xs
xsm
sm
md
lg

“มิว ศุภศิษฏ์” ไม่ได้ก๊อป แค่ใช้เป็นเรฟ! ขอโทษแฟนคลับ “แจฮยอน” โต้คุกคามทางเพศอดีตคู่จิ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มิว ศุภศิษฏ์ ”ก้มหัวไหว้ขอโทษแฟนคลับทั้งสองฝ่าย ยันทนายบอกยังไม่ต้องขอโทษ โอดไม่ได้ก๊อปแค่ใช้เป็นเรฟ  ส่วน MV Cover “แจฮยอน” ขอโทษทำให้ทุกฝ่ายไม่สบายใจ ด้านทนายกล้าพูดว่าไม่มีข้อไหนละเมิด นอกจากโซเชียลบัญญัติกฎหมายขึ้นมาเอง ก่อนแจงประเด็นคุกคามทางเพศอดีตคู่จิ้น เคลียร์กันแล้ว ไม่จมปลักอดีต

หลังจากเป็นดรามาร้อนแรงในโลกโซเชียล ว่าหนุ่ม “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” ก๊อปปี้เรฟ MV Cover เพลง I Like Me Better ของหนุ่ม “แจฮยอน” ศิลปินเกาหลีวง NCT ใน MV Cover เพลง Afterglow จนเกิดเป็นแฮชแท็กมากมายในทวิตเตอร์ ทาง มิว ศุภศิษฏ์ สตูดิโอ จึงได้ร่อนจดหมายชี้แจงและขอโทษออกมา 3 ฉบับ โดยยอมรับว่ามีบางซีนที่คล้ายคลึง และจะนำไปปรับปรุงแก้ไข

แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้เหตุการณ์มันดีขึ้นแต่อย่างใด แถมยังโดนขุดเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับประเด็น sexual harassment หรือการคุกคามทางเพศ คู่จิ้นเก่าอย่าง “อาร์ต ภาคภูมิ จวนชัยนาท” ขึ้นมาผ่านแฮชแท็ก #MewSexualHarassment ล่าสุดวันนี้ (4 มี.ค.) หนุ่มมิวเลยออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ณ โรงแรม Grande Point Terminal21 พร้อมทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ เพื่อขอโทษและอธิบายเรื่องทั้งหมดว่าดังนี้

มิว : “ขอโทษทุกๆ คนที่รู้สึกลำบากใจกับเรื่องนี้ครับ ต้องขอโทษจากใจจริงๆ นะครับ ขอโทษ (ยกมือไหว้ก้มขอโทษ) สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องบอกเจตนาก่อน เรื่องตัว MV Cover เพลง Afterglow ซึ่งได้ตัวลิขสิทธิ์มาจากทาง วอร์นเนอร์ มิวสิค โดยตรงเลยครับผม เจตนาของเราคือเรามีแฟนคลับต่างชาติ ต้องเรียกว่าจำนวนหนึ่งเลยครับ แล้วเรารู้สึกว่าอยากให้เขาได้มาตามรอยเวลาที่เขามีโอกาสได้มาประเทศไทย อยากให้เห็นว่าประเทศของเรามีมุมที่สวยมากเลยนะ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ เลยใช้คอนเซปต์เป็น Street Vlog ครับ เป็นการเดินเล่นภายในกรุงเทพฯ ใช้เบื้องหลังเป็นมุมต่างๆ ของกรุงเทพฯครับ

ถามว่าได้เห็น MV Cover เพลง I live me Better ของ แจฮยอนมาก่อนหรือเปล่า หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นมา ก็ได้เข้าไปดูแล้วครับ ตัวความคล้ายเนี่ย มีจุดตามที่แฟนๆ ได้แคปมาในทวิตเตอร์เลยครับ มีโอกาสได้เข้าไปดูแล้วครับ”

ไม่มีเจตนาก๊อป ขอโทษทำให้ไม่สบายใจ
มิว : “ต้องบอกตรงๆ ว่าเราไม่ได้มีเจตนาไปก๊อปปี้หรือว่าไม่ได้มีเจตนาไปทำให้มันคล้ายเลยครับผม แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ย มันทำให้หลายๆ คนไม่สบายใจ อันนี้ต้องขอโทษมากๆ ขอโทษจริงๆ เพราะเราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำคล้ายเลยครับ (ยกมือไหว้)

ถามว่าพอเป็นกระแส เราได้เข้าไปเช็กทันทีเลยไหม พอเราทราบเรื่องแล้ว เราก็ให้ทางทีมงานที่เป็นฝ่ายโปรดักชั่นโดยตรง แล้วก็ฝ่ายครีเอทีฟ ได้เข้าไปดูเลย ว่ามีความคล้ายอะไรบ้าง ต้องบอกว่าในตอนที่เราทราบเรื่องตอนแรก ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ทำให้เราต้องใช้เวลาไตร่ตรองต่างๆ แล้วเราก็มีการแถลงการณ์ออกมา 3 ฉบับด้วยกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างทั้งตัว 3 ฉบับนั้นเลยครับ”

เผยกรณีแฟนคลับซัดแรงไร้ความจริงใจ
ทนายนิด้า : “ในส่วนของจดหมาย 3 ฉบับที่ออกมา หลังจากเกิดแฮชแท็กเกิดเทรนด์ ออกมาโดยทีมงานเนื่องจากเกิดความไม่สบายใจ จากเหตุการณ์ที่มีคนเข้าใจผิด คิดว่านี้คือการก๊อปปี้ผลงาน ซึ่งทางเราก็ยืนยันมาโดยตลอด ว่าเราไม่ได้มีเจตนาในการก๊อปปี้ ถ้าสมมติว่าตัดมาช็อตต่อช็อต โอเคมีความคล้ายคลึงกัน แต่ถ้ามองภาพรวม 5 นาที อีกเพลงหนึ่งนิด้าไม่ได้ไปดู ดูแหละแต่จำไม่ได้ว่ากี่นาที

ทีนี้ถามว่าบนโลกนี้มีความคล้ายคลึง ความบังเอิญมันเกิดขึ้นได้ไหม มันเกิดขึ้นได้ แต่ถามว่าวันนี้มานั่งพูดคนก็ไม่ยอมรับอยู่ดี คนก็อาจจะมองว่ามันไม่ควรบังเอิญ ซึ่งใดๆ ก็แล้วแต่น้องมิวก็ขอโทษจากสิ่งที่เกิดความไม่สบายใจ หนังสือชี้แจง เบื้องต้นก็ได้ทำการขอโทษ เราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ ว่านี่คือความจริงใจหรือไม่จริงใจ แต่ ณ โมเมนต์นั้นพอมีกระแสก๊อปปี้ สิ่งที่เราทำคือลบมิวสิกวิดีโอออก แล้วก็ออกหนังสือชี้แจง คิดว่ามันน่าจะเพียงพอ สำหรับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่มาจนถึงวันนี้มันเป็นคำตอบแล้วว่า มันยังไม่พอ จนมีการแสดงข่าววันนี้

เรื่องความจริงใจหรือไม่จริงใจ ไม่อยากให้ไปมองตรงนั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมันย่อมต้องออกมาจากใจอยู่แล้ว ถ้ามองด้วยอคติไม่ว่าเราจะพูดยังไง มันก็จะไม่จริงใจอยู่ดี”

ทนายขอพูดแทน บอกอีกฝ่ายพูดไม่เก่ง ไม่ได้ละเมิด ไม่ผิดกฎหมายข้อไหน
ทนายนิด้า : “ขอพูดแทนน้อง น้องพูดไม่ค่อยเก่ง นิด้าพูดเก่งกว่า ขอขโมยซีน คือเจตนาตั้งใจจริงเลย อยากออกมาขอโทษ ซึ่งน้องก็ได้ทำไปแล้ว ว่าขอโทษที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอโทษที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ เรื่องการขอโทษ เราได้คุยกับน้องมาตลอด น้องได้ปรึกษาว่าสิ่งที่มิวทำ มันมีตรงไหนที่มันละเมิด เราก็ได้ดูแล้ว นิด้าเป็นคนยืนยันเอง ว่าการกระทำแบบนี้ไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์เลย ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหนเลย

อยากถามว่า ณ วันนี้ต่อไป จะเอากฎหมายหรือความพอใจ ถ้าเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง วันนี้มิวอาจจะไม่ต้องขอโทษเลยก็ได้ เพราะกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่มีข้อไหนที่ผิดเลย แต่ถ้าเอาตามความพอใจ ว่าแฟนคลับอีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจ ไม่ใช่แต่เรื่องนี้ ในทุกๆ เรื่อง วันหนึ่งมีเหตุการณ์อะไรที่มันไม่ผิดกฎหมายเลย แต่ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ แล้วมีการกดดันให้คนออกมานั่งขอโทษ เราจะอยู่กันแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า เราจะให้สังคมเป็นแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า  
ที่นับตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่ได้เยินคำขอโทษจากน้องมิว จริงๆ นิด้าเป็นคนเสนอ เป็นคนบอกน้อง ขอร้องน้องเอง ว่าไม่อยากให้น้องขอโทษการจากกระทำผิดครั้งนี้ เพราะมองว่ามันไม่ได้ผิดกฎหมาย แล้วการที่ทางค่ายได้ลบมิวสิควิดีโอออกแล้ว เราคิดว่าจากความไม่พึงใจ ถ้าสมมติว่านี่คือบทลงโทษ เราคิดว่ามันน่าจะพอเหมาะพอสม ที่ทุกคนน่าจะรับได้แล้ว แต่ทีนี้ถ้ายังรู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ ต้องชี้ว่าต้องเป็นตัวมิวเท่านั้น ต้องทำอะไร ต้องทำกับใคร นิด้าว่านี่คือการสร้างบทลงโทษ ที่เห็นว่ามันยุติธรรมกับมิวหรือเปล่า อยากฝากและอยากถามกลับทุกคน”

ไม่ได้ทำสีผมเหมือนกัน
มิว : “เรื่องคอนเซปต์เอ็มวีนะครับ เรื่องลุค หรือคาแร็กเตอร์ บอกเลยว่าเราคิดไม่ละเอียดเลย เพราะว่าในตอนนั้นสีผมของผมก็เป็นสีนั้นจริงๆ เราไม่ได้ไปทำใหม่ด้วย เพราะตัวสีผมทำมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วครับ เราใช้สีนี้ในการถ่ายมิวสิกตัวที่ 3 ของผมไป แล้วสีมันเฟดอยู่แล้ว เราไม่ได้ตั้งใจเลย เพราะเป็น street Vlog อันหนึ่ง เรื่องทุนเราก็ใช้น้อยมากๆ ใช้กล้องวิดีโอ 1 ตัว ในการตามถ่ายเราตามท้องถนน แล้วเรื่องลุคกับคาแรคเตอร์ เราอยากให้มันสบายมากที่สุด อันนี้คือทางคอสตูมเป็นคนจัดมาให้เลย”

เผยสตอรี่บอร์ด ตอนแรกทางทีมงานออกมาบอกว่าไม่มี แต่ในหนังสือชี้แจงกลับบอกว่ามีเรฟมาจาก 4 เพลง ได้แก่ I Love You 3000 - Staphanie Poetri, Suran - Hangang Ver. Hide and Seek Ft. Heize, Jeremy Zucker - Comethru และ Torn - Boyce Avenue Acoustic version
มิว : “ด้านสตอรี่บอร์ดเนี่ย ทางผมให้ตัวเรฟเพลง I Like Me... เฮ้ยไม่ใช่ I Love You 3000 ไป แล้วทางเขาก็ไปหาเพิ่มมาอีก 3 เพลง ซึ่งผมเป็นแฟนคลับของ Boyce Avenue อยู่แล้ว ผมก็เลยบอกว่ามันมีอยู่เพลงหนึ่งนะที่มันคล้าย แต่ว่าเขาถ่ายที่ออสเตรเลีย แล้วตัวสตอรี่บอร์ดของเขา เขาวางไว้แค่โลเกชั่นในการถ่าย ว่าเราจะไปร้านนี้นะ เพื่อทานอาหารไทย ทานขนมไทย เพื่อให้แฟนๆ เขาได้รู้สึกว่าเขาอยากทานเมนูต่างๆ แล้วก็ไปเสาชิงช้าต่อ แล้วก็ไปสถานที่อื่นๆ ต่อ ก็เป็นสิ่งที่ทางโปรดักชั่นได้วางเอาไว้ ว่าจะเป็นที่ไหนบ้าง สตอรี่บอร์ดมีอยู่แค่นั้นเลยครับ”

ยืนยันไม่ได้เรฟมาจากของแจฮยอน
มิว : “อันนี้ยืนยันเลยว่าไม่ได้เรฟจากของเขาแน่นอนครับ ความรู้สึกแรกที่ได้เห็น MV ของเขาผมก็รู้สึกว่ามันเป็น MV ที่ common practise มากๆ การเดินต่างๆ บนถนน การที่เราถ่ายกับสนาที่ท่องเที่ยวต่างๆ มันเป็นสิ่งที่ต้องบอกว่าเราทุกคนทำอยู่แล้ว ท่าเดินต่างๆ หรือว่าท่าโพสต์ต่างๆ ต้องบอกเลยว่าท่าโพสต์มันมีหลายท่ามากๆ แต่ว่าท่าที่มันสวยจริงๆ หรือว่าท่าที่มันถ่ายรูปแล้วสวย หรือเหมาะกับตัว MV มันเป็นภาพจำของทางตากล้องอยู่แล้ว เขาจะรู้ว่ามุมนี้สวยนะ ถ่ายแบบนี้สิเช่นตัวสะพาน”

ทนายนิด้า : “ส่วนตัวก็ได้ดูนะคะ ว่ามันมีความคล้ายคลึง หรือเหมือนหรือเปล่า ทุกคนมองก็บอกว่าเข้าข้างอยู่แล้ว แต่ถามว่าการถ่ายแนว street Vlog มันถ่ายได้สักกี่แบบ มันต่างกันมากน้อยแค่ไหน กี่สิบกี่ร้อย MV มันก็ไม่หนีกัน ต่างกันแค่สถานที่ ถ้ามองแบบไม่เปิดใจมันก็คล้าย แต่มันก็คล้ายกันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แม้แต่พล็อตละคร แม้แต่ชานมไข่มุก

การออกมาเรียกร้องแล้วติดแฮชแท็ก ว่ามิวก๊อปปี้ผลงานคนอื่น ต้องถามกลับไปว่าเราเข้าใจคำว่าก๊อปปี้ได้ดีแค่ไหน เข้าใจคำว่าละเมิดลิขสิทธิ์ถ่องแท้แค่ไหน อะไรที่กฎหมายคุ้มครองไม่คุ้มครอง การเอามาเทียบช็อตแบบนั้น ถ้ามองว่าเหมือน ยังไงมันก็เหมือน แต่มันไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ เพราะงานอันนี้ไม่ใช่งานมีลิขสิทธิ์ ถ้ามองว่านี่เป็นช่องว่างของกฎหมายรึเปล่า ก็บอกเลยว่าไม่ใช่ แต่เป็นสิ่งที่กฎหมายคิดมาแล้ว ว่าของอย่างนี้มันสามารถบังเอิญแล้วมันเกิดขึ้นได้ทั่วไป กฎหมายจึงไม่คุ้มครองให้”

ไม่ได้ก๊อป แค่ใช้เรฟเฉยๆ
มิว : “ความรู้สึกด้าน mood & tone ต้องบอกว่าคล้ายกันทุก MV เลยครับ ตั้งแต่ที่เรฟมาแล้ว ถ้าความคล้ายเนี่ย น่าจะคล้ายทางเรฟของเรามากกว่า เพราะว่าเราถูกตั้ง mood & tone แล้วก็เซ็ตต่างๆ คล้ายๆ ของแบบเขา (เราไม่ได้ก๊อปแน่นอนมั่นใจ?) ใช่ครับ เราไม่ได้ก๊อป แล้วเราใช้เป็นแค่เรฟเฉยๆ แล้วของทางแจฮยอนเนี่ย ต้องบอกเลยว่าเราเพิ่งมาได้ดูของเขา หลังจากที่เกิดเรื่องจริงๆ ครับ

เสียใจเกิดความขัดแย้ง
มิว : “ต้องบอกว่าเสียใจมาโดนตลอด เราไม่คิดว่าเราจะทำให้เราโดนทำร้ายหรือโดนโจมตี ซึ่งเราเสียใจอยู่แล้ว แต่การเป็นว่าคนที่รักรอบตัวเรา แฟนๆ ของเรา แฟนๆ ของคนอื่นด้วย ทุกๆ คนเกิดความขัดแย้ง เกิดความแตกแยกขึ้นมา รู้สึกว่าทุกอย่างมันยิ่งดิ่งไปเรื่อยๆ เลยรู้สึกเสียใจมากจริงๆ จนออกมาขอโทษในวันนี้ครับ”

มองกรณีหลายคนบอกว่าเรื่องมันจะไม่ปลายบานขนาดนี้เลย ถ้าขอโทษตั้งแต่ทีแรก เพราะปรึกษาทนายแล้ว
มิว : “อย่างที่ทนายนิด้าบอกครับ เพราะเราปรึกษากับทนายมาโดยตลอด ว่าเวลาที่เราควรจะออกมาคือเมื่อไหร่ เพราะผมก็อยากออกมาขอโทษนานมากๆ แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากๆ มันมีผลกระทบต่อคนหมู่มากมากจริงๆ เราไม่สามารถคิดแล้วก็ออกมาทำเลยได้ ต้องไตร่ตรองหลายรอบมากจริงๆ”

ทนายนิด้า : “การขอโทษเนี่ย ขอโทษเมื่อไหร่ก็ได้ หรือการออกมาแถลงชี้แจง ออกเมื่อไหร่ก็ออกได้ ยังไงทุกอย่างก็พูดเหมือนกัน มันคือแฟไม่มีข้อไหนผิดกฎหมายละเมิด บอกเองไม่ต้องขอโทษ เพราะไม่ได้ผิดกฎหมาย ค่ายได้ลบเอ็มวีไปแล้ว

การที่บอกว่าน้องก๊อปปี้งาน คนทำงานอยู่ในสื่อ คนอย่างน้องมิว ที่อยู่ในแสงสว่าง ไม่ควรละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ควรละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น วันนี้เลยอยากถามว่าเข้าใจคำว่าลิขสิทธิ์ดีพอแค่ไหน เพราะในทางกฎหมายไม่มีการละเมิดสิทธิ์เลยโดยสิ้นเชิง กล้าพูดยืนยันว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

แล้วบอกว่าถึงจะไม่ละเมิด แต่มันก็ไม่ควร ถ้าเราพูดว่าไม่ควร นั้นหมายความว่าเราเอาตามความพอใจเราแล้ว นักโซเชียลบัญญัติกฎหมายขึ้นมาเอง ว่าไม่พอใจ แปลว่าผิด ผิดแล้วก็ต้องถูกลงโทษ ด้วยการแบน เพื่อให้ได้รับผลกระทบ ในขณะที่เราเรียกร้องกฎหมาย ก็อยากให้เคารพกฎหมายด้วยเหมือนกัน ว่าอะไรทำได้ทำไมไม่ได้”

ไม่อยากใช้คำว่าคุกคาม
ทนายนิด้า : “ไม่อยากใช้คำนั้น แต่ก็ต้องถือว่ามันเป็นการละเมิด”
มิว : “การลบเอ็มวีคือการรับผิดชอบครับ ต้องบอกว่าพอเราทราบเรื่อง เราก็รีบลบวิดีโอออกเลยครับ ถามว่าจะแก้ไขแล้วอัปใหม่ไหม ตอนนี้คิดไปในเชิงที่ว่า เนื่องจากเราได้รับโจทย์มาจากทางวอร์นเนอร์ เลยคิดอยู่ว่าเราควรจะดัดแปลงดีไหม หรือจะเปลี่ยนรูปแบบไปเลย คือเขาให้โจทย์มาว่าให้เป็นเพลงนี้เฉยๆ ครับ อยู่ที่ว่าเราจะเปลี่ยนคอนเซปต์ไหม คิดว่าตอนนี้ก็คงจะเปลี่ยนคอนเซปต์ไปเลยครับ”

ต่อไปจะระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
มิว : “ต้องบอกว่า วันนี้ตั้งใจออกมาขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบเลยครับ เพราะตั้งแต่ที่พูดไปตอนแรกมันเป็นวงกว้างมากๆ มีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่เยอะมากๆ คนรอบตัวเราด้วย แฟนๆ ของทุกๆ คนด้วย มันทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทำให้สังคมขมุกขมัว แล้วก็ไม่แฮปปี้เลย ต้องขอโทษจริงๆ ครับ แล้วในภายภาคหน้าเราจะระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมหวังว่าในอนาคตที่มาสัมภาษณ์แบบนี้ ต้องเป็นแต่เรื่องดี

อยากจะบอกแฟนๆ ของทุกๆ คนเลยนะครับ ไม่ใช่แค่แฟนคลับผม อยากจะบอกว่าผมเข้าใจทุกๆ คน ว่าทุกคนรักศิลปินของตัวเอง ทุกคนคาดหวังให้ศิลปินของตัวเองเป็นไปในทางที่ดี ก็อยากจะขอบคุณแทนศิลปินทุกคนเลยว่า ขอบคุณแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนเรามาโดยตลอด ผมบอกกับแฟนคลับผมเสมอ ว่าความรักที่ทุกคนให้เรามา การสนับสนุนของทุกคน มันทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่อได้ มันเป็นแรงบันดาลใจจริงๆ ที่ทำให้เราอยากพัฒนาตัวเอง อยากสร้างสรรค์ผลงานให้ดีขึ้น”

ตอบไม่ได้ มิวสตูดิโอ ผิดพลาดหรือเปล่า แต่ตนรู้สึกผิด
มิว : “อันนี้เราตอบไม่ได้เลยครับ ว่าผิดพลาดหรือเปล่า แต่ว่าเรารู้สึกผิด”

ทนายนิด้า : “ถ้ามองว่าผิดพลาด ต้องบอกให้ได้ก่อนว่า สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผิด ถ้ามิวบอกว่าไม่ผิด ก็จะกลายเป็นไม่สำนึกอีก ถ้าบอกว่าผิดพลาด ก็กลายเป็นว่ายอมรับ ใดๆ ก็ตามวันนี้อยากให้ร้บคำขอโทษเอาไว้ เรื่องความผิดนิด้าไม่ได้เห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดอะไร

ถ้ามองในแง่จรรยาบรรณและจริยธรรม อะไรคือมาตรฐาน และอะไรคือบรรทัดฐาน เราเอาเกณฑ์จากตรงไหน บางเรื่องถ้ามันมีกฎหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว อะไรที่มันไม่ได้ชัดเจนมาก สมมติซีนนั้นเราเอาของเขามาเลย ก๊อปปี้มาเลย ต่อให้ไม่ผิดกฎหมาย เราก็อาจจะบอกว่าจรรยาบรรณนะ ทั้งเพลง 5 นาทีมีกี่เฟรม จะบอกว่านี่มันไร้จรรยาบรรณเลย มันก็เป็นการปรักปรำที่โหดร้ายมากเกินไป ดังนั้นถ้าพูดเรื่องจรรยาบรรณ เอามาตรฐานใครก่อน ไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย”

มิว : “ต้องบอกว่าเสียใจมากจริงๆ ครับ ที่เราไปดึงแจฮยอนมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครต้องมารู้สึกผิดอะไรเลย อันนี้ต้องขอเขาจริงๆ ครับ ที่เอาชื่อเขามาเกี่ยวข้องด้วย”

เห็นผ่านๆ แฮชแท็กคู่จิ้นเก่า อาร์ต ภาคภูมิ
มิว : “อันนี้ได้เห็นมาผ่านๆ แล้วครับ เรื่องของอาร์ตเราจบกันด้วยดีมากๆ จริงๆ แล้วก็เป็นพี่น้องที่ ถ้าเราเจอกันสามารถพูดคุยกันได้ปกติเลย เลยรู้สึกว่าไม่อยากไปย้อนพูดเรื่องที่มันผ่านมา เพราะตอนนี้มันดีมากอยู่แล้ว ต้องบอกเลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปที่แชร์ หลังจากนั้นเรามีการปรับความเข้าใจ คุยกันเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะมันเกิดจากการที่เราใช้อารมณ์กัน แล้วก็ใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด ซึ่งเหมือนเหตุการณ์ตอนนี้ที่ผมได้รับอยู่ หลังจากนั้นเราก็มีงานอื่นๆ ต่อในภายหลัง ซึ่งความสัมพันธ์ของเราดีอยู่แล้วครับ”

ตอบแทนไม่ได้ล้มแล้วโดนเหยียบซ้ำ ไม่เอาตัวเองไปจมปลัก
มิว : “อันนี้เราตอบแทนเขาไม่ได้เลย เพราะว่าเราไม่ใช่คนที่ทำแบบนั้นครับ ผมอาจจะไม่ตอบแทนเขาไม่ได้ ถามว่าอยากพูดถึงคนที่ทำแบบนี้ไหม ตัวผมเองตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานในที่ของตัวเอง ก็อยากจะทำให้สังคมมันดีขึ้น เราไปทำงาน CSR เยอะมากๆ เพราะอยากให้ความเป็นอยู่ของลูกหลานในอนาคตมันดีขึ้น เลยรู้สึกว่สเราไม่เอาตัวเองไปจมปลักกับเรื่องแบบนั้นดีกว่าครับ”

ทนายนิด้า : “ถามว่าจะดำเนินคดีกับคนโจมตีไหม หลักๆ วันนี้อยากมาอธิบายเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ เรื่องการฟ้องร้องถ้าติชมด้วยการสุจริตเราไม่มีอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องการฟ้องร้องด้วย เรามาดูแลเรื่องของงานด้านลิขสิทธิ์โดยเฉพาะเลย แต่ก็ฝากไว้ว่า ถ้าติชมทุกอย่างด้วยความสุจริต ศิลปินทุกคนรับได้ แต่มีหลายคนที่ด่าพ่อล่อแม่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน อันนี้ก็ต้องลิสต์ออกไปค่ะ

เรื่อง sexual harassment เป็นคำปรักปรำที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะว่าเราตระหนักถึงเรื่องนี้กัน แล้วสังคมเริ่มให้สำคัญกับสิ่งนี้ แล้วการกล่าวหาน้องเรื่องนี้ ซึ่งมันไม่มีความจริงอะไรเลยอันนี้ก็อยากให้ยุติในประเด็นนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นก็จำเป็นต้องปกป้องชื่อเสียงของน้อง เพราะน้องค่อนข้างซีเรียสมากกับการที่ถูกกล่าวหาประเด็นนี้”

ไม่ได้รู้สึกดี ที่ถูกคนกล่าวหาแบบนี้
มิว : “ต้องบอกเลยว่าไม่ได้ทำจริงๆ นะครับสำหรับเรื่องนี้ ตอบได้แค่นี้ ว่าไม่ได้ทำจริงๆ ต้องบอกเลยว่าซีเรียสมากจริงๆ ครับ เพราะว่าประเด็นนี้เคยโดนมาแล้ว ตั้งแต่ตอนเล่นซีรีส์ ตอนปล่อยมามีประเด็นนี้รุนแรงมากจริงๆ แต่ว่าตัวจุดประสงค์อะไรต่างๆ ต้องให้ทางซีรีส์มาตอบเอง เรารู้สึกว่ามันดีมากๆ ที่สังคมพูดเรื่องนี้ แต่เวลาเราโดนเอง มันไม่ได้รู้สึกดีเลย การที่คนมากล่าวหาเรา

ถามว่าโดนโจมตีมากเกินไปหรือเปล่า อันนี้ตอบยากมากๆ เลยครับว่ามากหรือน้อย แต่ว่าผมรู้สึกว่า ไม่ควรมีใครที่ต้องถูกเป็นเป้าโจมตี ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ควรจะเคลียร์กันสองคน ปัญหาของคนสองคน เคลียร์กันสองคน ปัญหาของกลุ่มภายใน ก็ควรจะเคลียร์กันภายใน ตอนนี้มันเลยเถิดมากๆ ในโซเชียล เพราะความไร้พรมแดนของโซเชียลด้วย มันทำให้หลายๆ คนที่บางครั้งเขาอาจจะตัดสินเรา จากคำพูดคำเดียวที่ถูกตัดมาจากคลิปทั้งหมด ตัดสินเราจากคำพูดคนอื่น ทั้งที่เขาไม่รู้จักเราเลย อยากจะฝากให้ทุกๆ คนไตร่ตรองเรื่องนี้หน่อยนะครับ

ถามว่าห่วงเรื่องผลกระทบกับงานไหม ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วครับ แต่สุดท้ายแล้วยังไงวันนี้เราต้องออกมาขอโทษอยู่ดี เพราะเรารู้สึกผิดมากจริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครับ

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากขอโทษเป็นพิเศษคือมีหลายคนมากๆ แน่นอนว่าแฟนคลับทั้งของเรา ทั้งฝั่งเขา แฟนๆ ทุกๆ คนที่คอยติดตามข่าวเรื่องนี้ แล้วเขาเกิดความไม่สบายใจ ต้องขอโทษมากจริงๆ ครับ อยากจะขอโทษคนรอบตัวจริงๆ ที่ต้องมาทุกข์ร้อนใจกับเรื่องนี้ด้วย คนรอบตัวผมทั้งพ่อแม่ เครียดมากๆ ทั้งน้องสาวด้วย เพื่อนๆ อาจารย์ที่ปรึกษายังโดนไปด้วยเลย เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้ เราเสียใจมากๆ ก็ขอโทษเขาทุกคนเลยครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น