xs
xsm
sm
md
lg

“เสรี รุ่งสว่าง” โชว์ชัดๆ หนังสือสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ มีลายเซ็น “ครูชลธี” ครบทุกหน้า แต่โดนฟ้อง 20 ล้าน วอนหยุด ไม่รู้ใครตายก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เสรี รุ่งสว่าง” โชว์ชัดๆ หนังสือสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ มีลายเซ็น “ครูชลธี” ครบทุกหน้า แต่โดนฟ้องเรียกเงิน 20 ล้าน พ้อที่ผ่านมาไม่เห็นความดี บอกอายุมาก ทำอะไรให้คิดเยอะๆ ลูกหลานจะได้ชื่นชม ไม่รู้ใครตายก่อน 

ยังยืดเยื้อไม่จบ สำหรับกรณี “ครูชลธี ธารทอง” ฟ้องอดีตศิษย์รัก “เสรี รุ่งสว่าง” ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกเงินถึง 20 ล้าน ล่าสุดวันนี้นักร้องดังพร้อม “ทนายสมภพ วะยาคำ” ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาการซื้อลิขสิทธิ์เพลง จำนวน 20 เพลง โดยมีลายมือครูชลธีเซ็นครบทุกหน้า ณ บริษัทสบายดีมาร์เก็ตติ้ง จำกัด มั่นใจในความบริสุทธิ์

เสรี : “ที่เรามาแถลงข่าววันนี้ เราอยากให้เป็นกระบอกเสียงให้หน่อย ว่าที่ผมไปรับข้อกล่าวหาที่ครูชลธีเขาไปฟ้องเราที่ลพบุรี เราก็มีหลักฐานยืนยันว่าเพลงทั้งหมด 23 เพลง มี 3 เพลงที่ไม่ใช่ของเรา และเราทำถูกต้องทั้งหมด 20 เพลง วันนี้ก็จะมีเอกสารแจกให้ดูด้วย คือหนังสือสัญญาที่ครูเซ็นไว้ให้เรา เป็นการเขียนด้วยลายมือของท่านเอง แล้วก็เซ็นกระดาษทุกหน้า อยากจะให้สังคมได้รู้ ว่าเราไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ถึงแม้ครูจะเปรียบเสมือนพ่อผมก็จริงอยู่ แต่เรื่องธุรกิจมันก็ต้องเป็นธุรกิจ

แล้วอีกอย่างหนึ่งคือการที่ ผมเชื่อเลยว่านักร้องหลายท่าน ที่ไม่ได้ทำเพลงเอง อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่ แต่ที่ผมทำตรงนี้ อย่างเช่นเราทำเพลงไป 1 เพลง หรือ 1 อัลบั้ม เราต้องไปขอกท.ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา แล้วเขาก็จะต้องเช็กดูแล้วว่าเราทำถูกต้อง ถึงจะออกเลขกท. มาให้เรา แค่นั้นยังไม่พ่อ เราต้องไปปั๊มที่บริษัทต่างๆ เขาก็ต้องเรียกร้องเอาแบบนี้เหมือนกัน เราต้องมีไปยืนยัน เขาถึงจะปั๊มเป็นแผ่นให้ แล้วที่ผมทำตรงนี้จะ 20 ปีแล้ว เพลงทั้งหมดที่ครูได้ระบุในข้อกล่าวหามา เราก็มีครบทุกเพลง

ในสัญญาทั้ง 20 เพลงที่ได้มาได้ทุกอย่างครับ เขาเรียกว่าโสตทัศน์วัสดุ ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นละคร หนัง ตามใจเราที่เราจะเอาไปทำ แต่ที่ทำได้ ก็แค่ 1 มาสเตอร์เท่านั้นนะ ถ้าเราไปทำซ้ำอีกก็ไม่ได้ ถ้าจะทำต่อก็ต้องซื้อใหม่”

เล่าความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จ.ลพบุรี
เสรี : “ทางเจ้าพนักงานสอบสวนเขายังไม่ได้ถามอะไรมากมาย คือเราไปยืนยัน ว่าเราได้ทำถูกต้อง ณ ตอนนี้น่าจะไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่จริงๆ แล้วที่เขาไปร้องเรียน เขาไปฟ้องเรา ถ้าเราผิด ก็ต้องเป็นผู้ต้องหา แต่พอดีเรามีการยืนยัน”

เผย 3 เพลงที่ถูกฟ้อง
เสรี : “ล้นเกล้าเผ่าไทย, เรารอเขาลืม และ วันนี้สวยกว่าเมื่อวาน ซึ่งเขาน่าจะไปก๊อปมาจากยูทิวบ์ เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน เราไม่เกี่ยว เราไม่ได้เป็นคนทำ คนเอาไปลง เราลงเฉพาะที่ถูกต้องของเรา 20 เพลง แต่ 3 เพลงที่รวมมา ไปก๊อปมาจากไหน เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน 20 เพลงของเราในหนังสือสัญญามันจะเป็นแบบนี้นะครับ คือครูจะเขียนด้วยลายมือของเขา ริมกระดาษทุกใบเขาก็ต้องเซ็นให้เรา มีพยานด้วยคือ อ.ประยงค์ ชื่นเย็น แล้วฝ่ายเราก็คือคุณนุช”

ตั้งแต่เข้าพบเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่มีการติดต่อกับครูชลธี
เสรี : “ไม่มี ไม่ได้ติดต่อมา เราก็ไม่ได้ติดต่อเขา ต่างคนต่างไม่ได้ติดต่อกัน มีแต่นายตำรวจที่เป็นลูกบุญธรรมของครู เคยมาถามว่าเป็นยังไงบ้างเท่านั้น”

ไม่มีคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย
เสรี : “ไม่มีครับ ปล่อยไปตามกฎหมาย เราแค่ไปแสดงตัวว่าเราบริสุทธิ์เท่านั้นเอง 20 ล้านที่เขาฟ้อง ผมไม่เคยนึกเลย ว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องมามีเรื่องกับครูที่เรารักที่สุด

ทนาย : “ในเรื่องของการเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา ที่สงสัยว่าเราอยู่ในสถานะอะไร จริงๆ ตามหมายเรียก ซึ่งพี่เสรีอยู่ในสถานะผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะวันที่ 25 ที่เราไปเพื่อแสดงตัวให้พนักงานได่ทราบว่าเราเป็นบุคคลตามหมายเรียก

ในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ปรากฎว่าหลังจากที่เรามีการแสดงหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนได้เห็น เขาเลยแจ้งกับเราว่า ตอนนี้ยังไม่ขอกล่าวโทษ เพราะดูจากพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้ว มันมีหลักฐานที่แสดงว่า ได้มาโดยถูกต้อง ขอให้กันเป็นพยานไว้ก่อน ส่วนจะแจ้งข้อหาอีกทีหรือไม่นั้น ขออนุญาตไปหารือและประชุมกับฝ่ายสอบสวนโดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาก่อนครับ”

ตามหลักกฎขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
ทนาย : “ในข้อกฎหมายจริงๆ แล้ว หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็มีการรวบรวมพยานหลักฐานของฝ่ายผู้กล่าวหาก่อน ว่าสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าสมบูรณ์ก็อาจจะมีการออกหมายเรียก บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาเป็นผู้กล่าวหา โดยเฉพาะในคดีนี้นะครับ อย่างพี่เสรีโดนกล่าวหาเบื้องต้น โดยที่ยังไม่เห็นเอกสารจากเรา เลยเรียกเป็นในฐานะผู้ถูกกล่าวหา และระบุข้อหามาด้วย ว่าเป็นข้อหาอะไรบ้าง

ซึ่งในส่วนนี้ หลังจากที่เราเข้าพบ เราก็มีการแสดงหลักฐานให้เห็น ค่อนจะชัดเจน เพราะพนักงานก็บอกว่า เอกสารชุดนี้เมื่อเห็นแล้ว เนื่องจากค่อนข้างสมบูรณ์ มีลายมือชื่อของคุณครูชลธีเซ็นกำกับทุกแผ่น ถ้าถูกต้องจริง ก็ยังไม่อยากสร้างข้อกล่าวหา เลยขอให้เป็นเพียงพยาน ในการให้การณ์ในวันที่ 25

ถามว่าต้องติดต่อทางครูประยงค์ ชื่นเย็นมาช่วยเป็นพยานไหม ถ้าเกิดว่าเป็นคดีแล้ว ก็ต้องเรียกพยานมา แต่ตอนนี้ยังไม่เป็นคดี ที่เราจะต้องโดนฟ้องขึ้นศาล ยังเป็นขั้นตอนที่เขาไปร้องทุกข์ และเรามีหลักฐานไปยืนยัน พอยืนยันเสร็จก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่ ว่าเขาจะส่งอัยการไหม จะฟ้องเราหรือเปล่า”

ไม่เคยอยากมีเรื่องกับครู เสียเวลาทำมาหากิน กว่าจะได้ใช้เงินคงตายกันไปซะก่อน
เสรี : “จริงๆ แล้วผมไม่อยากมีเรื่องกับครูเลย คือผมจะหลีกเลี่ยงเรื่องการมีเรื่องมาก ที่เป็นศิลปิน ส่วนมากผมจะมีเรื่องกับใคร ทะเลาะกับใคร สุดท้ายผมก็จะเป็นฝ่ายที่ไม่ค่อยเอาเรื่อง ถึงแม้ว่าเราจะถูกเราก็ไม่เอาเรื่องเอาราว ขึ้นศาลมันดีตรงไหน มันเสียเวลาทำมาหากิน ต้องเสียเงินเสียทอง สู้กันไปกว่าจะได้ใช้ตังค์ก็ตายกันไปก่อน ยังไม่ได้ใช้ตังค์เลย อยากจะบอกครูว่าอายุเราก็มากแล้ว ต้องสู้กันสุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน เพราะฉะนั้นก็หยุดเถอะ แล้ว 40 ปีที่ผ่านมาเนี่ย ที่เป็นครู ผมไม่เข้าใจว่าผมไม่มีความดีบ้างเลยสักนิดเหรอ เรียกตั้ง 20 ล้านเนี่ย เรามานั่งคิดดู ว่าแกห้องคนโน้นฟ้องคนนี้ ไม่นึกว่าวันหนึ่งจะมาฟ้องเรา”
มั่นใจนักข่าวรู้ดี ใครอยู่เบื้่องหลังครู
เสรี : “นักข่าวรู้ดีกว่าผมนะ ผมเองไม่ได้ติดตามเรื่องของครูมานานแล้ว ไม่สามารถที่จะไปรู้เรื่องส่วนตัวเขาได้ เรื่องคนรอบข้างจะยุยงส่งเสริมให้ครูมาฟ้องคนนั้นคนนี้ ผมก็ไม่สามารถจะไปทราบได้เลย เพราะฉะนั้นเราจะเจอกันต่อเมื่อมีงาน บางทีก็ผลัดกันไปเยี่ยม ทีนี้เรื่องส่วนตัว ผมต้องถามนักข่าวกลับไปว่า พวกคุณรู้ดีกว่าผมเยอะเลย”

เจ็บแสบไล่ให้คุยกับทนาย
เสรี : “ก็ตอนที่แกแจ้งความผม เขาบอกว่าไม่ต้องไปคุยกับเขา ให้ไปคุยกับทนายเลย มันเจ็บแสบมากจริงๆ สำหรับคำนี้ เขาพูดเลยว่าเรียก 20 ล้านเนี่ย ไม่ต้องมาเคลียร์กับเขา ให้ไปเคลียร์กับทนายเลยอะไรประมาณนี้ 40 ปีความดีผมไม่มีเลยเหรอ คิดถึงใจผมบ้างไหม”

ทนายซัดต้องมีสามัญสำนึกในการเซ็นเอกสาร
ทนาย : “การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเซ็นเอกสาร โดยหลักแล้วต้องมีสามัญสำนึกในการเซ็น คือเป็นคนปกติทั่วไป และมีเจตนาที่จะทำสัญญาฉบับนั้นจริงๆ โดยเฉพาะเอกสารทุกฉบับที่ทำกับครูเนี่ยจะมีพยาน ซึ่งเป็นคนที่ยอมรับนับถือของวงการเพลงด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งพวกนี้เป็นตัวยืนยัน ว่าสิ่งที่ครูเซ็นในวันนั้น ครูทำโดยตั้งใจ แล้วก็ยินดีเซ็น

ถามว่าจะฟ้องกลับไหม เรื่องของกฎหมายเราดูในเรื่องของการแก้มากกว่า ในชั้นตอนนี้เราทำอย่างไรได้บ้าง ให้พี่เสรี ไม่ถูกฟ้อง หรือถ้าถูกฟ้องเราจะต่อสู้ยังไง ส่วนในเรื่องการฟ้องกลับหรือไม่ เรายังไม่มีความคิดตรงนั้นครับ”

เสรี : “คือผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรเลย เพียงแต่ว่าการที่เป็นคดี พอเรื่องมีคนแจ้ง มันก็เริ่มมีการเดินทาง มีเรื่องการเสียเงินเสียทอง ค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าเสียเวลา ค่าอะไรต่อมิอะไร แล้วอีกอย่างก่อนที่จะมาฟ้องเรา ต้องดูก่อน ว่าเรียกเราไปคุยไหม ว่ามันเป็นจริงหรือเปล่า เวลาเสียชื่อไปแล้ว มันเป็นจำเลยของสังคม มันจะทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งเอาคืนไม่ได้ เสียเวลาทำมาหากิน การที่เราเป็นความกัน กว่าจะจบคดี มันต้องมีเงินเป็นล้านๆ ที่จะต้องไปต่อสู้กัน เพราะฉะนั้นตรงนี้เราก็ยังไม่รู้ ว่าจะต้องเป็นยังไง แต่ผมเดินทางไปลพบุรี มันก็ต้องมีค่าน้ำมันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเรียกค่าชดเชย ค่าเสียหาย ตรงนั้นทีมงานเรายังไม่ได้คุยกันนะครับ เพราะตอนนี้เราก็หาทางเรื่องแก้ว่าเราบริสุทธิ์ เอาแค่ว่าเราบริสุทธิ์ก่อนครับ”

ทนาย : “ส่วนการนัดหมาย หลังจากที่มีการให้ข้อมูลไป พนักงานสอบสวนก็ขอเวลาในการเข้าไปปรึกษาในส่วนที่เป็นคดีอยู่ แล้ววันนี้เองผมได้ติดต่อไปทางพนักงานสอบสวนเรื่องความคืบหน้าของคดี เขาก็แจ้งมาแล้วว่า ในส่วนของคดียังไม่ได้มีการประชุมหารือ เพียงแต่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เราเสนอไป เพื่อที่จะสรุปในชั้นของพนักงานสอบสวนท่านนี้ก่อน เพื่อที่จะเสนอผู้บังคับบัญชา แล้วเราก็ยังไม่ทราบว่าผลสรุปเป็นอย่างไร แต่ที่มีขอเพิ่มเติมคือขอเอกสารที่เอกสารที่คนอื่นซื้อลิขสิทธิ์จากครูเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นบางตัวเราต้องเอาไปเสริมเพิ่มเติมให้ ผลออกมาเป็นอย่างไรเราค่อยดำเนินการกันต่อ”

อายุมากแล้ว ทำอะไรให้คิดเยอะๆ อยู่นิ่งๆ ให้ลูกหลานชื่นชม
เสรี : “จริงๆ ผมไม่มีอะไรฝากบอกครูเลยนะ แค่อยากจะบอกกับครูว่า จะทำอะไรก็คิดให้เยอะๆ อายุก็มากแล้ว ควรที่จะอยู่นิ่งๆ สบายๆ ให้ลูกหลานได้ชื่นชม แต่ผมอยากฝากผู้หลักผู้ใหญ่ด้านกฎหมาย นักร้องคืออาชีพอาภัพกว่าจะรอดไปดังได้ไม่กี่คน เพลงจะมีคุณค่าทันทีถ้าได้นักร้องทำผลงานโดนใจคนฟัง แต่พอเพลงมีคุณค่ากลับถูกตีกลับไปที่ครูเพลง

เพลงที่ฟ้องร้องกันเนี่ย เพราะได้สิทธิ์ครูคนเดียว เอาไปขายทั่ว พอเอาไปขายซ้ำซ้อน ก็เกิดการฟ้องกันขึ้นมา ฝากให้ผู้ใหญ่บ้านเมืองพิจารณากฎหมายตรงนี้ด้วย ก่อนขายเพลงต้องได้รับการยินยอมจากทุกฝ่าย ไม่งั้นมันไม่จบไม่สิ้น

เพลงเก่าๆ ผมบอกนักร้องใหม่ๆ ทุกคนเลยว่า อย่าไปซื้อเลย เพราะซื้อเพลงเก่ามา เผลอๆ ก็ออกไม่ได้ เพราะมันซ้ำซ้อนแบบนี้ แล้วอีกอย่างเพลงเก่า เอามาร้องใหม่ มันไม่ดังกว่าคนเก่าหรอก เพลงเก่าให้มันเป็นอมตะไป จะแจ้งเกิดต้องแจ้งเกิดด้วยเพลงใหม่ ฝากไว้ด้วยครับ”



























กำลังโหลดความคิดเห็น