“บุ๋ม ปนัดดา” ช้ำหนัก อยู่วงการ 20 ปี ไม่คิดว่าจะถูกแกงหม้อใหญ่ ขอโทษ “จั๊กจั่น” จากหัวใจ โอดนอนไม่หลับได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องไห้ ปล่อยโฮขอโทษกลัวโดนเกลียด ยืนยันไม่เคยพูดแฟนจั๊กจั่นทำธุรกิจสีเทา ก่อนจั๊กจั่นจะโทรศัพท์มาเคลียร์ใจ โล่งใจบอกรักแก อยากกอด พร้อมแนะอดีตผจก. ต้องรักษา สร้างเรื่องได้ขนาดนี้
แม้จะออกมาขอโทษ “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ไปแล้ว กรณีที่พาดพิงเรื่องดาราสาวยอมตกเป็นโลกใบที่สอง ทั้งที่กำลังจะแต่งงาน จนเรื่องลุกลามบานปลาย มีตัวละครโผล่มากมาย สุดท้ายกลับกลายเป็นมหกรรมโป๊ะแตกหม้อใหญ่
ล่าสุด “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี”ได้เปิดใจแถลงเพื่้อขอโทษสาวจั่นและครอบครัวแฟนหนุ่ม “เค วัฒนา”อีกครั้ง แม้ก่อนหน้านั้นจะขอโทษหนุ่มเคผ่านรายการตกมันส์บันเทิงไปแล้ว งานนี้ เจ้าตัวถึงกับร่ำไห้ ยอมรับว่าโง่เอง ที่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมเคลียร์สาวจั๊กจั่นต่อหน้าสื่อ โดยสาวจั่นเป็นฝ่ายโทร.เข้ามา
“ไม่โอเคเลย เราพยายามขอโทษในทุกทางที่เราทำได้เพราะเรารู้สึกผิดจริงๆ แต่ด้วยคำพูดที่เขาพูดใน clubhouse มันเลยกลายเป็นว่า น้องเขาอาจจะรู้สึกว่าเราขอโทษแบบไม่จริงใจ
ถ้ารู้จักบุ๋มจริงๆ บุ๋มจะเป็นคนที่พยายามจะมองในหลายๆ จุด ทีนี้ในกลุ่มเมื่อวานก่อนที่น้องจะเข้ามา มันมีเรื่องหนึ่งที่น้องพูดถึงคนป่วย มีอาการทางจิต เราก็เลยบอกว่าถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ระวังกันนิดหนึ่ง เพราะว่ามันเซนซิทีฟ แต่กลับกลายเป็นว่าคนมองว่าบุ๋มไปเข้าข้างอาบี ทำไมถึงไม่เห็นใจจั๊กจั่นบ้าง จั๊กจั่นเองก็ออกมาบอกว่า แล้วถ้าหนูฆ่าตัวตายบ้างล่ะ
ไม่มีใครอยากให้ใครเป็นอะไรทั้งสิ้น ยิ่งสิ่งที่จั๊กจั่นเจอ มันเจอหนักกว่าที่ใครเขาเจออยู่แล้ว ฉะนั้นเราคุยกันได้แค่กรณีแรกเท่านั้น ไม่ใช่ว่าไม่ได้แคร์จั๊กจั่น หรือ ไม่ได้ห่วงเลย มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ
เจตนาแค่พูดให้มองหลายๆ ด้าน ในฐานะที่ทำคดีหลายๆ มุมมา เราเองไม่ได้เป็นคนที่อยู่ข้างใน แล้วเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยต้องคิดให้รอบคอบขึ้น เพียงแต่ว่าตอนนั้นรอจังหวะให้คนเข้ามา ไม่นึกว่าจะเข้ามาใน clubhouse กันเร็วขนาดนี้ บุ๋มพลาดเองที่ไม่พูดแทรกพี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) ไม่พูดแทรกปุ๊ก บุ๋มกลับอึ้ง เพราะว่าได้ยินเสียงสั่นเครือของจั๊กจั่น มันเลยทำให้บุ๋มไปไม่เป็นเลย แล้วกลายเป็นว่าเสียงร้องไห้เขามันติดหูบุ๋มไปถึงเช้า จนเรารู้สึกแย่รู้สึกแย่กับการนำเสนอข่าวของเราที่มันทำให้น้องเสียใจมากขนาดนี้
แต่เราไม่โทษน้องนะ เพราะเราทำตัวเราเอง เราเป็นคนอ่านข่าวเขาจริงๆ เรารู้สึกผิดจริงๆ เราอยากรับผิดชอบตรงนี้จริงๆ ก็เลยโพสต์ข้อความประมาณตี 3 ไปอีกรอบหนึ่ง ด้วยความที่ความรู้สึกมันตลบไปหมดเลย รู้สึกว่าไม่ได้ เลยคุยกับทางรายการ ว่าพี่ต้องขอโทษน้องผ่านทางรายการ เพราะว่าเราได้อ่านข่าวน้องผ่านหน้ารายการ”
เจ็บ รู้จัก “อาบี” เกือบ 20 ปี ไม่คิดว่าจะแกงกัน ไม่เคยพูดว่าแฟนจั๊กจั่นทำธุรกิจสีเทา
“ความรู้สึกหนึ่งคือเจ็บ เพราะว่าอย่างอาบี รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี มันไม่นึกหรอกว่าใครคนหนึ่งจะทำเรา...ที่เขาเรียกกันว่าแกง มันจะทำกันขนาดนี้ ส่งข้อความมาเยอะมาก แต่บุ๋มอยากจะบอกว่าถ้าไปย้อนดูดีๆ วันจันทร์เราพูดถึงกรณีน้องก็จริง แต่บุ๋มบอกแล้วนะว่าไม่ให้โพสต์ถึงชื่อน้อง เพราะว่ายังไม่มีใครรู้ความจริงอะไรเลย วันอังคารบุ๋มไม่ได้จัดรายการ แต่น้องได้มีการให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว
หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไร อาบีส่งข้อความอะไรมา ทีมส่งข้อความอะไรมาบุ๋มไม่มีเอามาพูดเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่าคำที่ออกจากปากน้องคือที่สุด คำพูดของคุณเค วัฒนา ของวันพุธที่ผ่านมาคือที่สุด อ่านตามตรงนั้นเป๊ะๆ เลยยังงงอยู่ตรงนี้ว่าทำไมถึงมาหาว่าบุ๋มไปกล่าวหาเขาเรื่องธุรกิจสีเทา เพราะหลังจากวันพุธบุ๋มยังไม่ได้จัดรายการ ยังไม่มีอะไรให้โพสต์หรือเขียนเลย
ถามว่าเราพลาดตรงไหน บุ๋มว่านักข่าวที่คุยกันทุกคนในนี้ เราโดนหมดนะ เราโดนข้อมูลส่งด้วยกันหมด แต่บุ๋มจะไม่โทษใครว่าเราโดนแกงกันทั้งหมด มันคือสิ่งที่เราจะพูดออกไปมันต้องคัดกรอง แต่อยากให้เปิดใจ อย่างเช่นเรื่องธุรกิจสีเทา คือเขาเป็นคนบอกเรา เราไม่ได้เป็นคนพูดกับคนอื่น แต่กลับกลายเป็นว่าเราไปพูดกับคนอื่น เพราะมันมีแชตอื่นที่เขาไปบอกชาวบ้านว่าบุ๋มเป็นคนจะไปแจ้งความตำรวจเรื่องธุรกิจโต๊ะบอล กลายเป็นบุ๋ม บุ๋มว่าน้องคงได้รับข้อความแบบนี้ที่แชร์ๆ กัน แล้วก็ไปถามน้องจนน้องเข้าใจผิดว่าบุ๋มเป็นคนพูด”
รับผิดทุกอย่างเพราะรู้สึกแย่ ขอโทษจากหัวใจไม่มีเจตนาทำร้ายน้อง
“บุ๋มส่งข้อความไปถามอาบีค่ะ แต่เขาไม่ตอบบุ๋มเลยค่ะ หลังจากที่ทุกอย่างมันเปิดออกมา บุ๋มมีข้อมูลทุกอย่างก็จริงที่ถามกับนักข่าวแต่ละคน ไม่แตะเลยนะ ไม่เคยเอาออกมาเลยนะ คลิปเสียงหรืออะไรก็ตาม เพราะเรารู้สึกว่าใช่...มันมีประเด็นนี้เกิดขึ้นจริง แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นเราทำข่าวดารา คำพูดของดารามันเป็นสิ่งที่เราต้องไปเอาคำพูดจากปากเขา ความเป็นจริงมันอยู่ที่นั่น
แต่ถามว่าเมื่อมีประเด็นแล้วเราไม่พูดใช่ไหม...มันก็ไม่ใช่ เพียงแต่ถ้าคนอื่นจะหาว่าบุ๋มเริ่ม ไม่เป็นไร บุ๋มยอมรับผิดทุกอย่าง จะผิดจริง ไม่ผิดจริง เรารับผิดหมดทุกอย่างเพราะเรารู้สึกแย่ รู้สึกว่าคนๆ หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาคงแย่กว่าเราเยอะ ร้องไห้กว่าเราเยอะ ดังนั้น อยากจะขอโทษน้องจริงๆ ด้วยความจริงใจจากหัวใจเลยว่าไม่มีความตั้งใจหรือเจตนาที่จะทำร้ายน้องแบบนี้เลย”
เป็นสิทธิ์ของจั๊กจั่นหากจะไม่รับคำขอโทษ พ้อทำข่าวกันหมด ทำไมโดนอยู่คนเดียว
“กลัวไหมเหรอ ไม่เป็นไรมันเป็นสิทธิ์ของน้องค่ะ แล้วบุ๋มก็ยอมรับผิดเองจริงๆ หลายคนก็บอกว่าทำข่าวกันหมดทุกช่อง คนอื่นก็พูดเหมือนกันทำไมบุ๋มโดนอยู่คนเดียว บุ๋มไม่ทราบ แต่ถ้าโซเชียลบอกว่าบุ๋มผิด บุ๋มก็ผิด โอเค บุ๋มยอมรับผิดด้วยนะ”
ขอโทษ เค วัฒนา และครอบครัว แต่คำว่าธุรกิจสีเทาไม่เคยออกจากปากตน
“ใช่ค่ะ ในรายการเมื่อสักครู่นี้เหมือนกับว่าบุ๋มใช้พื้นที่ของตกมันส์บันเทิง เพราะว่าบุ๋มใช้พื้นที่นี้ในการทำข่าวน้องด้วย เลยใช้พื้นที่ตรงนั้นและอยากใช้โอกาสตรงนี้อีกครั้งขอโทษน้องจั๊กจั่น ครอบครัวของน้องจั๊กจั่น คุณเคเพื่อนๆ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง อย่างครอบครัวของคุณเคด้วยนะคะ ที่เข้าใจผิดหรือว่าเข้าใจว่าบุ๋มมีเจตนาที่ไม่ดีกับครอบครัว บุ๋มขอโทษจริงๆ (ยกมือไหว้)
คำว่าธุรกิจสีเทาไม่ได้มาจากบุ๋มนะ ดังนั้นถ้าอยากให้บุ๋มขอโทษ ถ้าเจออีกทีบุ๋มยินดีค่ะ แมนๆ แบบนี้แหละ ทำก็คือทำ ไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าไม่ได้ทำ แล้วเข้าใจผิดเราทำ บุ๋มก็ขอโทษ ขอโทษคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
พ้อโง่เอง รู้จักมานาน 20 ปีแต่ไม่มีค่า อยู่วงการเดียวกันไม่ควรทำร้ายกันแบบนี้
“จริงๆ เขาไม่ได้ใช้บุ๋มคนเดียว สื่อหลายๆ สื่อได้รับข้อมูลเหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่รู้สึกแย่คือเรารู้จักเขามานานมาก ความสัมพันธ์ 20 ปีมันไม่มีค่าอะไรเลยเหรออาบี บุ๋มเสียใจที่เพื่อนในวงการมันไม่ควรที่จะทำร้ายกันอย่างนี้ พี่ไม่ควรทำร้ายน้องแบบนี้ ยิ่งใกล้ชิดน้องมากขนาดนี้ พี่ต้องรู้สิว่าน้องนิสัยดีขนาดไหน น้องทำงานการกุศล น้องช่วยคนขนาดไหน น้องไม่ควรเจอแบบนี้ แต่ ณ วันนั้นบุ๋มโง่เอง เขาเล่นมาหาถึงที่ด้วยความที่ข้อมูลมันไม่ใช่แค่คำสองคำ หรือภาพสองภาพ มันอย่างนี้เลย (โชว์ข้อความแชต)
อันนี้คือไลน์ของเขา เขาส่งมาเยอะแบบนี้เลย (เลื่อนแชตในโทรศัพท์ให้ดู) ถามว่าเอ๊ะไหม ก็ต้องเอ๊ะเหมือนกัน ว่าทำไมสตอรี่เรื่องราวมันขนาดนี้ แต่ก็เอ๊ะอีกอย่างด้วย คือเขาก็ผู้ใหญ่ เพราะการเอ๊ะของเรา เราถึงไม่ได้เอาข้อมูลทั้งหมดนี้ออกมาเปิดเลยนะ ไม่มีเลย บุ๋มขอสัมภาษณ์จั๊กจั่น ขอคำจากน้อง จากคุณเค นั่นคือสิ่งที่จบ ไม่มีอะไรจากในนี้หลุดไปเลย รูปที่เขาส่งให้คนอื่นก็มี อย่างที่แอนนา ทีวีพูลเปิด อย่างที่พี่หนุ่ม เปิด แต่เราไม่ได้เปิดเลย ถือว่าไม่ใช่เรื่อง”
ไม่นับว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่อยากให้ไปรักษา
“โอ้...ถ้าเพื่อนทำกันอย่างนี้ ไม่ใช่เพื่อนแล้วมั้ง แต่แค่อยากให้เขาที่นอกเหนือจากรับผิดที่เขาโพสต์ อยากให้เขาไปรักษาจริงๆ นะ การสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ บุ๋มไม่เคยเจอนะ เราเจอผู้ร้ายมาเยอะมากเลย แต่เราไม่เคยเจอแบบที่สามารถสร้างตัวละครขึ้นมาขนาดนี้ มีคลิปเสียงด้วย ไม่เคยเจอ บุ๋มยอมรับเลยว่าไม่เคยเจอแบบนี้จริงๆ เขาป่วยไหมเราพูดไม่ได้นะ ต้องให้หมอเป็นคนพูด”
อาบีไม่ขอโทษตนก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องอะไรไปมากกว่านี้
“ไม่เป็นไร บุ๋มโดนหนักเพราะจั๊กจั่นเข้าใจผิด ไม่เป็นไร ถามว่าโกรธเขาไหม โกรธสิ แต่ไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว ไม่”
ไม่เสียหน้าโดนแกงหม้อใหญ่
“ไม่เสียหน้าค่ะ แต่เสียใจมากกว่า เราไว้ใจคนนะ แต่การไว้ใจ ก็บอกว่าอย่างที่บุ๋มก็มีเอ๊ะถูกไหม ถึงไม่มีข้อมูลออกไปเหมือนสื่ออื่นนะ ไม่มีเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นแค่นักข่าวบันเทิง เราแค่นำเสนอประเด็นขึ้นมา และเมื่อดาราให้สัมภาษณ์มันต้องจบ แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นความเข้าใจผิดที่คนบอกว่าบุ๋มต้องเป็นตัวเริ่ม ไม่ใช่นะ ถ้าเกิดดูดีๆ บุ๋มไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่ก็ไม่ขอปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น ขอน้อมรับความผิดแต่โดยดี”
บอกตอนได้รับข้อมูลมา ทีมงานโทรศัพท์หาจั๊กจั่นแล้ว แต่อีกฝ่ายติดถ่ายพรีเวดดิ้ง
“โทร.ค่ะ ให้ทีมข่าวโทร.ค่ะ แต่น้องถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ แต่อีกวันน้องก็มา แต่จังหวะรายการไม่ดี เพราะเราเป็นรายการสด ก็เลยกลายเป็นว่าเราได้คำสัมภาษณ์ของน้อง เราก็อ่านตามที่น้องให้สัมภาษณ์ ทุกอย่างก็จบอยู่แค่นั้น ไม่ได้มีต่อเลย”
ไม่เป็นไรหากทุกคนจะหมดความเชื่อมั่นตน
“ถ้าเหตุการณ์เดียว แล้วทำให้ทุกคนหมดความเชื่อมั่นในตัวบุ๋ม ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าวันหน้าอยากจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบุ๋มยินดี ไม่ต้องมาคาดคั้นจากบุ๋มอีกก็ได้ แต่บุ๋มก็จะยังทำในสิ่งที่บุ๋มช่วยคนได้ ทำเคสต่างๆ เหมือนเดิม ถอยไม่ได้ค่ะ มันคนละเรื่องกัน งานก็คืองาน แต่บทบาทในสิ่งที่เราทำมันก็ต้องทำ แต่ถึงบอกว่า อย่างเมื่อคืนที่จั๊กจั่นอาจจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ขอโทษเขาจากใจจริง วันนี้เขาเลยมาพูดแบบนี้ บุ๋มก็เลยบอกว่าไม่ใช่นะน้อง ไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นแน่นอน”
พ้ออยู่วงการมานานถึง 20 ปี ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ ยกเป็นบทเรียน
“ทำงานอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี เราก็ไม่นึกหรอกเนอะ ว่าเราจะเจอเรื่องแบบนี้ แล้วก็ไม่นึกว่าจะเจออะไรที่มันเป็นภารตะ เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ที่จะทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งได้ขนาดนี้ มันก็เป็นบทเรียนเราเหมือนกันค่ะ แต่ถามว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่ต่อไปคงไม่ใช่ แต่จะรักษามากขึ้น จะพยายามทำงานให้ดีกว่านี้”
น้อมรับทุกคอมเมนต์ ผิดคือผิด ไม่มีข้อแก้ตัว
“อยากจะบอกโซเชียลทุกคน คุณมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ ทำได้เต็มที่เลยค่ะ แล้วบุ๋มขอน้อมรับทุกคอมเมนต์ คุณจะบอกว่าผิดหวังในตัวพี่บุ๋มมาก จะไม่ติดตามแล้ว ยินดีค่ะ ผิดก็คือผิด บุ๋มยอมรับเต็ม แล้วก็ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นค่ะ เพราะแค่อยากมาบอกว่าอะไรที่ทำ และอะไรที่ไม่ได้ทำ บุ๋มชัดเจนตรงนี้เสมอค่ะ”
ณ วันนี้มีแต่ตาลทิพย์แล้ว เสียงสั่นกลัวจั๊กจั่นเกลียด
“ณ วันนี้ต้องตาลทิพย์แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นอะไรอย่างนี้เกิดขึ้น บุ๋มว่ามันก็ไม่แฟร์กับทุกๆ คน แล้วก็ตัวนักข่าวเอง ก็ขอพูดในนามนักข่าวบันเทิงในวันนี้แล้วกัน พวกเราเองก็มีการคุยกันนะคะ เราเองก็รู้สึกแย่ในสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนพยายามทำหน้าที่งานของตัวเองให้ดีที่สุด แต่เมื่อมันไปทำร้ายจิตใจใครก็ตาม ก็ขอน้อมรับความผิดไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ แล้วบุ๋มเองไม่ว่าจะทำให้ใครรู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับจั๊กจั่นหรืออะไร บุ๋มเองต้องขอโทษอีกครั้งค่ะ ขอโทษจากใจค่ะ (ยกมือไหว้)
ถามว่าสนิทอาบีแค่ไหน เจอกันตามงานการกุศลเท่านั้นเอง แค่ตอนนี้บุ๋มแคร์ความรู้สึกจั๊กจั่นมากกว่า แคร์ความรู้สึกน้องมากกว่า (เสียงสั่น) ว่าน้องจะรู้สึกยังไง น้องจะเกลียดเราไหม แต่น้องคงเข้าใจผิดไปเยอะ เมื่อวานไม่ร้บสาย แถมยังบอกว่าถ้าจั่นฆ่าตัวตายบ้างล่ะ คือไม่มีทางที่เราจะทำให้น้องรู้สึกอย่างนั้นแน่นอน”
อีกฝ่ายเข้าใจตนแล้วก็จริง แต่ก็ยังเข้าใจผิดเรื่องธุรกิจสีเทา ร่ำไห้บอกสิ่งที่ตนเจอกระจอกไปเลย
“ใช่ แต่เขายังเข้าใจผิด หาว่าเราไปพูดเรื่องธุรกิจสีเทา ซึ่งบุ๋มทำรายการแค่วันจันทร์ วันพุธ แล้วหลังจากนั้นไม่ได้ทำเลย อย่างที่บุ๋มโพสต์ในไอจี ว่าพี่อาบีส่งชื่อมา บุ๋มยังบอกเลยว่าขอให้ไม่เป็นจริง แต่เมื่อคืนใน clubhouse มันชุลมุนมาก บุ๋มยอมรับว่าไม่ได้อธิบายเคลียร์ แล้วพอมีเสียงน้องร้องไห้ เราก็อึ้งไปเลย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ได้แต่ขอโทษ
อธิบายไม่ถูก น้องคงเสียใจเนอะ เรารู้สึกอย่างนั้น น้องคงเสียใจมาก มากกว่าวันนี้ที่เราร้องไห้ มากกว่าวันนี้ที่เราแย่ สิ่งที่บุ๋มเจอมันกระจอกมาก สำหรับสิ่งที่น้องเจอ บอกเลยว่ามันน้อย ถ้ามีโอกาสอยากจะขอโทษน้องต่อหน้ามากกว่าค่ะ เพราะพูดแค่เสียงผ่าน clubhouse มันอธิบายไม่ได้ (ร้องไห้) เราพยายามโทร.หาน้องค่ะส่งข้อความไปเมื่อวาน แต่เขาไม่ตอบอะไร ไม่เป็นไร”
(คิดว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเราไม่เข้าข้าง?) พอเห็นข้อความอื่นของอาบี ที่ส่งให้คนอื่น บอกว่าบุ๋มเป็นคนที่แบบโน้นนี่ มันก็เลยไม่แปลกที่จั๊กจั่นจะเข้าใจบุ๋มผิด ว่าบุ๋มเป็นคนไปวิ่งกับตำรวจ ซึ่งเราไม่เกี่ยวอะไรเลย (ปล่อยโฮ ร้องไห้หนัก)”
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ บุ๋มก็ได้เข้าไปกอดและร้องไห้กับนักข่าว ก่อนก็มีสายจากจั๊กจั่นโทร.เข้ามา เลยได้เคลียร์ใจกันตรงนั้น ซึ่งต่างฝ่ายต่างร้องไห้กันทั้งคู่ โดยมีใจความในสายสนทนาดังนี้ “ฮัลโหลน้อง พี่ขอโทษนะจั่นพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้พูดอะไรอย่างนั้นเลย พี่เสียใจมากที่ทำให้หนูเสียใจ หนูรู้สึกแย่เพราะพี่
ไม่ได้เอาข้อมูลเขามาออกรายการเลยนะ ไม่รู้ว่าหนูไปฟังอะไรแต่พี่อยากโทร.หาหนูมาก พี่ขอโทษ พี่รักหนูมากเหมือนเดิม ฝากขอโทษเขาด้วยนะคะ ฝากขอโทษครอบครัวของหนูกับคุณเคด้วยนะ พี่รู้สึกแย่
พี่ก็ช็อกเหมือนกันเรารู้จักกันมานานทำไมเขาทำกันอย่างนี้ เป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ ก็ไม่เข้าใจทำไมทำน้องแบบนี้
พี่เพิ่งเห็นข้อความที่เขาส่งไปหาคนอื่นว่าพี่ ซึ่งไม่ใช่พี่เพิ่งเข้าไปกองปราบก็จริงแต่ไม่ได้เกี่ยวกับคุณเคเลย พี่ทำงานกับตำรวจอยู่แล้ว
อย่ายอมสิ เราเสียหายมาก มันก็เสียหายกันหมดเลยนะตอนนี้ แต่ไม่มีใครเจ็บเท่าหนูหรอกอันนี้พี่รู้ ดังนั้นหนูสามารถจัดการได้เต็มที่เลย...ได้ พี่ช่วยหนูเต็มที่...ได้ คือวันแรกด้วยเจตนาพี่ก็จะช่วยหนูถูกไหม คำแรกก็คือช่วยหนูนะ แต่ว่ามันต้องไม่ใช่คนที่เลวๆ เข้ามาใกล้หนู แต่ ณ วันนี้มันไม่ใช่ความจริงมันปรากฏ หนูอยากให้พี่ช่วยอะไรหนูบอกพี่ยินดี พี่ยังอยู่ข้างหนูเหมือนเดิม
ไม่ได้ๆ มันเสียหายกันไปหมดเลย ทั้งน้องอั้ม นันทิยา น้องพริตตี้ ทนายอีก เป็นเรื่องราวใหญ่โต
พี่ขอโทษที่พี่ไม่ทันได้อธิบายพอได้ยินเสียงหนูพี่อึ้ง ช็อกแด_ไปเลยเมื่อวานนี้ แล้วได้ยินเสียงหนูร้องไห้ยิ่งเจ็บสุดๆ พี่ขอพูดอย่างนี้เมื่อวานพี่ตั้งใจพูดในโซเชียลแค่ คนป่วย ยังไงต้องพาไปเจอหมอ คือเราทำงานตรงนี้มาเราแคร์คนทุกคนรอบด้านมากเกินไปพี่ขอโทษตรงนี้ด้วย เอาอย่างนี้นะจั่น หนูว่างวันไหน อยากเจอวันไหนบอกพี่มา เดี๋ยวเรามาดูคดีด้วยกันได้
มีใครอยู่ข้างหนูไหม ไม่ได้อยู่คนเดียวใช่ไหม อยากกอดแกว่ะ พวกเราไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้
รักหนูมากเหมือนเดิมนะ เมื่อกี้สื่อถามจะอะไรไหมอาบีไม่ขอโทษ ก็บอกช่างแม่_เถอะไม่สนใจแล้ว ตอนนี้ขอแค่แคร์ความรู้สึกแก ว่าแกรับคำขอโทษฉันไหม
พี่เข้าใจ เสียงร้องไห้หนูถึงค้างในหัวถึงเช้า นอนไม่ได้เลย รู้สึกผิดรู้สึกแย่มากที่ต้องเจออะไรแบบนี้
ตอนนี้หนูเอาใจหนูให้เบาลงก่อน ทุกคนรู้ความจริงหมดแล้ว แล้วพี่เชื่อว่าทุกคนรักหนูมากกว่าเดิมอีก แล้วเรื่องข่าวที่มันจะอยู่หน้าโซเชียล พี่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจ และจะเปลี่ยนมุมมองและอธิบายให้หนูได้ ไม่ว่าจะเปิดข่าวต่อไปในอนาคต
ตอนนี้นักข่าวก็ยืนกันเต็มไปหมด ทุกคนจะอยู่เคียงข้างหนู หนูไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย แล้วทุกคนพร้อมจะอธิบายให้หนูเต็มที่ ถ้าหนูอยากให้พี่ทำอะไรเรื่องคดีหนูพี่รับปากตรงนี้พี่จะยืนเคียงข้างหนูแน่นอน เหมือนเดิม ไม่ต้องห่วง ... ขอบคุณหนูมาก ขอบคุณที่โทร.มาโคตรดีใจ”
ก่อนจะให้สัมภาษณ์อีกรอบว่า “สบายใจเยอะมากๆๆๆ โล่งมาก ปลดล็อกเลยอะ น้องบอกว่าเข้าใจบุ๋มนะ แต่ไม่พร้อมเท่านั้นเองเพราะว่าเมื่อคืนคือแบบเสียใจมาก แล้วก็ไม่อยากให้จบแค่นี้ อยากให้มีการดำเนินคดีกับอาบี ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวช่วยน้องเต็มที่เพราะบุ๋มเองก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ว่าคนๆ หนึ่งไม่ควรเจออะไรอย่างนี้ ยังไงก็สัญญาค่ะว่าจะทำให้ดีที่สุด”
บอกต่างฝ่ายต่างตกเป็นเหยื่อ
“ใช่ค่ะ บอกว่าตัวบุ๋มเองกับเขาเองก็ตกเป็นเหยื่อของอาบีทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เราทุกคนโดนกันหมด เราจะทำยังไงได้บ้างดังนั้นก็เชื่อว่าความเป็นพี่เป็นน้องยังเหมือนเดิม (จั๊กจั่นหายโกรธไหม?) ยิ่งกว่าหายโกรธค่ะ แต่ร้องไห้หนักมากบอกว่าเสียใจทำไมเขาต้องมาทำให้ความสัมพันธ์บุ๋มกับจั๊กจั่นมันแตกแบบนี้ ไม่ดีแบบนี้ รู้สึกแย่แบบนี้ มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเพราะบุ๋มกับเขาพูดกันตรงๆ เบื้องหลังเลยมีหลายเคสมากเรื่องหมาแมวเรื่องกิจกรรมต่างๆ คือบุ๋มกับน้องทำกันมาตลอด ดังนั้นจากวันนี้ไปอย่างแน่นแฟ้นและแน่นกว่าเดิมบอกเลยค่ะ บุ๋มจะยืนเคียงข้างน้องไม่ต้องห่วงค่ะ ขอบคุณค่ะ”
