xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋าเทพ” รับธุรกิจขนมเปี๊ยะ ยอดขายร่วงจาก 2 หมื่นเหลือ 2 พัน! แต่ต้องทำไปก่อน พอได้ค่าน้ำค่าไฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ป๋าเทพ” เปิดใจ จากที่เคยขายขนมเปี๊ยะได้ 2 หมื่น ตอนนี้เหลือ 2-3 พันเท่านั้น แต่ต้องทำไปก่อน เดี๋ยวง่อยแด_ พอได้ค่าน้ำค่าไฟ เตรียมหวนกำกับหนัง ไม่หวั่นเจ๊ง ไม่ใช่ทุนตัวเอง

กลับมาร่วมงานกับค่ายเวิร์คพอยท์ในรอบหลายปี สำหรับ “เทพ โพธิ์งาม” ตลกชื่อดัง ที่หันไปทำธุรกิจขายขนมเปี๊ยะซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเจ้าตัวเผย เป็นเพราะอุ่นใจที่ได้ร่วมงานกับ “หม่ำ จ๊กมก” เพชรทาย วงษ์คำเหลา

“โห หลายปีนะกับเวิร์คพอยท์ กับหม่ำ ส่วนหน้าจอก็มีมาออกช่อง 7 บ้าง ก็ไม่นาน แต่ว่าไม่ค่อยได้มีรายการเท่าไหร่ ตรงนั้นก็ออกมาเฉยๆ ก็ขี้เกียจไม่รู้ทำไง

รายการนี้มาร้องเพลง มาแข่งร้องเพลงเฉยๆ ถามว่าทำไมใจอ่อนกลับมาออกรายการ ก็หม่ำเขาชวน แล้วก็มันง่ายๆกับป๋า ไปรายการอื่นก็ขี้เกียจ ไม่รู้จักกันมั้ง มาตรงนี้เหมือนเจอเพื่อนฝูง หนังก็เหมือนกัน หนังหม่ำสบาย รู้ใจเราอยู่แล้ว

สมาชิกในทีมเราเสียงดีทุกคน ใช้ได้ทุกคน ก็ต้องสู้กันอยู่แล้ว ถึงเป็นเพื่อนกันก็แล้วแต่ยังไงก็ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องแข่งกันถึงที่สุด”

เตรียมกำกับหนัง เปิดกล้องเดือนหน้า
“ไม่ค่อยได้มาแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวจะมีโปรเจกต์หนัง ที่ป๋ามากำกับ จะเปิดกล้องต้นเดือนหน้า มีคนเขาลงทุนให้ ป๋ากำกับและก็เขียนบทเอง ไม่ว่าเรื่องไหนป๋าเขียนเองอยู่แล้ว ถ้าทำเองต้องเขียนเอง

ถามว่าไม่ได้กำกับมากี่ปี จริงๆ ก็ไม่ได้กำกับหรอก อย่างดึกดำดึ๋ย เขาก็ถามว่าทำเป็นหรือเปล่า ก็บอกไปว่าทำไม่เป็น (หัวเราะ) แต่ก็หลายปีอยู่นะ ก็เสียดายหนังไม่ได้ทำเงินเท่าไหร่ ได้ 15 ล้านมั้ง ลงทุนไป 8-9 ล้านเอง แต่ว่ามันไม่ได้อะไร เหมือนหนังเสมอตัว

ทำไมเขากล้าลงทุนให้ก็ไม่รู้ เขาตามประวัติป๋ามั่ง เขาก็เลยอยากจะมาช่วยป๋า เขาถามอยากทำอะไร ก็บอกอยากทำหนัง ก็เอาสิลองดู เขาก็เลยเอา ลองดู มีหลายหุ้น”

ลงทุน 10 กว่าล้าน ไม่หวังต้องได้ 100 ล้าน
เดี๋ยวนี้ก็ 10 กว่าล้าน ถามว่าเป็นหนังแนวไหน เป็นหนังบู๋ๆ หน่อย มีดราม่าผสม เป็นเรื่องของหลายๆ ชีวิตอยู่ในเรื่องนี้ เราส่วนมากทำแนวอารมณ์เอาพวกเน็ตไอดอลที่มีคนติดตามพวกนี้

ถามว่าคาดหวังว่าต้องได้ 100 ล้านไหม 10 กว่าล้าน ขอสัก 8-9 ล้านก็ถือว่าพอใจแล้ว จะมาอะไร 100 ล้าน (หัวเราะ) ถ้ามันจะขาดทุนมันก็ขาดทุน ถ้ามันจะได้มันก็ได้ อะไรจะไปบังคับมันได้ล่ะ”

ทำหนังก็เหมือนซื้อล็อตเตอรี่
“หนังนะ เหมือนซื้อล็อตเตอรี่ใช่ไหม รางวัลที่ 1 คิดดูว่าจะไปรู้ได้ไงคนชอบแนวไหน เหมือนเพลง ทำออกมาเพลงเดียวหากินได้ทั้งชีวิต แต่นี่ถ้ามันจะมีอีกไหมที่เป็นแบบนี้ มันก็ต้องค้นหากัน แต่ส่วนมากก็ฟลุคนะ ศิลปินบ้านเราส่วนมากออกไปทางฟลุค ส่วนเราถ้ามันฟลุคก็ถือว่าแปลก ถ้ามันไม่ฟลุค แล้วเจ๊งอย่างเก่าก็ถือว่าปกติไป พระเอกนางเอกแทบจะไม่มีเลย เป็นหนังรวมๆ กัน เป็นพวกเน็ตไอดอลที่ด่าๆ กันมั่ง”

ไม่กลัวเพราะไม่ใช่ทุนตัวเอง
“ป๋าจะไปกลัวอะไร ไม่ใช่ทุนป๋า จะทำแล้วเราก็ต้องตั้งใจ”

เผยธุรกิจขนมเปี๊ยะเคยขายได้ 2 หมื่น ตอนนี้เหลือ 2-3 พัน ทำไปก่อน เดี๋ยวง่อยแด_
“ก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ก็ทำๆ ไปก่อน เป็นสูตรที่เราคิดเองก็ไม่ได้เสียไปไหน อยู่ทำไปให้ลูกให้หลานทำ แต่ทุกวันนี้ก็ยังขายได้อยู่ แต่ไม่ได้มากเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งป๋าอยู่แต่ในไร่ ในป่าในดง คนเข้าไปแต่ละทีเขาก็ปวดหัว ยอดขายลงอยู่แล้ว สินค้าทุกอย่าง ขนมเปี๊ยะเคยได้ 2 หมื่น เดี๋ยวนี้ 2-3 พันได้ ประมาณนั้น

ไม่คิดทิ้งหรอก ส่วนหนึ่งยังพออาศัยเป็นค่าน้ำ ค่าไฟได้ เราไม่ทิ้งแน่ของเราคิดมาแล้ว ลูกหลานก็สานต่อได้ อยู่วงการนี้ถ้าเป็นง่อยแด_ จบเลยนะ ป๋าคิดแล้วว่าต้องไปก่อน ไปเพื่อสานงานของเราบ้าง กับลูกหลาน กับครอบครัว ถ้าเราบ้าอยู่ตรงนี้เป็นอะไรขึ้นมาลูกหลานจบเลยนะ ลูกหลานทำไม่ได้ ถ้างั้นเราทำอะไรได้ที่ให้ทุกคนต่อยอดได้ ตอนนี้เราทำอาหารขายอยู่ แล้วก็ขนมเปี๊ยะ คนไม่มากเท่าไหร่ตอนนี้”





กำลังโหลดความคิดเห็น