“ไอซ์” มงลง เสียบพิธีกร แทน “กาละแมร์” โอดได้เพราะโสด แต่จะไม่อยู่ตรงนี้นาน ลั่นจบรัก “ไฮโซนนท์” มูฟออนแล้ว เลิกยากที่สุดในชีวิต แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสียใจ ด้าน “น้าเน็ก” เปิดใจ เครียดจนนอนไม่หลับ 20 ปีไม่มีใครเก่งเท่ากาละแมร์ กลุ้มใจใครจะทำหน้าที่แทน เผยกับไอซ์เป็นส่วนผสมใหม่ จะแบกไว้เอง
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับพิธีกรคนใหม่ “ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา” แทนที่ “กาละแมร์ พัชรศรี เบญมาศ” ที่ขอยุติบทบาทพิธีกร โดยในวันเปิดตัวพิธีกรรายการ เทค มี เอาท์ ไทยแลนด์ ณ TVT GREEN PARK STUDIO (ซอยมีสทีน) ถนนรามคำแหง ไอซ์เผยว่าไม่มีใครแทนที่ใครได้ ส่วนตนจะไหลตามน้ำ ตาม “น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา”
ไอซ์ : “มงลง (ยิ้ม) เราดูรายการอยู่ที่บ้านมาเป็น 10 ปี รู้สึกว่ารายการนี้มีเสน่ห์ตรงที่ว่าผู้หญิงกล้าพูดจังเลย คิดอะไรก็กล้าพูดแบบนั้น ปกติเราจะกล้าพูดกับเพื่อนสนิทเราเท่านั้นแต่พอกับคนอื่นจะเป็นแบบหนึ่งไม่กล้าพูด
แต่เวทีนี้ทำให้คนรู้สึกอะไรคิดแบบไหนก็กล้าพูดแบบนั้น เป็นเสน่ห์ของเทคมีเอาท์อย่างหนึ่ง แล้วได้มาอยู่ตรงนี้ที่เขากล้าพูดจริงๆ และไม่มีสคริปต์จริงๆ หลายคนอาจจะคิดว่ารายการมีสคริปต์ให้ผู้หญิงพูดกันหรือเปล่า เพราะแต่ละอันมันก็ดูร้อนแรง เป็นตัวของตัวเอง พอวันนี้ได้มาอยู่บนเวทีไม่มีสคริปต์อะไรเลย รันไปเรื่อยๆ สนุกค่ะ
ไม่ได้งัดวิชาอะไรมาเลย เป็นน้องใหม่ มาหาน้าเน็ก ให้น้าเป็นครูพาไป 10 ปีเป็นพิธีกรใหม่ ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เข้าไปดูคอมเมนต์เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรกัน เราก็กะไปเมนต์แล้วแหละ แต่อุบไว้ก่อน”
ตกใจกาละแมร์ตัดสินใจยุติบทบาท
น้าเน็ก : “ผมเท้าความไปตั้งแต่พอทราบว่าคุณพัชรศรี เบญจมาศ จะยุติการเป็นพิธีกร ผมยอมรับเลยผมตกใจมาก ตลอดชีวิตในการเป็นพิธีกรของผมมา 20 ปี ในการทำคู่กัน ผมกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีใครเก่งกว่าพัชรศรี เบญจมาศเลย เราเหมือนเกิดมาคู่กัน เราเล่นเข้าขากัน เราไม่เคยต้องนัดแนะอะไรเลย ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าต้องทำอะไร
และผมเชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้เทคมีเอาท์ไทยแลนด์มีถึงปีที่ 10 ได้ ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ฝีไม้ลายมือของกาละแมร์เลยนะครับ ผมกังวลมาก ผมกลุ้มใจมากว่าใครจะมาทำหน้าที่นี้แต่โชคดีอย่างหนึ่งที่เทคมีเอาท์ไทยแลนด์ฟอร์แมตมันมหัศจรรย์มาก มันเป็นพื้นที่กว้างมากพอที่ใครจะเดินเข้ามาเติมอะไรในแบบที่ตัวเองเป็นได้ เพราะอย่างที่พี่น้องสื่อมวลชนเห็นการถ่ายทำมันไม่มีสคริปต์เลย มันคือเรตติ้งเกมส์โชว์ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก
ผู้หญิงทุกคนที่มาในรายการนี้ก็อยากเจอใครสักคน ผู้ชายมาในรายการนี้ก็อยากเจอใครสักคน พิธีกรเป็นคนที่อยู่ตรงกลางในฐานะเชื่อมต่อ ดำเนินรายการสร้างความสนุกสนาน แล้วสื่อสารทุกอย่างให้ไปในทิศทางของรายการ
เมื่อเช้าผมเจอคุณอภิษฎา เราคุยกัน ซึ่งเราไม่เคยทำงานด้วยกันเลยตลกมาก เราเคยเจอกันทีเดียวในฐานะเธอเป็นแขกรับเชิญในรายการที่ผมเป็นพิธีกรครั้งเดียวเท่านั้นเอง ผมก็บอกเธอง่ายๆ เลยว่า คุณเอาความเป็นตัวเองใส่เข้ามาเลย คุณไม่ต้องห่วงกังวลอะไรทั้งนั้น เพราะว่ามันเป็นรายการที่ไม่มีสคริปต์ มันไม่มีอะไรจะต้องจำ เพียงแต่ว่าคุณเข้าใจว่าคุณจะทำอะไร
ในทุกภาระที่มันเป็นซีเควนต์ขั้นตอนเดี๋ยวผมจะแบกมันไว้เอง เพราะฉะนั้นผมก็บอกคุณอภิษฎาว่า สนุกกับมันเลย ผมก็อยากเห็น คนดูก็อยากเห็น และทีมงานก็อยากเห็นว่า วิธีการที่ต่างออกไป วิธีการใหม่ๆ ส่วนผสมใหม่ๆ มันจะเป็นยังไง ถ้าวันหนึ่งผมมีอันจะต้องยุติบทบาทการเป็นพิธีกร ผมก็เชื่อว่าเทคมีเอาท์ไทยแลนด์อยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง เพราะว่าฟอร์แมตนี้มันมหัศจรรย์เหลือเกิน มันเปิดโอกาสสำหรับความแตกต่าง
เราทำมาครึ่งทางแล้ว เพราะเราจะถ่ายทำกันครั้งละ 6 เทป ก่อนจะออกมาเจอพี่น้องสื่อมวลชน ผมถามเธอรู้สึกชอบมันหรือยัง เธอตอบได้อย่างน่ารักว่า เธอรู้สึกชอบตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้รับหน้าที่ ซึ่งจากที่ผมวิตกกังวล จากที่ผมใช้คำว่านอนไม่หลับเลยครับ ผมมีความรู้สึกว่า อย่างน้อยวันนี้ผมได้คู่เล่นใหม่ ได้เพื่อนอีกคนได้มายืนข้างกันในฐานะพิธีกร เชื่อเถอะครับเทคมีเอาท์ไทยแลนด์จะไปถึงปีที่ 11 12 13 14 ได้ ฝากคุณอภิษฎาด้วยนะครับ”
ฝึกเรื่อยๆ ทำงานสายพิธีกร
ไอซ์ : “ใช่ ก็ดีนะ ในวงการพอเป็นพิธีกรมันน้อยคนที่เข้ามาปุ๊บแล้วเป็นสายนี้เลย อย่างเราก็ต้องฝึกมาเรื่อยๆ ดูมาเรื่อยๆ เริ่มจากเป็นนักแสดงไปร่วมรายการแล้วดูไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็ได้มีโอกาสมาเป็นพิธีกรค่ะ
เป็นหนึ่งอาชีพที่ชอบนะ เป็นคนที่รู้สึกว่าแบบ เฮ้ย รายการมันจะสนุกหรือยังไง มันก็ขึ้นอยู่ที่พิธีกรด้วยส่วนนึง ก็รู้สึกว่าแต่ละคนก็มีเทคนิคแพรวพราวไม่เหมือนกัน อย่างน้าเน็กจะบอกว่าดูอยู่ที่บ้านตลอดตั้งแต่รายการเพลงที่แกเป็นงู เราก็รู้สึกว่าคนนี้เก่งจังเลย รู้สึกว่าเขาครีเอตเขาพูดอะไรได้ยังไง เก่งมากแล้ววันนึงก็ได้มาทำงานด้วยกัน ก่อนที่มาทำก็แอบกลัวนะเพราะว่าน้าเน็กเป็นคนที่ในฐานะพิธีกรคือจังหวะเป็นของตัวเองมาก คาดเดาไม่ได้ว่าแกจะไปยังไงแล้ววันนี้มันโชคดีมาก เพราะก่อนขึ้นเวทีแกพูดว่าไม่ต้องมาเดาผมนะว่าผมจะเป็นยังไงเพราะผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน เราก็ตามไปเรื่อยๆ แล้วกัน”
ไม่มีใครแทนที่ใคร ขอเป็นตัวเอง
“อย่างวันนี้ไอซ์ก็คิดไว้เลยว่าไอซ์จะเป็นตัวของไอซ์เอง จะไม่คิดว่าพี่แมร์ชอบพูดอะไร ทำอะไรแบบไหนมาก่อน ไอซ์รู้สึกว่ามันไม่มีแทนใครได้ แต่อย่างที่บอกว่ารายการเทคเทค มี เอาท์ ฟอร์แมตสนุกอยู่แล้ว อย่างวันนี้ดูอยู่ทางบ้านก็สนุกใช่ไหม แต่พอวันนี้ได้มาทุกอย่างมันธรรมชาติ ตลก บางทีความสดทั้งพิธีกรคู่แล้วก็แขกรับเชิญที่มาร่วมรายการคือเดาอะไรไม่ได้เพราะฉะนั้นตามน้ำ”
ไม่ได้คุยกับกาละแมร์ เมินกระแสเปรียบเทียบ ว่ากันไปตามน้ำ
“ยังไม่ได้พูดคุยอะไรค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะต้องรับมือกับกระแสเปรียบเทียบอะไร ไอซ์เชื่อว่าคนดูเองก็ต้องเข้าใจเพราะว่ามันถึงวาระการเปลี่ยนแปลง อย่างไอซ์เองไอซ์ก็เป็นตัวของไอซ์เองในรายการวันแรกก็เป็นน้องใหม่ ได้คุยกับน้าเน็กว่ายังไม่ต้องทำหน้าที่อะไรมาก ให้รู้สึกว่าเหมือนน้ามาสอน เดี๋ยวมันต้องเป็นแบบนี้นะ เราก็เหมือนเป็นน้องใหม่ในรายการมาเจอสาวๆ 30 คน เอาเป็นว่าวันนี้เราไม่สร้างความกดดันให้กันและกัน คือรายการมาอยู่ถึง 10 ปีแล้วเรามาแทนตอนแรกก็กดดันแหละแต่ตอนนี้มาด้วยแบบใสๆเลย เขาเป็นยังไงก็จะตามไป”
ได้งานเพราะโสด แต่จะไม่อยู่ตรงนี้นาน
“ตอนแรกเลยก่อนขึ้นเขาจะพูดว่าเป็นสาวโสดเราก็เอ๊ะ ที่เราได้เพราะเราโสดหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่นะ ฉันจะไม่อยู่ตรงนี้นาน (หัวเราะ) ก็คุยว่าเทปแรกได้เพราะว่าโสดหรือว่ายังไงจะบอกว่าโสดค่ะแต่จะไม่อยู่จุดนี้นานเกินไป คนคุยยังไม่มีค่ะ แต่ก็บอกไว้ก่อนว่าจะไม่อยู่ตรงนี้นานเกินไป
เรื่องงัดวิชามาทำพิธีกรก็ยากนะ เราเป็นคนสนุกนะแต่ไม่ใช่คนแบบว่าโบ๊ะบ๊ะคิดมุก แต่ก็คือยังเป็นคนที่ตามทันบ้าง มุกคนโสดก็ปีนึงแล้วนะ”
แจงเลิก "ไฮโซนนท์" ยากสุดในชีวิต แต่เข้าใจไม่ใช่ครั้่งแรกที่เสียใจ
“ยากที่สุดในชีวิตไอซ์ เพราะว่ามันเหมือนจะเอายังไงเพราะมันอีกก้าวต่อไปแล้ว มันไม่เหมือนคนทั่วไปที่คบกันก็เป็นแฟนกันอยู่ มันยังไม่เห็นอนาคต แต่อันนี้มันเหมือนเห็นมาแล้วนิดนึง ถือว่าเป็นคนตัดสินใจที่ยาก
เราไม่ได้เข็ดกับความรัก เข้าใจธรรมชาติว่านี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรารู้สึกแบบนี้ เสียใจแบบนี้ มันก็โตตามวัยพอโตขึ้นมันอาจจะเจ็บมากขึ้นเพราะมันอาจจะมีความคลาดหวังมากขึ้น แต่ไม่ได้เข็ด เรารู้สึกว่าปีที่ผ่านมาที่เราโสดเราพอใจแล้ว เรารู้สึกว่าเราคบกับตัวเองมาอยู่กับตัวเองรู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะบางทีสำหรับไอซ์คิดว่าบางเรื่องเรายังไม่รู้เลยว่าเราเป็นคนแบบไหนแล้วเราเจอเรื่องแบบนี้เราจะแก้ไขปัญหาตัดสินใจยังไง ณ วันนี้เราก็รู้สึกว่าปีนึงที่ผ่านมาที่โสดก็ดีเหมือนกัน”
เผยไม่ใช่คนเปิดตัวแฟน แต่ต้องเปิดเพราะจะไปอีกสเต็ป
“สำหรับไอซ์เอง ไอซ์ไม่ใช่คนชอบเปิดอะไรอยู่แล้ว แต่ ณ เวลานั้นมันจำเป็นต้องเปิดเพราะว่าเราจะไปอีกจุดนึงมากกว่าค่ะ ส่วนสาเหตุหลักที่เลิกคืออะไร เอาเป็นว่าเรื่องที่จบไปแล้ว มันจบไปแล้ว เพราะวันนี้มันจบไปปีนึงแล้ว”
มูฟออนได้ปีนึงแล้ว พร้อมเปิดใจให้รักครั้งใหม่ แต่ไม่รีบร้อน กลัวที่สุดได้คนไม่ดีมาอยู่ข้างกาย
“ปีนึงแล้วค่ะ ตั้งแต่ไอซ์ตัดสินใจเลิกก็นับตั้งแต่วันนั้น รักครั้งใหม่ก็พร้อมนะคะ แต่ไม่รีบร้อน เราจะรู้สึกว่าไม่ได้เป็นผู้หญิงเก่ง แบบชีวิตนี้ฉันจะอยู่คนเดียวค่ะ ฉันไม่แคร์ ก็ยังรู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากมีความรัก แล้วก็กลัวไหมกับบั้นปลายถ้าสมมุติว่าจะไม่มีใครก็แอบกลัว แต่ไม่ได้กลัวกว่าการเอาใครที่ไม่ดีมาอยู่ข้างกายมากกว่า เพราะว่าเรารู้สึกว่าการที่ดึงคนมาอยู่ข้างๆ มันไม่ใช่แค่ตัวเขา เราเอาหัวใจเขามาอยู่ข้างๆ เราด้วยว่าถ้าใจเขาคิดอะไรบางทีมันซึมด้วยกันทั้งคู่เนอะคู่รัก เพราะฉะนั้นเรื่องคนที่จะมาอยู่ข้างเรามันก็สำคัญ”