยอะๆ จะอยู่อีกสวนนึงก็จะแยกกันครับ ที่บ้านก็จะปลูกด้วย ที่สวนอีกสวนนึงก็คือปลูกด้วย”

เผยให้เวลาฝ่ายหญิง ตามไปกองถ่าย กินข้าวกองด้วย
"อย่างเขาไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดผมก็ไปด้วย ก็ไปหัวหินใช่ไหม โอเค ผมก็ไปด้วยไปอยู่กองด้วย กินข้าวกองด้วย (หัวเราะ) ก็คือเหมือนมาอยู่ด้วยให้กำลังใจนะ นานๆ ทีแล้วก็ไปกินข้าว กินขนมหรือว่าไปทำอะไรที่เขาอยากทำ ผมก็พยายามเคลียร์งานต่างๆ ให้เสร็จแล้วก็คือให้เขาไปเลยครับ"

ลั่นใช้ชีวิตคู่กับคนนี้แหละ
"ตอนนี้ก็คิดว่ามันก็โอเค ก็เรื่อยๆ ไปก่อนอีกสักพักครับ เพราะว่าตอนนี้พวกเรายุ่งมากๆ เลย ก็คงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแหละ คนนี้แล้วครับ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ยุ่งมาก เป็นปีที่ยุ่งมากๆ เลย

ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลยครับว่าจะแต่งช่วงไหน ช่วงนี้ก็ขอลุยก่อนคืออยากสบายใจ ถ้าสมมติแต่งปุ๊บก็คืออยากที่จะโอเคทุกอย่างมันสบายใจแล้ว ไม่ใช่แต่งแล้วยังต้องมาหัวฟูทำโน่นทำนี้

เรื่องเงินก็มีส่วน
"ก็มีส่วนนะครับ ผมว่ามันควรที่จะสบาย ไม่รู้สิ อยากให้เขาเบางาน ก็ควรจะมีเวลาได้เอ็นจอยเต็มที่กับโมเมนต์กับการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบนึง ผมก็พยายามทำเต็มที่ให้มันเร็วที่สุด”

เหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว
"สนิทกันหมดทุกคนเลยครับทั้ง ทิมมี่ เอบิเกล จริงๆ ก็เหมือนรุ่นๆ เดียวกันแล้วก็ชอบอะไรคล้ายๆ กันผมกับทิมมี่ก็ชอบเพลง ส่วนเอบิเกลก็ชอบเต้นชอบเพลงมันก็คุยกันได้ คุยกันรู้เรื่องหมดครับ ที่บ้านไม่เร่งครับ น่าจะเร่งให้ทำงานมากกว่า (หัวเราะ)”













กำลังโหลดความคิดเห็น