xs
xsm
sm
md
lg

เหรียญที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา 

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เพื่อลดความแออัดของผู้มารับบริการในโรงพยาบาลศิริราช ให้ได้รับบริการที่สะดวก รวมถึงได้รับโอกาสทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร 

อาคารนี้นับเป็นอาคารสุดท้ายของศิริราชและประชาชนคนไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามว่า “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” (Navamindrapobitr 84th Anniversary Building) เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ด้วยงบประมาณสนับสนุนจากทุกภาคส่วน คือภาครัฐ 2,000 ล้านบาท ระดมทุนผ่านการบริจาคจากภาคเอกชน องค์กรต่าง ๆ และประชาชนอีก 3,000 ล้านบาท กำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 เมษายน 2564

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ตลอดช่วง 7 ปีของการก่อสร้างอาคารใหม่ ศิริราชตระหนักถึงความสำคัญในน้ำใจและพลังของการมีส่วนร่วมในการบริจาคจากทุกภาคส่วน เพื่อแสดงความขอบคุณและตอบแทนผู้ที่มีส่วนร่วมและตั้งใจเข้าร่วมบริจาคในโค้งสุดท้าย ศิริราชขอเชิญทุกท่านร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำใจ โดยบริจาคพร้อมรับเหรียญที่ระลึกในโอกาสพิเศษ รายได้จากการบริจาคหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปสมทบกองทุน “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” เพื่อผู้ป่วยและเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์

“อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้จัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องฉายรังสีที่มีความแม่นยำสูง MR Linac หรือ MRL ที่มีเครื่องเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, งานเภสัชกรรมผู้ป่วยใน ซึ่งให้บริการด้วยระบบจัดยากึ่งอัตโนมัติ, ครุภัณฑ์และเตียงผู้ป่วย หอผู้ป่วยใน ชั้น 17-24, ครุภัณฑ์เพื่อผู้ป่วยวิกฤต หอผู้ป่วยวิกฤต (ICCU, CCU, ICU, RCU) ชั้น 7-9 เป็นต้น เพื่อใช้รักษาและดูแลพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสให้มีโอกาสหายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย เมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข”

ทั้งนี้ เหรียญที่ระลึกในพิธีเปิด “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” จัดทำทั้งหมด 6 แบบ ประกอบด้วย

1.เหรียญทองคำ ทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ขนาด 3 เซนติเมตร น้ำหนัก 30 กรัม มีใบรับรองพร้อมเลขที่กำกับเหรียญเป็นที่ระลึก ๑-๙๙๙ (จำนวนจำกัด) สำหรับผู้บริจาคตั้งแต่ 199,999 บาท

2.เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ เงินบริสุทธิ์ 95% สำหรับผู้บริจาค 2,999 บาท

3.เหรียญเงินธรรมดา เงินบริสุทธิ์ 95% บริจาค 2,499 บาท

4.เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ บริจาค 499 บาท

5.เหรียญทองแดงธรรมดา บริจาค 199 บาท

6.เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ขนาดพิเศษ 7 ซม. สำหรับผู้บริจาค 3,499 บาท

ผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคและสั่งจอง เหรียญทองคำที่ระลึก โดยเขียนใบแสดงความจำนงและเลือกหมายเลขกำกับเหรียญ (เลข ๑ ถึง ๙๙๙) ดาวน์โหลดใบแจ้งความจำนง ผ่านเว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th/th และเลือกหมายเลขกำกับเหรียญ ได้ที่ โทร. 0 2419 7646–7 ในวันและเวลาราชการ

บริจาคและรับเหรียญอื่น ๆ อีก 5 ประเภท ได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ หรือธนาคารกรุงเทพ (สาขาที่ร่วมโครงการ) ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

บริจาคผ่านธนาคารต่าง ๆ ชื่อบัญชี “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” (D3499) ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 901-7-02699-9, ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 031-0-49552-0, ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 638-2-00888-8, ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 016-4-37544-4

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 รพ.ศิริราช โทร. 0 2419 7646–7 ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไปในวันและเวลาราชการ

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ กล่าวในตอนท้ายว่า “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษาเป็นอาคารสูง 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 67,500 ตารางเมตร มีเตียงผู้ป่วยสามัญ 376 เตียง หอผู้ป่วยวิกฤต 62 ห้อง ไม่มีห้องพิเศษ มีห้องตรวจผู้ป่วยนอก คลินิกเฉพาะโรค ศูนย์บริหารความเป็นเลิศ 14 ศูนย์ ธนาคารเลือด และบริการอื่น ๆ สามารถรองรับผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นได้กว่า 200,000 รายต่อปี จากเดิม 3,500,000 กว่ารายต่อปี รับผู้ป่วยในเพิ่มได้อีก 20,000 ราย จากเดิม 84,000 รายต่อปี"

"ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้น้อมนำพระราชประสงค์ที่จะปฎิบัติและทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ สมดังปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่ต้องการให้ รพ.ศิริราช ดูแลผู้ป่วยด้อยโอกาสได้อย่างเต็มที่ ให้พสกนิกรของพระองค์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โอกาสนี้ถือเป็นวาระพิเศษที่เราคนไทยและผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการทำความดี มีศักยภาพที่จะช่วยเหลือผู้อื่น และต้องการช่วยเหลือประเทศชาติ ได้ร่วมกันแบ่งปันน้ำใจ โดย รพ.ศิริราช เป็นสะพานบุญที่จะเชื่อมต่อความดีระหว่าง 2 ฝ่าย คือ คนที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ และผู้ป่วยที่ต้องการรับความช่วยเหลือซึ่งมีเป็นจำนวนมากในประเทศไทยของเราต่อไป”

















กำลังโหลดความคิดเห็น