หลังจากที่ก่อนหน้านี้งานประกาศผลรางวัล Grammy Awards ถูกกำหนดขึ้นเป็นวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 ส่งให้ต้องเลื่อนการประกาศผลรางวัลเป็นวันที่ 15 มี.ค. โดยปีนี้ได้พิธีกรอารมณ์ดีอย่าง “เทรวอร์ โนอาห์” มารับหน้าที่ดำเนินการประกาศผลรางวัลเป็นปีแรก โดยมีศิลปินดังร่วมโชว์มากมายทั้ง แฮร์รี สไตล์, เทย์เลอร์ สวิฟต์, ดัว ลิปา, BTS, บิลลี ไอลิช, โพสต์ มาโลน , เมแกน ธี สตอลเลียน และ บรูโน มาร์ส
การแสดงก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างการแสดงสดกับการถ่ายทำล่วงหน้า อันเนื่องมาจากต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีเวทีที่หลากหลายถึง 4 เวทีด้วยกัน
โดยการประกาศรางวัลในปีนี้จะไม่มีผู้ชมในสเตเปิล เซ็นเตอร์ อันเนื่องมาจากสถานการณ์โรคระบาด การแสดงบนเวทีจะมีเพียงศิลปิน, ผู้มีชื่อเข้าชิง และ แขกผู้มีเกียรติ ที่ทั้งหมดผ่านการตรวจคัดกรองว่าปลอดเชื้อโควิด 19 เรียบร้อยแล้ว เข้าร่วมงานเท่านั้น ส่วนเวทีที่ 5 จะเป็นเวทีของพิธีกร
ปีนี้ บียอนเซ เป็นศิลปินที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีมากที่สุดถึง 9 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่อย่าง Record of the Year ( บันทึกเสียงแห่งปี ) จากเพลง Black Parade รวมถึงผลงานเพลง Savage ที่ร่วมงานกับ เมแกน ธี สตอลเลียน แร๊ปเปอร์สาวหน้าใหม่และมีชื่อเข้าชิง 3 สาขาคือ Record of the year, Rap Performance และ Rap Song ก็เปิดตัวด้วยการคว้ารางวัล Best Rap Performance ไปเรียบร้อย
ส่วนทางด้าน เทย์เลอร์ สวิฟต์, รอดดี ริชช์ และ ดัว ลิปา ก็เข้าชิงเป็นลำดับรองลงมาอยู่ที่ 6 สาขา ตามมาด้วย บริททานีย์ โฮเวิร์ด 5 สาขา ส่วน บิลลี ไอลิช, เมแกน ธี, ฟีบี้ บริดเอร์ส, จัสติน บีเบอร์, DaBaby, ศิลปินแจ๊ซ จอห์น บีสลีย์ และ เดวิด ฟรอสต์ นักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดังก็เข้าชิงที่ 4 สาขา
ท่ามกลางชื่อศิลปินดังมากมายที่เข้าชิง กลับไร้ชื่อของ The Weeknd ที่เพลง Blinding Lights ของเขาเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งเพลงถูกปล่อยออกมาในช่วงการนับรอบหนึ่งปีของการประกาศผลรางวัลแกรมมี อย่างไรก็ตามอาจเป็นการตลบหลังจากผู้บริหาร หลังจากที่ The Weeknd เคยระบุว่าพวกเขา “ทุจริต” ทำให้มีศิลปินหลายคนรวมถึงคนในวงการเพลงต่อต้านเหล่าคณะกรรมการลับที่ใช้อำนาจในทางมิชอบในการเสนอชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัล และไม่มีการแสดงผลโหวตให้ดูเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทางสถาบันด้วย
ตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา หลังมีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมีในสาขาต่างๆ โลกได้มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมายในช่วงการระบาดของโควิด 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการประท้วงเรื่องเหยียดผิวจากกรณีการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ที่ทำให้ศิลปินผู้เข้าชิงบางคนต้องลุกมาทำเพลงเพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีทั้งอัลบัมกักตัวของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ อย่าง Folklore และเพลง Black Parade ของ บียอนเซ
นอกจากนั้นในปีนี้ บลู ไอวี่ ลูกสาวสุดที่รักวัย 9 ปีของ บียอนเซ กับ เจย์ ซี ยังคว้ารางวัลแกรมมีแรกไปครองตามรอยพ่อแม่ จากผลงานเพลง Brown Skin Girl ที่เธอร่วมแสดงมิวสิควิดีโอ โดยคว้ารางวัล Best Music Video ไปครอง ซึ่งการคว้ารางวัลในปีนี้ของ บียอนเซ ยังเป็นการทำลายเป็นสถิติศิลปินที่คว้ารางวัลแกรมมีมากที่สุดโดยรวมแล้ว บียอนเซ คว้าไปถึง 28 รางวัล และยังถือเป็นศิลปินหญิงที่คว้าแกรมมีมากที่สุดอีกด้วย
ทางด้านแร๊ปเปอร์ฉาว คานเย เวสต์ ก็คว้ารางวัล อัลบัมเพลงคริสเตียนและประสานเสียงยอดเยี่ยมจากผลงาน Jesus Is King ซึ่งเป็นอัลบัมเพลงประสานเสียงอัลบัมแรกของเจ้าตัว ท่ามกลางกระแสข่าวการเลิกรากับภรรยา คิม คาร์เดเชียน เจ้าตัวก็ยังคงไม่ปรากฏตัวออกสื่อและไม่ขอบันทึกวิดีโอคลิปเพื่อรับรางวัลแต่อย่างใด และให้คนอื่นขึ้นรับรางวัลแทน
แม้คานเย เวสต์ จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีกว่า 70 ครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยถูกเสนอเข้าชิง 4 สาขารางวัลใหญ่ โดยหลายส่วนเดาว่าอาจเป็นเพราะคำวิจารณ์ของเขาที่มีต่อสถาบันเมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกับที่ The Weeknd แสดงออกในปีนี้
รางวัลที่น่าจับตาในปีนี้อย่าง ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ก็ตกเป็นของแร๊ปเปอร์สาวมาแรง เมแกน ธี สตอนเลียน แบบไม่พลิกโผหลังจากที่เพิ่งคว้ารางวัล Best Rap Performance ร่วมกับ บียอนเซ ในเพลง Savage ไป ซึ่งผลงานเพลง Savage ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดท็อป 100 ไปเมื่อปี 2020 ก่อนที่อีกหลายเดือนต่อมาแร๊ปเปอร์สาววัย 22 ปีจะออกผลงานอัลบัมเดบิวต์ซึ่งเป็นอัลบัมแรกของเจ้าตัวที่ชื่อว่า Good News ถือว่าเป็นข่าวดีสมชื่ออัลบัมทีเดียว เพราะ เมแกน นับเป็นศิลปินฮิปฮอปหญิงคนแรกที่ได้รางวัลในสาขานี้นับตั้งแต่ที่ ลอว์เรน ฮิลล์ เคยคว้ารางวัลนี้ไปเมื่อปี 1999
นอกจากนั้นเธอยังได้ขึ้นโชว์ในงานประกาศรางวัลครั้งนี้โดยมีทั้งเพลง Body และ Savage ก่อนจะไปจอยเวทีกับ คาร์ดี บี ในเพลง WAP
ทางด้าน แฮร์รี สไตล์ที่เป็นผู้เปิดโชว์ในปีนี้ก็คว้ารางวัล ศิลปินเดี่ยวเพลงป็อปยอดเยี่ยมไปครองจากผลงานเพลง Watermelon Sugar จากอัลบัม Fine Line เมื่อปี 2019แถมปีนี้ยังขึ้นรับรางวัลบนเวทีโดยมีอดีตแฟนสาว เทย์เลอร์ สวิฟต์ ยืนปรบมือให้กำลังใจด้วย
ศิลปินมากความสามารถที่เป็นทั้งมือกีตาร์ นักร้อง นักแต่งเพลง อย่าง H.E.R. ก็คว้ารางวัลแกรรมีสาขาใหญ่อย่าง เพลงแห่งปีไปได้จากเพลงที่ต่อต้านการเหยียดผิวอย่าง I Can’t Breathe ปี 2020 โดยเพลงนี้เธอแต่งขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึง จอร์จ ฟลอยด์ และอเมริกันผิวดำอีกหลายๆคนที่ต้องเสียชีวิตด้วยน้ำมือของตำรวจ ซึ่งเพลงบัลลาดอาร์แอนด์บีเพลงนี้ นับเป็นเพลงดังในอีกหลายๆเพลงที่ถูกนำมาใช้เพื่อประท้วง Black Lives Matter ในหลายๆเมืองทั่วอเมริกาด้วย
รางวัลที่ชาวเอเชียตั้งตาคอยอย่างศิลปินดูโอ หรือ กลุ่มยอดเยี่ยม ที่มีชื่อของหนุ่มๆบอยแบนด์ BTS จากเกาหลีใต้เข้าชิง ในเพลง Dynamite ก็ต้องพ่ายให้กับเพลง Rain On Me ของ เลดี้ กาก้า กับ เอรีอานา กรานเด แม้งานนี้หลายคนทั่วโลกไม่แปลกใจ แต่ดูเหมือนชาว ARMY แฟนคลับของวง BTS จะประหลาดใจกันถ้วนหน้า ซึ่งต่างตั้งความหวังอยากให้ศิลปินที่ตนรักได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินเค-ป็อปกลุ่มแรกที่ได้รางวัลแกรมมี และยังประหลาดใจที่ไม่มีชื่อเข้าชิงในสาขาใหญ่ๆปีนี้ด้วย
รางวัลใหญ่อย่าง อัลบัมแห่งปี ตกเป็นของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ผลงานอัลบัม Folklore ที่ออกมาเซอร์ไพร์สแฟนๆในช่วงกักตัว ซึ่งถือว่าเป็นการชนะรางวัลสาขาใหญ่นี้เป็นครั้งที่ 3 ของเจ้าตัวแล้วนับตั้งแต่ Fearless ปี 2010 และอัลบัม 1989 ปี 2016
ส่วนรางวัลใหญ่อย่าง บันทึกเสียงแห่งปี ตกเป็นของ บิลลี ไอลิช สาวน้อยผมเขียวที่กวาดรางวัลแกรมมี 4 สาขาใหญ่รวดไปเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้คว้ารางวัลใหญ่สุด บันทึกเสียงแห่งปี จากผลงานเพลง Everything I Wanted เพลงที่เธอแต่งร่วมกับพี่ชายและได้ร่วมงานกับ ฟินเนส โอ’คอนเนลล์ ด้วย
ในการขึ้นรับรางวัลครั้งนี้เจ้าตัวคิดว่ารางวัลดังกล่าวน่าจะตกไปอยู่ในมือของ เมแกน ธี สตอลเลียน ซึ่งกว่าครึ่งของการพูดรับรางวัลนี้เธอมีแต่ชื่นชม เมแกน ธี สตอลเลียน พร้อมยินดีกับความสำเร็จของแร๊ปเปอร์สาวที่ได้รางวัล ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ เพลงแร๊ปยอดเยี่ยมไปครองด้วย
ผลรางวัลแกรรมี 2021
Album of the Year : folklore, Taylor Swift
Record of the Year : "Everything I Wanted," Billie Eilish
Song of the Year : "I Can't Breathe," Dernst Emile II, H.E.R. & Tiara Thomas, songwriters (H.E.R.)
Best New Artist : Megan Thee Stallion
Best Pop Solo Performance : "Watermelon Sugar," Harry Styles
Best Pop Vocal Album : Future Nostalgia, Dua Lipa
Best Rap Song : "Savage," Beyoncé, Shawn Carter, Brittany Hazzard, Derrick Milano, Terius Nash, Megan Pete, Bobby Session Jr., Jordan Kyle Lanier Thorpe & Anthony White, songwriters (Megan Thee Stallion Featuring Beyoncé)
Best R&B Performance : "Black Parade," Beyoncé
Best Rock Song : "Stay High," Brittany Howard, songwriter (Brittany Howard)
Best Rock Performance : "Shameika," Fiona Apple
Best Rap Album : King's Disease, Nas
Best Rap Performance : "Savage," Megan Thee Stallion featuring Beyoncé
Best Pop Duo/Group Performance : "Rain On Me," Lady Gaga with Ariana Grande
Best R&B Album : Bigger Love, John Legend
Best Progressive R&B Album : It Is What It Is, Thundercat
Best R&B Song : "Better Than I Imagine," Robert Glasper, Meshell Ndegeocello & Gabriella Wilson, songwriters (Robert Glasper Featuring H.E.R. & Meshell Ndegeocello)
Best Traditional R&B Performance : "Anything for You," Ledisi
Best Music Video : "Brown Skin Girl," Beyoncé, Blue Ivy Carter & Wizkid
Best Latin Rock or Alternative Album : La Conquista del Espacio, Fito Paez
Best Country Solo Performance : "When My Amy Prays," Vince Gill
Best Country Duo/Group Performance : "10,000 Hours," Dan + Shay & Justin Bieber
Best Country Song : "Crowded Table," Brandi Carlile, Natalie Hemby & Lori McKenna, songwriters (The Highwomen)
Best Country Album : Wildcard, Miranda Lambert
Best Rock Album : The New Abnormal, The Strokes
Best Latin Pop or Urban Album : YHLQMDLG, Bad Bunny
Best Jazz Vocal Album: Secrets Are The Best Stories, Kurt Elling Featuring Danilo Pérez
Best Americana Album: World On The Ground, Sarah Jarosz
Best Contemporary Blues Album: Have You Lost Your Mind Yet?, Fantastic Negrito
Best Global Music Album: Twice As Tall, Burna Boy
Best Spoken Word Album (Includes Poetry, Audio Books & Storytelling): Blowout: Corrupted Democracy, Rogue State Russia, And The Richest, Most
Best Music Film: Linda Ronstadt: The Sound Of My Voice, Linda Ronstadt
Best Traditional Pop Vocal Album: American Standard, James Taylor
Best Dance Recording: "10%," Kaytranada featuring Kali Uchis
Best Dance/Electronic Album: Bubba, Kaytranada
Best Contemporary Instrumental Album: Live at the Royal Albert Hall, Snarky Puppy
Best Metal Performance: "Bum-Rush," Body Count
Best Alternative Music Album: Fetch the Bolt Cutters, Fiona Apple
Best Melodic Rap Performance: "Lockdown," Anderson .Paak
Best New Age Album: More Guitar Stories, Jim "Kimo" West
Best Improvised Jazz Solo: "All Blues," Chick Corea, soloist, Track from: Trilogy 2 (Chick Corea, Christian McBride & Brian Blade)
Best Jazz Instrumental Album: Trilogy 2, Chick Corea, Christian McBride & Brian Blade
Best Large Jazz Ensemble Album: Data Lords, Maria Schneider Orchestra
Best Latin Jazz Album: Four Questions, Arturo O'Farrill & The Afro Latin Jazz Orchestra
Best Gospel Performance Song: "Movin' On," Jonathan McReynolds & Mali Music; Darryl L. Howell, Jonathan Caleb McReynolds, Kortney Jamaal Pollard & Terrell Demetrius Wilson, songwriters
Best Contemporary Christian Music Performance/Song: "There Was Jesus," Zach Williams & Dolly Parton; Casey Beathard, Jonathan Smith & Zach Williams, songwriters
Best Gospel Album: Gospel, According to PJ, PJ Morton
Best Contemporary Christian Music Album: Jesus Is King, Kanye West
Best Roots Gospel Album: Celebrating Fisk! (The 150th Anniversary Album), Fisk Jubilee Singers
Best Regional Mexican Music Album (Including Tejano): Un Canto Por México, Vol. 1, Natalia Lafourcade
Best Tropical Latin Album: 40, Grupo Niche
Best American Roots Performance: "I Remember Everything," John Prine
Best American Roots Song: "I Remember Everything," Pat McLaughlin & John Prine, songwriters (John Prine)
Best Bluegrass Album: Home, Billy Strings
Best Traditional Blues Album: Rawer Than Raw, Bobby Rush
Best Folk Album: All the Good Times, Gillian Welch & David Rawlings
Best Regional Roots Music Album: Atmosphere, New Orleans Nightcrawlers
Best Reggae Album: Got to Be Tough, Toots & The Maytals
Best Children's Music Album: All the Ladies, Joanie Leeds
Best Comedy Album: Black Mitzvah, Tiffany Haddish
Best Musical Theater Album: Jagged Little Pill
Best Compilation Soundtrack For Visual Media: Jojo Rabbit, Various Artists
Best Score Soundtrack For Visual Media: Joker, Hildur Guðnadóttir, composer
Best Song Written For Visual Media: "No Time to Die," No Time to Die, Billie Eilish O'Connell & Finneas Baird O'Connell, songwriters (Billie Eilish)