“ณวัฒน์” ไม่อยากรอให้ทรมาน ทุ่ม 30 ล้าน จัดประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์ฯ ทำใจขาดทุนยับ ไม่ใช้เงินรัฐแม้แต่บาทเดียว ลั่นถึงด่ารัฐบาล แต่แยกแยะเป็นยังให้เครดิต อยากช่วยประเทศ ภูมิใจเป็นผู้นำลุกขึ้นมาจัดประกวดก่อนใคร มั่นใจเป็นเวทีคลีน ปลอดโควิด 100 เปอร์เซ็นต์
“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เจ้าของเวที “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020” พาสาวงามจาก 63 ประเทศมาแถลงอย่างเป็นทางการที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า หลังจากก่อนหน้านี้ได้นำพาสาวงามจากประเทศต่างๆ เข้าเยี่ยมชมแลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่างวัดพระแก้วไปเมื่อวันก่อน ซึ่งการจัดงานแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการสยบข่าวไม่กินเส้นกับ กทม. หลังจากเจ้าตัวออกมาโพสต์และไลฟ์สด บ่นน้อยใจว่าทาง กทม. ไม่ให้ใช้สถานที่ ยันตนเองไม่ได้งอน เพราะมีผู้ใหญ่ทาง กทม. ได้เข้ามาชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากบุคลากรบางคนไม่เข้าใจ จนอาจจะทำให้เสียเวลาในการทำงาน
และยอมรับว่าที่ผ่านมาตนเองมีโพสต์ต่อว่ารัฐบาลบ้าง แต่ก็แยกแยะออกว่าเรื่องไหนสำคัญที่สุด เผยการจัดประกวดครั้งนี้ควักเงินตัวเอง ไม่เกี่ยวกับทางรัฐ ลงทุนกว่า 30 ล้าน และงานนี้ขาดทุนแน่นอน แต่ที่ยังจะจัดการประกวดเพราะจะได้เป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นได้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงานใหญ่แบบนี้ ส่วนดรามาที่หลายคนบอกว่าทำไมไม่เลื่อนจัดประกวด เจ้าตัวเสริมว่าถ้าไม่จัดตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้จัดตอนไหน แต่ที่จัดเพราะตอนนี้โควิดของประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้
ซึ่งในวันนี้ยังได้แจงต่อสื่อมวลชนถึงความพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานตามหมายกำหนดการเดิมคือรอบชุดประจำชาติ วันที่ 24 มีค. / รอบพรีลิม วันที่ 25 มีค. / รอบไฟนอล วันที่ 27 มีค. ตามลำดับ ซึ่งจะจัดที่โชว์ดีซี โดยรอบชุดว่ายน้ำจะจัดขึ้นในวันที่ 20 มี.ค. ที่โรงแรมเลอบัว แอท สเตจทาวเวอร์
ในส่วนของนางงามจาก 2 ประเทศ เคนย่า และ ไนจีเรีย ที่ก่อนหน้านี้ตรวจพบเชื้อโควิด และได้ทำการกักตัวครบ 14 วัน ล่าสุดตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่ทางกองประกวดยังตรวจหาเชื้อในทุกๆ 3 วัน รวมไปถึงอีก 4 ประเทศ BASHKORTOSTAN (บัชคอร์โตสถาน), BOLIVIA (โบลีเวีย), CUBA (คิวบา), INDIA (อินเดีย) ที่เพิ่งเดินทางมาถึง และจะครบกักตัว 14 วันในวันที่ 21 มี.ค. นี้ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อ ซึ่งถ้าไม่พบเชื้อก็สามารถเข้าประกวดได้ตามปกติ แต่ถ้าเกิดติดเชื้อโควิด ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าเวที “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020” คลีนไร้โควิด พร้อมถ่ายทอดสดผ่านทางช่องยูทูป grand tv
“ถามว่าทำไมถึงไม่เลื่อนไปจัดเดือนพ.ค. เพราะตอนนี้เมืองก็ยังไม่นิ่งเรื่องโควิดขนาดนั้นใช่ไหมครับ เอาจริงๆ เราไม่รู้ว่ามันจะไปจนถึงเมื่อไหร่ เพราะมันอาจจะมีโควิดรอบ 2 รอบ 3 และคำว่ารอมันคือทรมานนะ และการรอโดยไม่มีคำตอบ ถ้ามีคำตอบอย่างต.ค.นี้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ก็อาจจะรอได้ แต่การรอโดยที่เราไม่รู้จุดหมายปลายทางผมไม่อยากรอและอยากจะสร้างขวัญและกำลังใจ เพราะทุกคนรออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีเวทีแกรนด์สแลมมาจัดประกวดที่มาเก็บตัวจริงๆ ประกวดออนไลน์มันไม่สนุกหรอกครับ มันไม่รู้เรื่อง
เราก็คิดว่าทุกวิกฤตมันคือโอกาส เพราะฉะนั้นเราก็ฝ่าฟันวิกฤตมาด้วยกันจนกลายมาเป็นโอกาสวันนี้ แล้วเราก็ดีใจนะ พูดตรงๆ เราไม่ได้มาบอกว่าเราเก่งกว่าใคร มีเครดิตมากกว่าใคร แต่ถ้าเราไม่เริ่ม เวทีแกรนด์สแลมเวทีอื่นก็ไม่เริ่ม ยูนิเวิร์สก็ไม่เริ่มถูกไหมครับ พอเริ่มประกาศ ทุกคนเริ่มเก็บตัว ทุกคนก็กระตือรือร้นขึ้นมาว่าจะหาวันประกวดบ้าง นี่คือการผลักดันอุตสาหกรรมการประกวดนางงามในระบบแกรนด์สแลมของเราทั้ง 5 เวทีให้มีการขับเคลื่อน เพราะว่าถ้าเรานั่งทุกคนก็นั่ง แต่พอเราลุกขึ้นมาเดิน ลุกขึ้นมาพูด ทุกคนก็พยายามจะบอกจุดหมายปลายทางของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นผลดีกับทุกๆ เวทีครับ”
ปีนี้จัดหนักเรื่องการโชว์ เพราะคนเข้าดูได้แค่ 500 คน
“เรื่องการประกวดยังเต็มที่เหมือนเดิมครับ ช่วงนี้เวลาผมอาจจะเยอะกว่าเดิมด้วย เพราะว่าปีนี้คนดูเข้าไปได้น้อย เพราะฉะนั้นเราก็ทุ่มโปรดักชั่น จะทำเหมือนเป็นงานโชว์เคสให้คนต่างชาติได้เห็นมากกว่าว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ไม่สามารถที่จะมีอะไรมาปิดกั้นได้ เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้ดูโปรดักชั่น อย่าลืมนะครับถ่ายทอดวันสุดท้ายคือการตัดสิน 27 มี.ค.นี้ตั้งแต่ 1 ทุ่มตรงเป็นต้นไป และมีรอบชุดประจำชาติวันที่ 24 มี.ค. และรอบพรีลิมวันที่ 25 มี.ค. เวลา 1 ทุ่มเช่นเดียวกันครับ
การจำกัดคนตอนนี้เราฟังรัฐบาลเป็นหลัก ศบค.ดูแลให้ ตอนนี้ก็อยู่ประมาณ 500 คนที่เข้าได้นะครับ จากฮอลล์เต็มๆ มันบรรจุได้ประมาณเกือบ 5 พัน แต่จริงๆ แล้วผมก็ดีไซน์เวทีสำหรับให้คนเข้าน้อยตั้งแต่แรกแล้ว ก็คือไม่ดันเวทีไปจนชิดผนังด้านหลัง ดันเวทีไว้เกือบๆ กลาง เพราะต้องการจะให้เวทีมันแตกต่างจากครั้งอื่น วิกฤตทุกครั้งเป็นโอกาส ถ้าสมมติว่าเป็นเวทีปกติก็จะต้องใช้พื้นที่เหลือเยอะให้กับคนที่เข้าชม ทีนี้ถ้าโจทย์มาแบบนี้เราก็ดีไซน์เวทีให้เป็นรูปแบบที่แตกต่างได้”
บอกยอมขาดทุน และไม่ขอรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว
“เรื่องขาดทุนมันแน่นอนล้านเปอร์เซ็นอยู่แล้วครับ ไม่ได้ปฎิเสธเลยครับ ดูจากสปอนเซอร์ก็ได้ แล้วเราไม่ได้ใช้เงินของรัฐบาลแม้กระทั่ง 1 บาท ย้ำนะครับ ที่เราให้เครดิตรัฐบาลเพราะเราอยากช่วยจริงๆ ช่วยการท่องเที่ยว ช่วยรัฐบาล ช่วยประเทศ ถึงแม้เราจะกร่นด่าสารพัดเรื่องของรัฐบาลอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมเป็นคนแยกออกนะครับว่านาทีนี้เราต้องโชว์ศักยภาพของความเป็นประเทศไทยก่อน ฉะนั้นเรื่องขาดทุนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เราเตรียมตัวเตรียมใจ และเราก็เตรียมเงินเอาไว้ บอกตรงๆ ยังไงก็ต้องถึง 30 ล้านอยู่แล้ว ก็นึกซะว่าอันนี้เราสร้างชื่อเสียงให้กับเวทีตัวเรา เราไม่ปฏิเสธหรอกครับว่าทำเพื่อตัวเรา เราไม่ได้โลกสวย และทำเพื่อประเทศชาติ และเพื่อเป็นผู้นำในวงการประกวดนางงามระดับสากลที่เป็นแกรนด์สแลม เราภูมิใจในคำว่าก่อนเขา ก่อนใครครับ
ก็ตั้งบัตเจ็ตไว้ 1 ล้านเหรียญ ก็ประมาณ 30 ล้านบาท 1 ล้านเหรียญนี่น้อยแล้วนะสำหรับประเทศไทย โชคดีที่อาหารการกินมันถูกนะครับ ถ้าเราไปต่างประเทศเราเซ็ตบัตเจ็ตกันทีเกือบ 2 ล้านเหรียญ ครั้งที่ไปสหรัฐอเมริกา เพราะทุกอย่างมันแพงหมด อาหารมื้อนึงเป็น 10 เหรียญ กินกันทีนึง 100 กว่าคน คิดดูว่ามื้อๆ นึงไม่รู้เท่าไหร่ วันนึงค่าอาหารเป็นแสนๆ ทุกวัน ที่นี่ก็เยอะแต่ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ยินดีและภูมิใจที่ยอมจ่ายเงินและทำให้มันมีสิ่งที่มีมูลค่าเกิดขึ้น”
ยืนยันไม่ได้งอนผู้ใหญ่ของกทม. มีติดใจเพียงแค่เจ้าหน้าที่บางคนเท่านั้น
“ที่กรุงเทพฯ โอเคครับ ถ้าไม่โอเคคงไม่ได้มายืนตรงนี้ (ยิ้ม) แต่วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้ลงมา เนื่องจากวันนี้ท่านก็ได้ไดเร็กมาเลยว่าท่านขออภัยจริงๆ เพราะวันนี้มีการประชุมกับท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ณ เวลานี้กำลังประชุมกันอยู่ เสร็จตอนบ่ายโมงตรง ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงครับ ใครก็ได้ เพราะถือว่าเป็นการแถลงข่าวโดยสมบูรณ์แล้ว แฟนนางงามอยากดูนางงามด้วย อยากดูเพอร์ฟอร์แมนซ์ด้วย ก็ครบถ้วน
และไม่ได้งอน ไม่ได้โกรธกทม. แต่อาจจะไม่รู้สึกสบายใจกับเจ้าหน้าที่บางคนที่ทำงานแล้วไม่เข้าใจว่าควรจะทำอะไรเมื่อไหร่ยังไง มันทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสนะครับ แต่ไม่เป็นไรเมื่อเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ระดับสูงติดต่อมา และไปหาเราถึงกองที่โกลเด้นท์ทิวลิป เราก็ฟังในเหตุผลและเราก็แฮปปี้ ก็ข้ามคำว่ารู้สึกไม่ดีออกไปซะ คิดซะว่าเราทำต่อเพื่อส่วนรวมแล้วกัน”
มั่นใจเป็นเวทีปลอดโควิด 100%
“เหล่านางงามทุกคนก็แฮปปี้กับมาตรการป้องกันโควิดของเรานะ ผมก็ไม่รู้นะ นางงามเขาก็ต้องทำทุกอย่างให้มันดูดีอยู่แล้ว อันนี้เป็นธรรมชาติถูกไหม แต่มีการแอบดูโดยพี่เลี้ยง แอบดูโดยวิธีการอื่นยังไม่เกิดฟีดแบ็กใดๆ ที่มีปัญหานะ เช่นสมมติบางปีจะมีหงุดหงิดไม่ได้ไปฟิตเนส ไอ้นั่นก็อยากได้ ไอ้นี่ก็อยากได้ แต่ปีนี้เป็นนางงามที่สงบสติอารมณ์ดีนะครับ เอะอะก็เข้าห้องนั่งวิปัสสนา (หัวเราะ)เพราะว่าเขาไม่กล้าไปไหนเลย เราก็บอกกับเขาขำๆ ว่าตอนนี้พยายามรักษาตัวนะ อีกประมาณ 10 วันเองเดี๋ยวคุณก็จะได้เดินทางกลับประเทศของคุณแล้วด้วยความปลอดภัย แต่ถ้าสมมติว่าคุณอยากอยู่ต่อก็เชิญนะ เดี๋ยวติดโควิดนี่ได้อยู่อีกแน่ เพราะมันจะลำบากต่อการเดินทาง ฉะนั้นทุกคนก็ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีครับ
ยืนยันว่าเวทีเราคลีน 100% ไม่มีโควิด และผลการตัดสินคือคลีนแน่ๆ แต่ปัญหาคือจะตัดสินยังไง ต้องขอบคุณจริงๆ นะครับว่านานวันขึ้นเวทีมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนลของเราเนี่ย ผู้เข้าประกวดพรีเมี่ยมมาก และพรีเมี่ยมจนน่ากลัว เราคิดว่าคนสวยๆ จำเป็นต้องตกรอบ เพราะมันเกินจำนวนเยอะมาก ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่น่าหนักใจ นอกจากคนสวยแล้วคนที่มีจุดขายที่โดดเด่นอาจจะไม่สวยที่สุดก็เยอะ ทุกคนมีสตอรี่ของตัวเองค่อนข้างหนักมากและตอนนี้ที่ป๊อบปูล่าร์สุดๆ ก็เป็นประเทศในแถบเอเชียนี่แหละ คิดว่าสงครามคงไม่เกิดนะครับ ใจเย็นๆ กันหน่อยนะครับ ตอนนี้ก็ขอบคุณทุกท่านที่ฟอลโลว์ ที่ติดต่อกันมาและติดตามกันมาตลอดเวลาครับ วันที่ 27 มี.ค.นี้รู้ผลแน่นอนนะครับว่าใครจะเป็นมิสแกรนด์ อินเตอน์เนชั่นแนล 2020 และมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 ก็จะจัดภายในปีนี้ครับ”
