“แม่หญิงลี” เดินทาง 21 ชม. เพื่อเล่นหนังให้ “พชร์ อานนท์” ดีใจที่มีแฟนคลับมารับอย่าล้นหลาม ไม่เคยคิดว่าจะเยอะขนาดนี้ ยอมรับชีวิตเปลี่ยนไป แต่ตัวตนจะยังเหมือนเดิมแน่นอน ซึ้่งพชร์เซ็นเช็คให้ 5 หมื่นรักษาแม่ สัญญาดังแล้วจะไม่ลืมตัว ออกปากอยากเจอ อั้ม, ยุ้ย, เบลล่า เพราะชื่นชอบมานาน
ถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้เลย สำหรับ “พระมหาเทวีเจ้า แห่งเมืองทิพย์”หรือ “แม่หญิงลี เจ๊อย่าวีน” บุหงาวลัย คงขวัญ ที่เพิ่งสร้างปรากฎการณ์แฟนคลับแห่ไปต้อนรับถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงกันแบบล้นหลาม ล่าสุดผู้กำกับมือฉมัง “พชร์ อานนท์”ก็คว้าตัวมาเล่นภาพยนตร์ภาคต่อยอดฮิต หอแต๋วแตกแหก COVID ปังปุริเย่ ณ โรงแรมสามเสนสตรีท ซึ่ง แม่หญิงลี ก็ได้ควงเพื่อนซี้คู่ใจ ทิพย์ หรือ เจ้านางอนัญทิพย์ มาร่วมแสดงด้วย
“ในการนี้พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ ได้ขึ้นมาหัวเมืองบางกอก เพื่อทำการเล่นภาพยนตร์หอแต๋วแตกแหกโควิดปังปูริเย่ ขอให้ปังเลิศ เชิด ด้วยนะคะอย่าลืมนะคะ ต้องปังเป็นนัมเบอร์วันค่ะ
ถามว่าใช้เวลาเดินทางกี่วันกว่าจะมาถึงพระนคร ใช้เวลา 21 ช.ม.ค่ะ นั่งรถจากสถานีวัดช้างไห้ สู่สถานีบางกอก โดยมีเจ้านางอนัญทิพย์ติดตามมาด้วยค่ะ การนั่งรถไฟนี่ ถามว่าชีวิตจริงของแม่หญิงลีและน้องเขานะคะ เราต้องการความเรียบง่าย แล้วก็ต้องโดยสารมากับรถไฟ เพราะฉะนั้นพอเรามาถึงที่นี่โอเคมากค่ะ แล้วก็แรงใจแรงเชียร์อย่างล้นหลามที่ไปต้อนรับที่สถานีหัวลำโพง แม่หญิงลีมีความปลื้มใจมาก ขอบคุณค่ะ
ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาต้อนรับขนาดนั้น ทีแรกคิดว่าน่าจะประมาณ 20-30 คนค่ะ เพราะว่ามีเอฟซีทักมาทางช่องทางเพจและเฟซส่วนตัวว่าจะมารับที่หัวลำโพง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะมากๆ เลย ทำให้เราสองคนตั้งตัวไม่ทัน แล้วก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่ากระแสของเราจะติดเทรนด์อันดับหนึ่ง มีคนรักคนชอบเราขนาดนี้นะคะ สำหรับแม่หญิงลี แล้วก็น้องทิพย์จากเมืองทิพย์ของเรา มาแสดงหนังครั้งนี้ก็ขอให้ปังปูริเยค่ะ”
ซึ้งใจ “พชร์” เซ็นเช็คให้ต่างหาก 50,000 บาท เพื่อนำไปรักษาแม่
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาถึงหัวเมืองบางกอก แล้วก็อีกอย่างหนึ่งแม่หญิงลีในชีวิตนี้ไม่เคยเดินพารากอน ไม่เคยรู้จักสถานที่ใดเลย นอกจากสนามหลวง เพราะฉะนั้นชีวิตนี้มีความภาคภูมิใจมากแล้วค่ะ ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดไหนเหรอ ก็คือจากสถานที่ที่เราไม่เคยรู้จัก สถานที่เราไม่เคยมากลับได้มาได้เจอ ผู้คนที่ไม่เคยรุมล้อมตัวเรา ไม่เคยให้ความรักความเมตตาเราขนาดนี้ เราก็ได้มาเจอกับความรักที่เขามอบให้ มีแกงมาให้ มีเสื้อผ้ามาให้ค่ะ เป็นเรื่องจริง เราต้องพูด แล้วก็ต้องขอบคุณสำหรับของทุกชิ้นที่เอฟซีมีน้ำใจนะคะ”
ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนไหม มันก็เปลี่ยน แต่มันยังไม่ถึงจุดที่ว่า เพราะว่าแม่หญิงลีต้องรับภาระ ก็คือทางบ้านอีก ห้องน้ำห้องครัวก็ยังไม่มีเลย แล้วอีกอย่างที่พี่พชร์มีกำลังทรัพย์ให้เมื่อกี้ แม่หญิงลีกราบขอบพระคุณด้วยอย่างสูงนะคะ ได้กลับไปรักษาแม่ทั้ง 3 โรคที่มารุมเร้า เพราะว่าแม่หญิงลีเหลือร่มโพธิ์ร่มเดียวแล้วนะคะคือร่มโพธิ์แก้ว ต้นโพธิ์ทองได้ไปเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
เพราะฉะนั้นงานอะไรก็ได้ที่ว่าได้ตังค์มารักษาแม่ จุนเจือครอบครัว แม่หญิงลีทำหมด แล้ววันนี้ก็มาถึง แม่หญิงลีขอบคุณมาก ขอบคุณสื่อนะคะที่ช่วยนำเสนอข่าวไปในทางที่ว่าโอเค แล้วก็มีกระแสติดตาม แม่หญิงลีขอบคุณมากค่ะ ทุกๆ ช่องเลยนะคะ”
เผยตอนนี้งานเยอะจนรับงานไม่ทัน ต้องปฎิเสธงานไปบ้าง
“ค่าตัวงานนี้ ในการนี้แม่ก็ไม่รู้นะ เพราะว่ามีผู้จัดการ เราต้องคุยกับผู้จัดการ ก็คือมีงานอะไรก็แล้วแต่ ติดต่อผู้จัดการ แล้วเขาก็จะแจ้งอีกทีหนึ่งค่ะ ตอนนี้งานหลักคือภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้รับงานเพิ่มค่ะ เพราะว่ามันไม่ทัน ข้อหนึ่งนะคะ ทำให้เราไม่โดนสาป ถ้าสิ่งไหนที่เราทำไม่ทัน หรือทำให้เขาไม่ได้เราก็ไม่รับค่ะ เรารับเฉพาะสิ่งที่เราทำได้แล้วเรามีเวลาให้กับเขา
แต่ว่าถ้ามีงานมาแบบเยอะๆ แล้วก็คลิปอวยพร เหมือนเขาส่งมาคืนนี้ พรุ่งนี้เราต้องทำให้แล้ว ถ้ามันไม่ทัน ถ่ายหนังบ้างอะไรบ้าง เราก็ต้องงดรับนะ ขอโทษน้องเยาวรุ่นชาวเมืองทิพย์ด้วย แต่ว่าแม่หญิงลีจะทำตัวน่ารักแบบติดดินเหมือนกับที่ทำคอนเทนต์ไว้กับลูกๆ อย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
ช่วงนี้พักผ่อนน้อยไหม แม่หญิงลีมีความแกร่ง พักผ่อนน้อยก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ได้ประสบความสำเร็จ ครั้งนี้มาอยู่กรุงเทพฯ น่าจะเป็นเดือนนะ เพราะว่าเราถ่ายหนังกันก็หลายคิว แต่ว่าแม่หญิงลีลืมไม่ได้ต้องกลับไปพาคุณแม่ไปรักษาตามที่พี่พชร์ให้เงินไปรักษา ให้แม่หญิงลีได้อยู่กับแม่ไปนานๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ จะใช้ไปในการรักษาคุณแม่ แล้วก็ขอให้พี่พชร์มีงานแล้วก็มีหนังออกมา มีเรตติ้งปังๆ ปังปูริเย่ตลอดไป”
บอกไม่ไว้ใจให้น้องดูแลแม่ เพราะน้องแยกครอบครัวไปแล้ว
“ตอนนี้ที่บ้านยังวางใจใครให้ดูแลแม่ไม่ได้เลย คือก็ให้น้องดูแล แต่น้องเขาก็มีครอบครัว ก็ไม่ค่อยจะสนใจในชีวิตครอบครัวเราสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นที่เป็นเสาหลักของบ้าน ที่แม่หญิงลีต้องดิ้นรนมากรุงเทพฯ นี้ก็คือตัวแม่หญิงลีเอง พี่น้องเนอะพอเขามีครอบครัวไป เราก็ไม่ได้ว่าเขาครอบครัวเขาก็แยกออกไปจากครอบครัวเราแล้ว แต่เราด้วยความเป็นแม่ลูกกัน แม่หญิงลีต้องพารักษาอยู่ตลอดเวลา พาไปรักษาแต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่า 5 พันนะลูกนะ
ไม่กลัวดรามาค่ะ เพราะว่าคนในครอบครัวแม่หญิงลีก็บอกมาตลอดว่าช่วงนี้ให้ย้อนกลับไปดูท่านหน่อย เพราะเราทำงานและน้องก็เข้าใจ เพราะน้องก็โทร.มาถามอยู่ ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง แม่หญิงลีก็โทร.ไปถามน้องเหมือนกันว่าแม่เป็นอย่างไรบ้าง เขาก็บอกโอเคดี เราก็ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ แล้วก็ไม่มีดรามาในครอบครัวแน่นอน แม่หญิงลีสัญญา”
พร้อมไปทำฟัน ยันไม่ใช่คนไม่รักษาความสะอาด แค่กินหมาก
“ถ้าคุณหมอมีคิวมาเมื่อไหร่ก็ยินดีทำค่ะ เพราะเราก็เป็นคนบ้านๆ กินหมากกินอะไรบอกกันตรงๆ เนอะ (หัวเราะ) มันก็จะมีคราบหินปูน คราบหมากคราบฟัน มันก็ปกติธรรมดา ไม่ใช่ไม่รักษาความสะอาดนะ รักษาสุขภาพความสะอาด แต่มันเกาะอยู่นานแล้ว (หัวเราะ) แต่แม่บอกเอฟซีทุกคน เยาวรุ่นคนเมืองทิพย์บอกไปแล้วว่าสิ่งไหนที่คุณบลูลี่ฉันมา แล้วถ้าเรื่องนั้นฉันทำแล้วทำให้ฉันดีขึ้นฉันก็พร้อมที่จะปรับปรุง แต่ว่าการที่เป็นตัวตนที่แท้จริงก็คือโครงเดิมค่ะ
ต่อจากนี้เตรียมพร้อมกับการเป็นคนบันเทิงอย่างไรบ้าง แม่หญิงลีก็พร้อมมาตลอด เขาเปิดโอกาสให้เราก็พร้อมที่จะทำโอกาสนี้ให้ดีที่สุดนะคะ ถ้าว่าเป็นนักแสดงแม่หญิงลีก็จะแสดงให้ถึงบทบาท แล้วก็ถึงบทที่เขาให้มา ถ้าเขาจะให้ฝึก แม่หญิงลีก็พร้อมค่ะ เพราะเราไม่เคยแสดงหนังมาก่อนก็ต้องเข้าใจนะ จะทำอะไรมันก็ต้องมีการซ้อม”
บอกอยากเจอ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม, เบลล่า ราณี แคมเปน
“อยากเจอนักแสดงคนไหนเหรอ ก็อยากเจอพี่อั้ม พัชราภา สิคะ แม่อั้ม แม่ยุ้ย น้องเบลล่า ราณี อยากเจอมากที่สุดเลย (ยิ้ม) ล่าสุดพี่อั้มก็เข้ามาคอมเมนต์กดสติ๊กเกอร์ใต้คลิปแม่หญิงลีด้วย แล้วน้องเบลล่า ราณีก็ได้คอลกันทางผู้จัดการของเขา ก็อยากจะบอกว่าในนามของแม่หญิงลีนะคะ ถ้าน้องอั้มฟังอยู่นะคะ ถ้าสื่อต่างๆ เสนอข่าวแม่หญิงลีไปผ่านสายตาหรือผ่านหูน้องอั้ม ขอบอกน้องอั้มไว้เลยว่าแม่หญิงคนนี้ชอบน้องอั้มและติดตามน้องอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ นัมเบอร์วันในหัวใจเลยค่ะ
คือชอบน้องอั้ม แต่ที่โคฟเวอร์เป็นยุ้ย จีรนันท์ เพราะตัวละครเพลิงพระนาง น้องอั้มแสดงเป็นเจ้าทิพย์ คนนั้นเขาร้าย แต่แม่หญิงลีจริงๆ ชอบทำบุญ เพราะฉะนั้นต้องจับเจ้าอนัญทิพย์ลงหวายแล้วแหละ”
บอกถึงชื่อเสียงจะดังไกลถึงสถานทูตออสเตรเลีย แต่ตนก็จะยังเป็นคนเดิม
“ชื่อเสียงเราดังไปถึงสถานทูตออสเตรเลียแล้วเหรอคะ ที่ชื่อเสียงของเราสองคนดังไปถึงเมืองนอกเมืองนา แม่หญิงลีก็ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากที่ทำให้เรามีวันนี้ ความดังความเด่นของเราก็จะไม่ลืมตัวค่ะ ก็จะเป็นแม่หญิงลีแบบนี้ตลอดไป เสมอต้นเสมอปลายตลอดไปค่ะ โอเคค่ะ”