“ลำยอง หนองหินห่าว” ใจอ่อน ให้อภัยหนุ่มขู่ฆ่า เหตุสงสารแม่อีกฝ่ายต้องบากหน้ามาขอโทษแทนลูก ทั้งที่ไม่รู้อะไรด้วย บอกแม่คู่กรณีอ้างลูกชายป่วยไบโพลาร์ ไม่มีเงินรักษา แต่คู่กรณีบอกตนไม่ได้ป่วย ตร.ปรับ 500 บาท ลูกทุ่งหมอลำห่วงแม่คู่กรณี ไม่รู้มีเงินค่ารถกลับบ้านหรือเปล่า ซัดลูกจะคิดถึงหัวอกแม่มั้ย
เคยออกมาบอกว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด สำหรับนักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว “ลำยอง หนองหินห่าว” เจ้าของเพลงดัง เอาผัวไปเทิร์น จากที่เคยโดนหนุ่มนิรนามคอยส่งข้อความมาข่มขู่ถึงขั้นว่าจะตามไปฆ่า ไม่ว่าเจ้าตัวจะไปที่ไหนก็ตาม ซึ่งสาวลำยองได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ได้นัดทั้งสาวลำยอง และคู่กรณีที่โพสต์ข้อความดังกล่าวมาเพื่อไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งคู่กรณีเป็นชายอายุ 22 ปี อาชีพพนักงานขับรถส่งของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มาพร้อมกับคุณแม่ที่เดินทางมาจากจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งคุณแม่ได้เอ่ยปากขอโทษสาวลำยอง พร้อมกับบอกว่า ลูกชายของตนนั้นป่วยด้วยโรคไบโพลาร์ แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาเลย เพราะติดปัญหาเรื่องการเงิน และตนก็อยู่ต่างจังหวัด ส่วนลูกชายทำงานที่กรุงเทพฯ เลยไม่รู้เรื่องราวว่าลูกชายทำอะไรไว้บ้าง
โดยตลอดระยะเวลาช่วงไกล่เกลี่ย หนุ่มคู่กรณีมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด พูดน้อย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยบอกว่าให้พูดขอโทษ และบอกสาเหตุที่ทำว่าทำเพราะอะไร ซึ่งหนุ่มคู่กรณีก็เอ่ยปากขอโทษนักร้องสาว พร้อมบอกว่า ตนเป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบมานาน และที่ทำไปเป็นความไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากให้นักร้องสาวสนใจในข้อความของตนที่ส่งไปเท่านั้น และตนก็จะไม่ทำแบบนั้นอีก แต่บอกว่าตนไม่ได้ป่วยอย่างที่แม่พูด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า คดีนี้เมื่อเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง แต่มีการแจ้งความไว้ จึงทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 500 บาท พร้อมกับให้คู่กรณียืนยันกับทาง ลำยอง ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก และจะไปรับการรักษาต่อไป
ซึ่งสุดท้าย สาวลำยอง เผยว่า ตัดสินใจไม่เอาเรื่อง เพราะเห็นแก่แม่ของคู่กรณีที่อายุมากแล้ว และเดินทางมาไกลเพื่อไกล่เกลี่ยให้ลูกชาย แต่บอกว่าขอให้พาตัวคู่กรณีไปรับการรักษาให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่ไปทำอย่างนี้กับใครอีก แต่ถ้ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ตนคงจะไม่ปล่อยอีกแล้ว คงต้องถึงขั้นฟ้องศาลเอาผิดจริงๆ
“ตอนนี้ก็ถือว่าคุณแม่เขาได้พาน้องมาขอโทษ ลำยองก็ต้องให้อภัยนะคะ เพราะว่าคนเราก็มีโอกาสทำผิดพลาดกันได้ แต่การที่ทำผิดพลาดแล้วลำยองก็หวังว่าเขาจะไม่ทำอีก เพราะเท่าที่เขาด่าในไลฟ์สด ก็คือ เขาก็จะขอโทษ จาก 4-5 ครั้งที่ไลฟ์ เขาก็จะขอโทษสักครั้งนึง แต่เขาก็ยังทำอีก ลำยองก็เลยคิดว่าการขอโทษ ถ้าขอโทษกันเฉยๆ เขาอาจจะไม่ปรับปรุงตัว เพราะเขาคิดว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่มีความผิดจริงๆ แต่ตอนนี้เขาก็ต้องรับสภาพของสังคม เขาขอโทษแล้วลำยองก็พร้อมให้อภัย หวังว่าเขาคงจะไม่ทำอีก
และเป็นกรณีศึกษาของคนที่ชอบด่าคน ชอบข่มขู่คนด้วยว่าอย่าทำ อย่าสนุกปาก อย่าคิดเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีการไปด่าหรือไปข่มขู่ ลำยองคิดว่าคนอ่านหรือคนที่โดนข่มขู่เขาไม่สนุกด้วยแน่นอนค่ะ ลำยองอยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง คนที่กำลังคิดจะทำจะได้ไม่ทำอีก และลำยองก็อยากให้กฎหมายไทยชัดเจนด้วย หมายความว่า ที่ผ่านมาๆ มาลำยองโพสต์ถึงเรื่องนี้ ก็มีคนมาบอกว่าเอาผิดไม่ได้หรอก แต่ลำยองคิดว่าเอาผิดได้ คุณตำรวจช่วยเราได้ ฉะนั้นแล้วก็อยากจะเตือนทุกคนที่กำลังจะทำอย่างนี้อยู่ ห้ามเลยค่ะ”
ย้ำถ้าป่วยต้องไปรักษา หวั่นอันตรายต่อสังคม
“คุณแม่เขาบอกว่าน้องมีอาการป่วยนะคะ คุณตำรวจก็บอกว่าอาจจะต้องรอให้หมอวินิจฉัย แต่ป่วยไม่ป่วยเราก็ไม่รู้นะคะ เพราะตัวน้องเองเขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่ถ้าป่วยก็ต้องไปรักษา แต่ถ้าไม่ป่วยก็หยุดการกระทำเถอะ ถึงจะป่วยหรือไม่ป่วยถ้าคุณทำอย่างนี้มันก็อันตรายต่อสังคมอยู่ดี
ที่เขาบอกว่าทำเพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากเรา ก็ทักทายอย่างอื่นก็ได้นี่คะ เขาทักทายด้วยวิธีการหยาบคาย ลำยองก็อ่านทุกคอมเมนต์นะ จะยังไงก็แล้วแต่ถ้าด่ากันหรือข่มขู่กันมันผิดอยู่แล้ว ฉะนั้นแล้วไม่ต้องทำดีที่สุดค่ะ จะป่วยหรือไม่ป่วยก็ผิดอยู่ดี ยิ่งป่วยก็ยิ่งน่ากลัว”
สงสารแม่คู่กรณี ไม่รู้มีเงินค่ารถกลับบ้านมั้ย ซัดลูกนึกถึงหัวอกแม่มั้ย
“วันนี้ก็ให้อภัยค่ะ แต่เรื่องของกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยค่ะ จะจ่ายค่าปรับอะไรก็แล้วแต่คุณตำรวจค่ะ จริงๆ ที่ตัดสินใจไม่เอาเรื่อง เพราะคุณแม่และญาติพี่น้องของเขาโทร.มา เขาน่าสงสารมากนะคะ บางทีการที่เราเลี้ยงลูกคนนึงมามันก็เลี้ยงได้แต่ตัว หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เขาก็อยากเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีอยู่แล้วแล้วเรามาเจอเคสอย่างนี้ แล้วแม่เขาเดินทางมาจากต่างจังหวัด ไม่รู้ว่าจะมีค่ารถกลับมั้ย เราก็ยิ่งสงสาร
แต่ตัวน้องเขาเองไม่รู้ว่าจะนึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มั้ย แต่ตัวเราเองนึกถึงไงคะ เพราะเราก็ยังมีพ่อมีแม่อยู่ เราก็เลยคิดว่าเราให้อภัยได้ แต่เราไม่ได้ให้อภัยในสิ่งที่เขาข่มขู่ แต่เราให้อภัยในสิ่งที่เขายอมขอโทษและมาพร้อมกับคุณแม่ เขายอมที่จะขอโทษต่อหน้าสื่อ เราเลยคิดว่าการให้อภัยน่าจะเป็นการให้ทานอย่างหนึ่งอันดับแรกเลยที่ลำยองเห็นคือคิดถึงหัวอกคุณแม่น้องเขาที่สุด เขาเป็นคนแก่ที่ไม่รู้ว่าลูกไปทำอะไรมาบ้าง ก็เลยให้อภัยดีที่สุดค่ะ”