xs
xsm
sm
md
lg

“อ้น” เคยเล่นซีรีส์สื่อสารเรื่องทางเพศ แต่ไม่ใช่การตลาดตัวเอง เล่นซีรีส์วายนัวเนีย! แข็งแรงพอที่จะพูดเรื่องคลิปหลุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ้น สราวุธ” เปิดใจไม่ใช่การตลาดของตัวเอง เล่นซีรีส์วายนัวเนียหนึบหนับ โชว์ซิกแพ็ก แต่ไม่ปิดตาย ขอดูหัวใจบทละครและความสำคัญ ลั่นแข็งแรงพอที่จะพูดเรื่องคลิปหลุดแล้ว ผ่านมาแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ในชีวิตอีกต่อไป

เป็นนักแสดงมากความสามารถอีกคนของวงการบันเทิง สำหรับ “อ้น สราวุธ มาตรทอง” ที่ล่าสุด มีข่าวว่าจะหันมาเล่นซีรีส์วายบ้างแล้ว ล่าสุด เจ้าตัวไปร่วมแคสติ้งนักแสดงซีรีส์ สะพานปูน The Series พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการแคสตัวนักแสดงในครั้งนี้อีกด้วย ณ mbk center fl G Zone Rama hall ซึ่งอ้นเผยว่าได้มีการทาบทามส่งบทมาให้ดูจริง แต่ยังไม่ได้ตอบตกลง

“เขาส่งบทมาให้แล้ว บอกว่าอยากให้เล่นเป็นตัวไหน แต่ผมยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องคาแร็กเตอร์นะครับ บางคนบอกว่าอ้นจะเล่นซีรีส์วาย จะต้องไปนัวเนียหนุบหนับ ไม่ๆ (ยิ้ม) ผมไม่ได้บอกว่าโน ศูนย์เปอร์เซ็นต์อะไรทั้งสิ้น ผมไม่ปฏิเสธซีรีส์แนวไหนทั้งนั้นนะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมก็เคยเล่นซีรีส์ที่สื่อสารเรื่องทางเพศในลักษณะอื่นๆ มาแล้ว คือ ถ้าผมจะเล่นอะไรก็ตาม ถ้าบทนั้นมีเกียรติ และให้แง่คิด มันส่งสารในเรื่องของหัวใจ เรื่องของการแสดง เรื่องของการเข้าใจเพศสภาพ เข้าใจมนุษย์ ผมโอเคนะ

แต่ถ้าคาดหวังว่าบทนั้นต้องมาหนึบหนับๆ โชว์ซิกแพ็กอะไรแบบนั้น อาจจะไม่ใช่การตลาดในทางของผมเท่าไหร่ เพราะผมยังคงเน้นเรื่องการแสดงมากกว่า แต่ถ้าเกิดมีบ้างมันก็ไม่ได้เสียหาย เพราะผมเองก็ดูแลตัวเองและหน้าตาอย่างดี มันก็ต้องใช้ มันก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในวงการบันเทิงนะ แต่ไม่ใช่ส่วนแรกครับ”

บอกสามารถเล่นเลิฟซีนแนววายได้ แต่ขอดูความจำเป็นของบทก่อน
“ก็ไม่ถึงกับรับซีรีส์แนวนี้เป็นเรื่องแรกนะ ถ้านับที่เล่นเรื่องรักมันซับซ้อน ทางไลน์ทีวี อันนั้นน่าจะเป็นเรื่องแรกมากกว่าที่มีหลายๆ เพศ แต่อันนี้ยังไม่ได้เจาะรายละเอียด แต่เท่าที่มองโครงเรื่องรวมๆ ผมว่าหนังมีความอบอุ่นและโรแมนติกมากครับ

ถามว่าผมสามารถเล่นบทหนึบหนับๆ ได้แค่ไหน ผมตอบไม่ได้ครับ ต้องดูบทก่อน แต่ถ้าบทมีเหตุผลและมันสวยงาม มันเข้าใจได้ เห็นถึงหัวใจของตัวละครก็อาจจะเล่นให้ดูครับ แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆ จะมาซัดกันเลย ผมว่าก็ไม่ไหว

จริงๆ ก็ยังไม่ได้รับเล่น ต้องดูหลายเรื่อง เพราะเรื่องคิวด้วย เรื่ององค์ประกอบหลายๆ อย่างด้วยครับ ถามว่าถ้าเล่นจะเป็นการตอกย้ำข่าวเก่าๆ มั้ย ผมว่ามันอยู่ที่เราเล่นยังไงออกไปมากกว่าครับ คือ พูดได้ว่าตอนนี้ผมสนใจงานในสายวาย คนก็จะเฮ้ยอะไรยังไง คือ คนมองมายังไงก็ได้ แต่สิ่งที่เรานำเสนอไปนี่แหละสำคัญ คือถ้ามีคนเดินมาบอกว่าอ้นถอดเสื้อผ้าให้ดูหน่อยสิ มันอยู่ที่เราจะถอดมั้ย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราให้ผู้รับไป มันอยู่ที่ว่าเราจะให้อะไรไป ให้เปลือกหรือให้คุณค่าของสิ่งนั้นๆ นั่นแหละสำคัญกว่า”

เผยที่ออกมาพูดถึงเรื่องคลิปสยิวในอดีตได้ เพราะมันผ่านมานานแล้ว
ผมเลิกพูดเรื่องนี้ไปนานแล้ว ผมว่าอะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่มันมีเหตุของการเล่า อย่างที่ผมไปออกรายการของสปริงนิวส์ และเขาถามเรื่องธุรกิจกว่าจะมาเป็นเรา แต่เราไม่ได้มาเป็นเราที่อยู่ดีๆ ก็มาแบบสวยงาม คือเราต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ทุกข์สุขมาเหมือนกัน ก็มีย้อนกลับไปแตะมันเหมือนกัน แต่แตะด้วยความรู้สึกที่วันนี้เราแข็งแรงขึ้นแล้ว และเรารู้สึกว่าคนมันไม่ได้เพอร์เฟกต์ทุกคนนะ คนเรามีความเจ็บช้ำ มีเรื่องราวกันทุกคน แต่เราจะจมอยู่กับมันหรือไปข้างหน้า

ล่าสุด ที่ แอนนา ทีวีพูล ไปสัมภาษณ์ แอนนาบอกว่าหนูตามพี่ตั้งแต่อายุ 15 อยากจะจบเรื่องนี้ และหลายคนพออ่านเรื่องพี่แล้วเขาเหมือนไม่ฟัง และเห็นเป็นเรื่องสนุกกับชีวิตพี่ หนูรับไม่ได้ หนูอยากจบมันได้มั้ย ผมก็บอกว่าโอเค และแอนนาก็พูดโอเคมากว่าจริงๆ มันผ่านไปแล้ว สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปแล้วครับ เพราะผมมีวันข้างหน้าที่รออยู่ และผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อโตขึ้น สว่างขึ้นและมีความสุข”

บอกธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า DEEP By Aon Sarawut ฟีดแบ็กไปได้ด้วยดี
“ที่ทำเซรั่มกับน้องชาย กระแสตอบรับดีมากครับ คือเรารู้กันอยู่แล้วว่าผู้ผลิต ผู้ขาย ไม่ควรพูดเยอะ ไม่ควรพูดกันเกินความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพยายามให้เสมอ คือ ให้ข้อมูลที่สมควรจะได้รับ ทั้งวิทยาศาสตร์และสิ่งที่ผมตั้งใจ แต่ความรู้สึกหรือผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้ คือสามารถไปสืบค้นได้เลยว่าลูกค้าเขาใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง

ถามว่าเราต้องระมัดระวังมากขึ้น ต้องละเอียดมากขึ้นมั้ยในเรื่องของสินค้า ก็ไม่ต้องปรับมากครับ คือ ผมเป็นคนละเอียดมากอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้เพิ่งจะมาดูแลตัวเองเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ผมใช้ชีวิตในวงการนี้มา 20 กว่าปี ผมเลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเองเสมอครับ ถึงแม้วันนี้ไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ผมก็ยังต้องเลือกสิ่งดีๆ เสมอ เพราะผมอยากได้สิ่งที่ดี และในเมื่อผมจะทำธุรกิจผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมสามารถกำหนดได้เองคือคุณภาพของสิ่งที่ผมทำ เพราะผมไม่ใช่แค่จะขาย ผมต้องใช้ทุกวัน

เวลาจะทำอะไรต้องระมัดระวังคำพูด ซึ่งโชคดีเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะระมัดระวังคำพูดอยู่แล้ว เราเลยยิ่งต้องระมัดระวังคำพูดเข้าไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่บอกตัวเองคือมึงอย่าพูดอะไรเกินจริงนะ พูดแต่ละคำต้องพยายามได้ยินเสียงตัวเองให้ได้นะ มันทำให้เรามีสติขึ้น













กำลังโหลดความคิดเห็น