โอเค นัมเบอร์วัน! “พิมรี่พาย” ลั่นมีเงินค่ะ เลยเปิดค่ายเพลง ดันตัวเองศิลปินเบอร์แรก โอดไม่อยากเจ๊งคนเดียว ขอมีเพื่อนร่วมเจ๊ง ฟุ้งพร้อมเติมเงิน ฝันไกลถึงโกอินเตอร์ ขอโทษก่อนหน้านี้ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่ได้หยิ่ง มองตัวเองเป็นแค่แม่ค้า ไม่อยากข้ามเส้น
เรียกว่าปังไม่ไหวจริงๆ สำหรับแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง “พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์”ที่ตอนนี้ผันตัวจากแม่ค้าออนไลน์สุดแซ่บ ควักกระเป๋าลงทุนเปิดค่ายเพลงใหม่ “HIGH CLOUD ENTERTAINMENT” ค่ายเพลง T-POP ร่วมกับแรปเปอร์ดัง “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” หรือ “กอล์ฟ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก”และ “หลุยส์ ธชา คงคาเขตร”อย่างเป็นทางการพร้อมควบตำแหน่งศิลปินเบอร์แรกของค่าย โดยพิมรี่พายได้เผยถึงที่มาของการผันตัวเองจากแม่ค้าออนไลน์เข้าสู่วงการเพลงว่า....
“สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่ค่าย high cloud entertainment มีพิมเอง มีพี่กอล์ฟ ฟักกี้ฮีโร่ มีพี่หลุยส์ ธนา เริ่มต้นจากการที่พิมอยากทำเพลงอย่านะคะ พิมอยากทำเอง เราอยากร้องเพลงเห็นว่าลูกค้าชอบให้ทำโน่นทำนี่ และถ้าเราจะทำ ต้องไม่ธรรมดา เราต้องติดต่อเบอร์ใหญ่ๆ เนอะ ตอนแรกพี่กอล์ฟไม่รู้จักพิม พี่เขาตอบกลับมา น้อง พี่ขอโทษนะ มึงเป็นใคร พิมก็ไล่โปรไฟล์ให้เขาฟัง เขาก็แต่งเพลงให้เราออกมา 1 เพลง
พอเราคุยถูกคอ นัดกินข้าวกัน เขาชวนเราลงทุน พิมก็เลยลงทุนเลย (ทำไมเราใจง่ายขนาดนั้น?) ก็เพราะสังคมเราแคบไง เราก็เลยต้องคว้าไว้ก่อน(หัวเราะ) ไม่ค่อยได้เจอ”
เผยทำเพลงแค่อยากให้แฟนคลับถูกใจ แต่กระแสดีเกินความคาดหมาย ไปไหนคนก็พูดถึง
“เพลงที่พี่กอล์ฟแต่งให้ส่วนตัวถูกใจ แค่อยากจะทำให้แฟนคลับถูกใจเท่านั้น แต่ส่วนตัวพิมกลัว ช่วงนึงก่อนจะมีโควิดรอบ 2 เดินข้าวสาร มีแต่คนเข้ามาบอก อย่านะคะ อย่านะคะ หันไปบอกผู้จัดการว่ามึงเอากูออกจากตรงนี้ไปหน่อยทำไมฟีดแบ็กมันแรงขนาดนี้ แรงจนเกินความคาดหมาย เราอยากทำให้แฟนคลับเฉยๆ ปรากฎได้คนที่ชอบมากขึ้นอีก ขอบพระคุณมากๆ”
ครั้งแรกที่ต้องโชว์ต่อหน้าสื่อตื่นเต้นมาก แจงที่ผ่านมาไม่ได้หยิ่งไม่ให้สื่อสัมภาษณ์ แต่มองว่าตนเป็นแค่แม่ค้าจึงไม่อยากข้ามเส้น
“ครั้งแรกของการโชว์ และเป็นการมาพูดอะไรแบบนี้ครั้งแรก ตื่นเต้นมาก ไม่เคยเจออะไรเยอะแบบนี้ และขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าหลายคนติดต่อมาขอสัมภาษณ์ พิมไม่ได้หยิ่งหรือว่าไม่อยากเจอพี่ๆ นะคะ แต่มันไม่ใช่เวย์ของพิม เพราะพิมเป็นแม่ค้า พิมควรจะคุยกับลูกค้าเท่านั้น
พิมยังไม่ใช่ศิลปิน ยังไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ใช่ดารา พิมเลยขออนุญาตไม่ข้ามเส้นการเป็นแม่ค้าไป พิมภูมิใจในการเป็นแม่ค้า แต่วันนี้พิมมาเป็นเจ้าของค่ายเพลง และเป็นศิลปินเลยมายืนตรงนี้ได้ ขอบพระคุณค่ะ (แสดงว่าเราจะได้เห็นพิมรี่พาย ในบทบาทนี้เยอะขึ้น?) ก็...เอาไว้ก่อน อุบไว้ก่อน มีเซอร์ไพร์สแน่นอน”
ลั่นต้องปรับตัวเยอะจากแม่ค้ามาเป็นศิลปิน
“เปลี่ยน เป็นแม่ค้าเราจะพูดอะไร ก็ตามใจเรา เราอยากขายอะไรก็ตามใจเรา แต่ถ้าเป็นศิลปินมันจะมีตารางงานที่ชัดเจน ต้องมาเวลานี้ ต้องมาซ้อมเต้น เลยนึกว่าตอนกูไลฟ์ กูไม่เห็นต้องทำอะไรแบบนี้ ทำไมศิลปินมันยากจังว่ะ”
ในฐานะผู้บริหารค่าย นอกจากมีเงินแล้วก็ตั้งใจทำงานสุดตัว แต่ไม่คาดหวังว่าจะไปถึงระดับไหน
“อุ้ย...มีเงิน ถามว่าลงไปเยอะไหม (ทำท่านับนิ้ว) คือ เวลาพิมทำธุรกิจ พิมทำด้วยใจ ค่ายเพลงเราก็ทำด้วยใจเช่นกัน ไม่คาดหวัง ทำให้มันเต็มที่ ทำสุดแรงและไม่เคยคิดว่าจะต้องไปถึงระดับไหน แต่จะไปค่ะ แต่ไม่คาดหวัง”
ฟุ้งฝันไกลไปถึงโกอินเตอร์
“โกอินเตอร์จริงๆ ไปแล้วด้วยค่ะ แต่ติดโควิด ก็เลยต้องกลับก่อน เขาไม่ให้เข้า เราก็เริ่มเรียนเต้น เรียนร้องเพิ่มเติม แต่ก็มั่นใจอยู่แล้วไม่เห็นต้องมาสร้างอะไร (ยิ้มแบบเชิดๆ) อย่างวันนี้ที่เห็นเต้น เมื่อวานก็อยู่ตี 4 ไม่ได้ซ้อมเต้นนะ แต่เล่นดัมมี่ (หัวเราะ) ซ้อมถึงตี 4 ท้อเลยนอนก่อน”
ที่ไม่อยากเปิดค่ายเองคนเดียวเพราะไม่อยากเจ๊งคนเดียว
“เขาก็พูดแล้วนะ เราเป็นคนเก่ง คนสวย คนรวย คนดัง เราไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการร้อง เต้น เป็นศิลปิน เราพร้อมหมดเลย ที่สุด ที่ไม่อยากเปิดค่ายเองตั้งแต่แรกคือเราไม่อยากลงทุนแล้วเจ๊งคนเดียว เราอยากจะมีเพื่อนเจ๊ง จะมีคนช่วยกันรับคำตราหน้าไว้ ถ้าเราทำคนเดียว ก็ไม่รู้จะไปด่าใคร ตอนแฮปปี้กับชีวิต แฮปปี้กับทุกอย่างเลย”
ไม่กลัวแตกคอกัน ไม่กลัวเจ๊ง ถ้าเจ๊งก็ไปทำธุรกิจตัวอื่น
“เราทะเลาะกันทุกวันเลย ไม่กลัวแตกคอ เพราะปกติเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทะเลาะ ดิฉันไม่กลัวเจ๊งหรอกค่ะ เพราะดิฉันทำหลายอย่าง อันนี้เจ๊ง ก็ไปจับอันนั้นทำใหม่ ไม่กลัวเจ๊งหรอกค่ะ (เราพร้อมเติมเงินตลอด?) ก็มาเถอะจ๊ะ อยากฝากค่ายของเราไว้ ว่าอาจจะต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะหลายเบอร์มาก เยอะมาก งานดีมาก พูดแล้วสงสารสื่อ อาจจะต้องเหนื่อยนิดนึง”
