"ต้น ธนษิต" สุดเศร้าสูญเสียพ่อ แต่มองเป็นสัจธรรมไม่ต้องทรมานอีกต่อไป ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ลูกดูแลพ่ออย่างเต็มที่ บอกลาพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
สองพี่น้อง "ต้น AF8" ธนษิต จตุรภุช และ "สต๊อป เดอะสตาร์8" วรินทร จตุรภุช ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตเมื่อ "คุณพ่อเลอสรร จตุรภุช" คุณพ่อผู้เป็นที่รักจากไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และมีภาวะแทรกซ้อนหลายโรค โดยวันนี้ (7 มีนาคม 2564) มีพิธีรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรม ที่วัดมกุฎกษัตริยารามราชวรวิหาร ศาลา 10 จากนั้นจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันพุธ ที่ 10 มีนาคม 2564 เวลา 18.00 น. ซึ่งบรรยากาศภายในงานวันนี้ มีพี่น้องในวงการบันเทิงของต้นและสต๊อป ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของคุณพ่อเป็นจำนวนมาก
ด้าน "ต้น ธนษิต" เผยพ่อป่วยหลายโรครุมเร้า ขอให้ไปสบาย ไม่ต้องเจ็บปวดิกต่อไป
"คุณพ่อจากไปด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน และก็มีอาการแทรกซ้อนหลายๆ อย่างเกิดขึ้นมา จริงๆ ถ้าสาเหตุที่เสียชีวิตเกิดจากติดเชื้อในกระแสเลือดครับ คุณพ่อเพิ่งทราบว่าเป็นมะเร็งเดือนธันวาคม กลังจากทราบก็พากันดูแลคุณพ่อมาโดยตลอด ซึ่งช่วงที่รักษาตัวก็จะมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง อย่างไตวาย ช่วงที่ฟอกไตพ่อก็เดินไม่ได้ แล้วพ่อก็มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดัน แต่อาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นตอนที่ร่างกายพ่อเริ่มอ่อนแอ"
"ที่ผ่านมาผมกับน้องสาวก็ช่วยกันดูแลมาตลอด ก่อนที่คุณพ่อจะเสียเราก็พาคุณพ่อมาอยู่ที่คอนโด ก็ช่วยกันดูแลสองคนพี่น้อง พ่อเขาก็สู้มาตลอด เราก็ให้กำลังใจเขา บอกให้พ่อสู้ เดี๋ยวเราจะได้ไปเที่ยวกัน เพราะอยากให้พ่อมีกำลังใจที่จะหาย ช่วงหลังๆ ด้วยความที่พ่อกินไม่ค่อยได้ก็เลยไม่มีแรงทำให้ลุกยืนด้วยตัวเองไม่ได้ ผมกับน้องก็จะเป็นคนช่วยกันประคองให้พ่อลุกขึ้นมาได้ก่อน เขาถึงจะสามารถเดินไปได้ พาไปทำกายภาพด้วยแต่พ่อก็ไม่ค่อยมีแรง"
"ก่อนที่คุณพ่อจะเสียไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเลยครับ ก่อนที่จะเสียก็ยังคุยกันอยู่เลยครับ คือช่วงที่คุณพ่ออาการไม่ค่อยดีเราพากลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เย็นวันที่คุณพ่อจะเสียทางพยาบาลโทร.มาบอกว่า ออกซิเจนเริ่มต่ำ ความดันเริ่มต่ำ กระทั่งวันรุ่งขึ้นคุณพ่อก็ไม่อยู่แล้ว นาทีที่คุณพ่อจากไปผมไม่ได้อยู่ด้วยครับ"
"พ่อไม่มีห่วงอะไรแล้วครับ เขาก็รู้ว่าเราทำงาน ดูแลตัวเองได้ ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่เราก็รับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยใจอะไรก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่มีห่วงแล้วครับ อยากให้พ่อหลับให้สบาย ที่ผ่านมาด้วยโรคที่ป่วยพ่อคงทรมาน คงเจ็บปวด ตอนนี้มองในแง่สัจธรรมชีวิตพ่อน่าจะไปสบายแล้ว อยากบอกพ่อว่าไม่มีอะไรต้องห่วงผมกับน้องและที่บ้านด้วย อยากให้พ่อไปอยู่ในที่ที่ดี"