“นิว” แจงปิดกิจการร้านอาหารเพราะแบกภาระไม่ไหว ส่วนที่ขายมอเตอร์ไซค์เพราะเลิกขี่แล้ว มองอายุมาก ทำงานกลับดึกก็อยากพักผ่อน ไม่อยากต้องมาขี่กลับบ้าน ส่วนเรื่องแต่งงานกับแฟนสาว “นาว” นั้นบางช่วงก็อยากแต่ง บางช่วงก็คิดว่าไม่แต่งงานก็ดีเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ตนและนาวคิดว่าไม่แต่งงานจะดีกว่า
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า “นิว วงศกร ปรมัตถากร” ขายกิจการร้านอาหาร รวมไปถึงมอเตอร์ไซค์สุดรัก เพราะมรสุมเศรษฐกิจจากโควิด-19 เมื่อมีโอกาสได้เจอกับนิว เจ้าตัวก็เล่าที่ปิดกิจการร้านอาหารเพราะแบกภาระไม่ไหว ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่ขายเพราะเลิกขี่แล้ว
“กิจการปิดไปแล้วครับ ปิดไป 3-4 เดือนแล้ว มันไม่ไหวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิดรอบแรกเราก็ยื้อๆ ไว้โควิดรอบ 2 ก็ไม่ไหวจริงๆ ที่ขายมอเตอร์ไซค์ไม่เกี่ยวกับโควิด แต่ว่าผมเลิกขับมอเตอร์ไซค์ คือผมมีมอเตอร์ไซค์หลายคันก็ประกาศขายหมด แต่ว่าคันสุดท้ายขายออกไปเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา แต่จริงๆ ผมประกาศขายมา 2 ปีแล้วแต่ขายไม่ออก มาขายออกตอนนี้
เจอพิษโควิดก็ส่วนนึงด้วย คืออะไรที่เป็นภาระเราก็ไม่อยากเก็บไว้แล้ว ผมเลิกขี่มอเตอร์ไซค์ จอดไว้ ราคามันก็ลดลงทุกวันๆก็เลยตัดสินใจขาย”
เผยเลิกขับมอเตอร์ไซค์ก่อนตนจะบวชแล้ว ด้วยวัยที่เลิกงานก็ดึกแล้วจึงอยากพักผ่อนมากกว่า
“เลิกขับตั้งแต่ก่อนบวช สึกออกมาก็ไม่ได้จับเลยคิดว่าเก็บไว้คงไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่ภาระค่าดูแลเอาไปปล่อยดีกว่าครับ คือตั้งแต่แรกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พ่อแม่ก็ไม่ชอบ ไม่มีใครชอบเลย เป็นความชอบส่วนตัวของเราแต่หลังๆ มามันก็เหนื่อยด้วยตามวัย ทำงานเลิกดึกแล้วต้องมาขับมอเตอร์ไซค์กลับบางทีก็อยากนอนมากกว่า (นาวเขาชอบไหมเวลาซ้อนขับมอเตอร์ไซค์?) ผมไม่เคยให้น้องซ้อนครับ ผมขับเองคนเดียว”
ส่วนเรื่องแต่งงานกับแฟนสาว “นาว ทิสานาฏ ศรศึก” นั้นบางช่วงก็อยากแต่ง บางช่วงก็คิดว่าอยู่แบบไม่แต่งงานก็ดีเหมือนกัน
“ยังๆ ยังไม่มีข่าวดีเร็วๆ นี้ เคยแพลนแล้ว มันไม่เป็นแบบที่เราคิด ก็เลยไม่แพลนแล้วปล่อยไปตามธรรมชาติไป ความคิดก็เปลี่ยนไปตามช่วงอายุนะ มีช่วงนึงที่อยากแต่งงานอยากมีลูกอยากมีครอบครัวแล้วก็มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าไม่แต่งก็ดีเหมือนกัน บางช่วงก็รู้สึกว่าถ้ามีลูกช่วงมีลูกคงลำบากเพราะสถานการณ์โรคระบาดมันไม่เหมาะที่จะอย่างมีความสุขกับเด็กเล็กๆ ก็เลยรู้สึกว่าช่วงนี้เปลี่ยนใจไปไม่อยากมีแล้ว มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ ซึ่งคุยกับนาวตลอด”
ด้าน “นาว” แฮปปี้ อยู่แบบไม่แต่งงานก็ได้ เชื่อการแต่งงานเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความรักไม่ใช่ทั้งหมด
“ตัวน้องก็ยังแฮปปี้ที่เป็นแบบนี้อยู่นะเท่าที่คุย เราก็รู้สึกว่าเขามีความสุขที่เป็นแบบนี้ เราก็โอเคไม่ได้เร่งว่าจะต้องแต่งหรือไม่แต่ง เพึ่งคุยกันมาเมื่อกี้เองในโทรศัพท์เห็นข่าวคนโน้นคนนี้แต่งงาน เราอยู่แบบนี้ก็ได้เนอะไม่แต่งก็ได้ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ เขาเข้าใจผมว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ บางทีการแต่งงานมันก็ไม่ใช่จุดจบของความรักมันอาจจะเป็นแค่ส่วนนึงที่บางคู่อยากจะแต่งบางคู่ไม่อยากแต่งก็แล้วแต่คู่ นี่ก็คบกันมา 8 ปีแล้ว”
