หลังมีรายงานว่านักแสดงดาวตลกฮ่องกงระดับตำนานอย่าง “อู๋ม่งต๊ะ” หรือ “อู๋เมิ่งต๋า” ได้ลาโลกแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาจากโรคมะเร็งตับ ขณะอายุได้ 70 ปี ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ได้ทำสกู๊ปถึงดาวตลกผู้ล่วงลับ ดดยมีเพื่อนนักแสดงอย่าง “อีริค เจิ้ง” หรือ “เฉิงจื้อเหว่ย” มาเผยถึงความหลังที่ครั้งหนึ่งดาวตลกดังเคยเกือบฆ่าตัวตายเพราะติดพนันหนัก เร่ยืมเงินเพื่อนจนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
สถานีโทรทัศน์ TVB ได้ทำสกู๊ปพิเศษย้อนเรื่องราวถึงนักแสดงดังผู้ล่วงลับ โดยเชิญเพื่อนร่วมวงการหลายคนที่เคยร่วมงานด้วยมาแชร์ประสบการณ์สนุกๆที่เคยมีกับ อู๋ม่งต๊ะ ที่ส่วนมากจะเรียกเขาว่า “พี่ต๋า”
แต่เรื่องราวที่ได้รับความสนใจและพูดถึงมากที่สุดจากสกู๊ปพิเศษดังกล่าวคือเรื่องราวจากปาก เฉิงจื้อเหว่ย อีกหนึ่งดาวตลกวัย 67 ปีของวงการบันเทิงฮ่องกง
“นี่เป็นหนึ่งในเรื่องส่วนตัวของพี่ต๋า มันค่อนข้างเป็นเรื่องในแง่ดีเป็นเรื่องราวที่ยกระดับจิตใจ ที่ผมมักจะเล่าให้นักแสดงรุ่นน้องและเพื่อนๆในวงการฟังอยู่เสมอ พี่ต๋า เป็นนักแสดงระดับท็อปที่เป็นตำนาน แต่อดีตในวัยเยาว์ของเขา เขาเป็นคนที่รักการดื่มและชอบเล่นการพนัน หนักจนไปถึงจุดที่เขาเคยเสียใจอย่างใหญ่หลวงจากการเป็นหนี้
เขาจะขอยืมเงินเพื่อนไปทั่ว ลามไปถึงทีมงานในกองถ่าย หนักถึงขั้นที่ผู้คนต่างกลัวที่จะโทรเรียกเขามาร่วมงาน ‘ถ้าเราจ้างเขา เราจะต้องปล่อยให้เขายืมเงินอีกไหม?’ หนึ่งในเพื่อนที่สนิทของเขา ที่ตอนนี้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก เคยช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาบอกกับพี่ต๋าว่าเขาไม่สามารถช่วยได้อีกต่อไปแล้ว เพื่อนคนนี้บอกว่าถ้าเขายังคงช่วยเหลือพี่ต๋าต่อไปนี่คือสิ่งเดียวที่ทำร้ายพี่ต๋ามากที่สุด”
อย่างไรก็ตามแม้ เฉิงจื้อเหว่ย จะไม่ได้เผยชื่อว่านักแสดงที่คอยช่วยเหลือเรื่องเงินผู้นี้เป็นใคร แต่ชาวเน็ตต่างก็มั่นใจว่าน่าจะเป็นนักแสดงดังอย่าง “โจวเหวินฟะ” ซึ่ง เฉิงจื้อเหว่ย เองยังได้เล่าต่อไปว่า อู๋ม่งต๊ะ เคยหมดหวังในชีวิตจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย
“พี่ต๋า เคยรู้สึกแบบนั้น แม้แต่เพื่อนสนิทก็ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเขา เขาจึงรู้สึกเหมือนเดินมาสุดทาง เขาอยากฆ่าตัวตาย เขาเลยไปที่สระน้ำและก้าวขาไปแล้วข้างหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกระโดด เขามองขึ้นไปบนฟ้าและอธิษฐานว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจะได้มีชีวิตใหม่และได้เป็นนักแสดงที่ดีขึ้น เขาอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่านักแสดงที่ดีควรเป็นอย่างไร แต่แล้วเขาก็คิดขึ้นได้ว่า เขาอาจไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้วก็ได้”
แทนที่ อู๋ม่งต๊ะ จะรอความหวังมีชีวิตใหม่ในภพหน้า เจ้าตัวเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในชาติภพนี้ที่ตนเองมี ล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ก่อนจะกลับบ้านไปพักและฟื้นฟูสภาพจิตใจ
ต่อมา อู๋ม่งต๊ะ ได้หวนคืนสถานี TVB อีกครั้ง พร้อมร้องขอผู้กำกับและนักเขียนบทช่วยให้โอกาสเขาเพื่อคัดตัวนักแสดงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะสัญญากับทุกคนว่าเขาจะกลับตัวเป็นคนใหม่แล้ว
หลังจากนั้น อู๋ม่งต๊ะ ก็กลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของ TVB กลายเป็นนักแสดงที่ไม่เคยนำสคริปท์มาที่กองถ่ายเพราะว่าเขาทำการบ้าน อ่านบทจนจำได้ขึ้นใจหมดแล้ว ซึ่งบางครั้งยังจำบทของเพื่อนนักแสดงมาด้วย ไม่ว่าจะยากและยาวแค่ไหนก็ตาม
เมื่อเล่าถึงจุดนี้ เฉิงจื้อเหว่ย ก็เริ่มกลั้นน้ำตา “นี่คือบทเรียนที่ผมอยากแบ่งปันให้กับทุกๆคน คุณอาจพบเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต แต่ถ้าคุณยังพอมีโอกาสที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ คุณก็สามารถกลายเป็นคนใหม่ได้ พี่ต๋า คือแบบอย่างของเรื่องนี้ที่ดีที่สุด”