กรณีดราม่าแบรนด์เสื้อผ้าสตรีตแวร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Supreme ประกาศขายเสื้อลายใหม่ เป็นลายหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มีทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ กรมท่า ลายทหาร สีดำ มีรูปหลวงพ่อคูณและลายสักยันต์ประดับ ขณะที่วัดบ้านไร่ยืนยันไม่เคยได้รับการติดต่อมาก่อน กำลังหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป
รายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-11.00 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" และ "นภัส ธีรดิษฐากุล" วันนี้ (18 ก.พ.) สัมภาษณ์ "ครูต้อ บุญเทิด วงษ์กาญจนรัตน์" อดีตกรรมการวัดบ้านไร่ และ "ครูดำ ประทีป วงษ์กาญจนรัตน์" ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ หลานแท้ๆ หลวงพ่อคูณ ถึงประเด็นดังกล่าว
ทราบเรื่องเสื้อแบรนด์ดังสุพรีม?
ครูต้อ : "ทราบเมื่อวาน ลูกสาวส่งไปให้ดู มีคนที่เรารู้จักหลายท่านส่งเข้ามา เขาก็มาถามรายละเอียดว่าเรื่องนี้่ทางวัดรู้เรื่องอะไรมั้ย"
รูปยันต์ที่อยู่ในเสื้อ เป็นยันต์หลวงพ่อคูณจริงๆ มั้ย?
ครูดำ : "ตัวยันต์น่ะใช่ วัดเป็นคนสร้าง หลวงปู่เป็นคนอนุญาต ให้ทำเพื่อจำหน่ายให้ศิษยานุศิษย์นำเงินสร้างสาธารณะประโยชน์ ออกมาในปี 36"
ยันต์รุ่นนี้จะช่วยอะไร?
ครูต้อ : "ช่วยค้าขายดี มีกำไร เอาไปติดในบ้านจะทำให้คนในบ้านมีความสงบสุข ป้องกันภัยจากภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับทำให้ลูกหลานกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้กระจองอแง บางคนที่ทำการค้า ถ้ามียันต์ติดร้าน ติดรถ จะทำให้ขายของได้ดี"
รุ่นนี้่ถ้าคนหามาบูชา ยังมีอยู่มั้ย?
ครูต้อ : "ที่วัดไม่มี"
แล้วไปอยู่บนเสื้อแบรนด์ดังได้ไง?
ครูต้อ : "อันนี้ไม่ทราบจริงๆ"
เขามาขออนุญาตหรือติดต่อใดๆ มั้ย?
ครูต้อ : "ไม่ทราบเลย"
ครูดำ : "เราสอบถามทั้งหมดที่วัดไม่มีใครทราบสักคน ก็ตกใจเหมือนกัน ในเมื่อไม่ขออนุญาต การทำอะไรต้องขออนุญาตกัน แม้แต่สมัยหลวงพ่อคูณยังมีชีวิตอยู่ ใครจะทำวัตถุมงคล ยังต้องไปขออนุญาตท่าน และต้องบอกจำนวน บอกวัตถุประสงค์ ประเภทส่วนตัวท่านจะไม่อนุญาต ส่วนมากต้องเป็นส่วนรวมทั้งหมด"
วัดจดเป็นลิขสิทธิ์มั้ย?
ครูต้อ : "ถ้าพูดกันตามจริงเราไม่ได้จดไว้ แต่เราเคยมีการประชุมในคณะกรรมการ ว่าใครก็แล้วแต่จะสร้างเป็นเหรียญหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อคูณ ต้องได้รับอนุญาตจากกรรมการ และทางวัด มีการลงวาระการประชุมชัดเจน อีกอย่างทางวัดเรามีธรรมเนียมปฏิบัติ ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อคูณยังมีชีวิต ใครก็แล้วแต่จะสร้างต้องมีการขออนุญาต เป็นจริยธรรมที่ทุกคนต้องให้ความเคารพนับถือ ไม่ใช่ทำอะไรโดยพลการ เราไม่มีส่วนรับรู้"
ก่อนหน้านี้มีคนทำเองมั้ย?
ครูต้อ : "วัตถุมงคลอาจมีที่อื่นที่วัดไม่ได้สร้าง แต่เขาต้องขออนุญาต และแจ้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เมื่อทางวัดอนุญาตเขาถึงไปทำได้"
ก่อนหน้านี้มีคนไปทำเองโดยพลการมั้ย?
ครูต้อ : "ไม่เคยปรากฎว่ามี อันนี้ครั้งแรก"
พอมีข่าวออกมา ลูกศิษย์หรือคนนับถือหลวงพ่อคูณมาโวยวายมั้ย?
ครูต้อ : "หลายคนเขาสะเทือนใจ เขามาพูดว่าเราจะดำเนินการยังไง แก้ไขยังไง เพราะจุดเริ่มต้นบอกตรงๆ เราไม่ทราบที่มาที่ไปว่าเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะเราก็เพิ่งเห็นในไลน์เมื่อวาน"
ปรึกษาหารือผู้ใหญ่หรือยัง?
ครูต้อ : "เราก็คุยกันอยู่ เรามีวิธีการยังไง ส่งหนังสือทักท้วงให้เขารับรู้ว่าการทำแบบนี้ สร้างความสะเทือนใจให้ศิษยานุศิษย์"
ไม่มีการจดลิขสิทธิ์ที่มีผลทางกฎหมาย จะฟ้องได้มั้ย?
ครูต้อ : "เราไม่ได้คุยกัน เพียงแต่อยู่ในความคิดว่าจะดำเนินการยังไง"
จะส่งหนังสือให้เขาระงับการผลิตมั้ย?
ครูต้อ : "คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น ยังไงควรแจ้งให้เขาได้รับทราบว่าการทำตรงนั้นไม่สมควร"
ต่างชาติอาจไม่เข้าใจศรัทธาชาวพุทธที่มีต่อหลวงพ่อคูณ หลายคนกังวลว่าไปอยู่บนเสื้อ แต่อาจถอดเสื้อหรือเหวี่ยงเสื้อไปวางไว้ตรงไหนไม่ทันได้คิด?
ครูต้อ : "เราก็มีความคิดเหมือนกัน ถ้าใครไปทำอะไรไม่ดี แต่ใส่เสื้อตัวนี้ไปโชว์เขา จะเป็นการบ่งบอกมั้ยว่าไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อคูณเลย ไปทำอะไรชั่วช้าเลวทราม เข้าไปในที่อโคจรที่ไม่ควรไป"
คนนำรูปเสื้อมาโพสต์ คือ "คุณแชมป์" อยู่ในสาย รูปที่เอามาโพสต์เป็นเสื้อสุพรีมของแท้?
แชมป์ : "สุพรีมของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพิ่งเปิดตัวคอลเลคชั่นได้ 2 วันที่ผ่านมา หนึ่งในคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์มีรูปยันต์หลวงพ่อคูณอยู่ ผมดีใจนะ และภูมิใจในความเป็นไทย เพราะต้องบอกก่อนว่าด้วยบุญบารมีท่าน ชื่อเสียงที่ท่านสั่งสมมา ไม่ใช่แค่คนไทยรู้จัก อันนี้เป็นต่างชาติให้ความเคารพ หรืออาจเห็นในชื่อเสียงของท่าน หรืออัตลักษณ์ลวดลายผ้ายันต์ของท่าน เลยนำมาเป็นแบบเสื้อ"
แน่ใจได้ยังไงว่าเขารู้จักหลวงพ่อคูณ เป็นไปได้มั้ย สพรีมเขาเห็นเป็นพระองค์นึงที่มีอิริยาบทไม่เคยเห็นมาก่อน หรือเห็นยันต์สวยดี เลยเอาไปใส่ให้เป็นแฟชั่น?
แชมป์ : "ในมุมมองพี่เอิ๊กก็เป็นไปได้ แต่สุพรีมไม่เคยทำอะไรมั่วๆ สุพรีมทำแต่ละคอลเลคชั่นเขาจะมีความเป็นมาแต่ละลวดลาย"
แต่ตอนนี้ตัวแทนหลวงพ่อคูณเขายังไม่รับรู้เรื่องนี้มาก่อน เป็นไปได้ว่าเขาอาจทำหนังสือสั่งระงับการผลิต ในฐานะเป็นหนึ่งในคนทำแฟชั่นออนไลน์ คิดว่าสุพรีมจะแก้ปัญหานี้ยังไง?
แชมป์ : "ไม่น่าต้องแก้ปัญหายังไง ผมไม่ขอพูดเรื่องกฎหมาย แต่ขอฝากท่านไวยาวัจกรวัดหรือนักกฎหมายว่าคุณมีสิ่งดีๆ อย่าเก็บไว้แค่ภายในประเทศ ตอนนี้หลวงพ่อคูณดังไปทั่วโลก ผมว่าวัดบ้านไร่จะดังกว่านี้ เพราะฝรั่งเขาได้เห็น ทุกวันนี้โลกคอนเนคกันหมดแล้วครับ สามารถหาข้อมูลกันได้หมดแล้วว่าพระรูปนี้คือใคร ทำไมเอามาทำเป็นลายเสื้อผ้า ถ้าเก็บสิ่งดีๆ ไว้แค่คนเดียวจะตายไปกับเรา แต่ตอนนี้หลวงพ่อคูณดังระดับโลก นี่คือสิ่งดีเชิดหน้าชูตาวัดบ้านไร่ ให้ท่านมีชื่อเสียง หรือสิ่งที่ท่านทำ คนต่างชาติจะได้รู้จักมากกว่านี้"
ครูต้อฟังแล้วรู้สึกยังไง?
ครูต้อ : "เรื่องชื่อเสียงหลวงพ่อคูณจะมาโด่งดังเพราะเสื้อก็คงไม่ใช่ เพราะหลวงพ่อคูณท่านดังมาก่อนหน้านั้นแล้ว ตั้งแต่สมัยทหารอเมริกามารบ และมาพักที่โคราช แทบไม่มีคนไหนไม่รู้จักหลวงพ่อคูณ ทุกคนมีความเคารพ ศรัทธา จนกระทั่งหลวงพ่อคูณโด่งดังไม่เฉพาะอเมริกา จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เขาก็ร่ำลือกันไปหมด ฉะนั้นเรื่องว่าจะมาดังเฉพาะเสื้อ ถ้ามองอีกมุมเขาแสวงหาผลประโยชน์ โดยเอาหลวงพ่อคูณมาเป็นแรงจูงใจ"
ทนายเจมส์ ถ้าดูด้านกฎหมาย แม้ไม่มีการจดลิขสิทธิ์ เอาผิดทางกฎหมายได้มั้ย?
ทนายเจมส์ : "ผมอยากให้มองก่อนว่าต้นฉบับภาพนี้คือภาพถ่าย เสร็จแล้วเอาภาพถ่ายมาทำเป็นยันต์ เป็นเสื้อ เขาเรียกว่าศิลปะประยุกต์ การเอาภาพถ่ายไปทำกับเครื่องใช้ เสื้อผ้า แก้วน้ำเขาเรียกศิลปะประยุกต์ ซึ่งต้องขออนุญาตเจ้าของคนที่ทำเหมือนกัน มันมีความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว อย่างเช่นงานศิลปกรรม ที่เป็นรูปปั้น ภาพถ่าย ภาพเขียน หรือศิลปะด้านอื่นๆ กฎหมายคุ้มครองทันที ไม่ต้องจดลิขสิทธิ์ก็มีผลตามกฎหมาย ประเด็นต่อมาศิลปะประยุกต์ อายุคุ้มครองตามกฎหมาย 25 ปี นับตั้งแต่มีการนำออกมาโชว์ครั้งแรก เมื่อหมดอายุความคุ้มครอง ใครจะเอาไปทำอะไรก็ได้"
ตอนนี้ 28 ปี?
ทนายเจมส์ : "น่าจะเกินอายุความคุ้มครองไปแล้ว ผมมองว่าดำเนินการทางกฎหมายไม่ได้ในส่วนลิขสิทธิ์ แต่การนำชื่อวัดไปใช้ก็เป็นอีกส่วน เพราะเอาชื่อวัดแปะหลังเสื้อ ต้องขออนุญาตทางวัด ต้องแจ้งวัตถุประสงค์การทำ ขออนุญาตท่านเจ้าอาวาส วัตถุประสงค์ในการจัดทำเพื่ออะไร ถ้าเจ้าอาวาสท่านยอม ก็จบ แต่ถ้าไม่ยอมก็มีปัญหา"
เราควรยอมให้เขาไปทำ เพื่อเป็นการโฆษณาให้ทั่วโลกรู้จักหลวงพ่อคุณมากยิ่งขึ้น หรือไม่ควร ไม่เหมาะอยู่บนเสื้อ?
ทนายเจมส์ : "ผมมอง 3 ส่วน ส่วนกฎหมาย ส่วนชื่อเสียง และความเหมาะสม ส่วนกฎหมายว่ากันไป ต้องขออนุญาตวัด ถ้าวัดไม่อนุญาตให้นำชื่อวัดไปใช้ ก็มีความผิดทางกฎหมาย อาจฟ้องทางแพ่ง ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ว่ากันไป สองความเหมาะสม อย่าลืมว่าหลังๆ มาเราไม่เจอว่าเอารูปพระหรือยันต์ทำเป็นเสื้อ เพราะถ้าไม่ได้ใส่เสื้อแล้วเพราะมันเก่า จะเอาเสื้อไปไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วเสื้อมีรูปหลวงพ่ออยู่ อันนี้เหยียบย่ำศรัทธาคนไทย ต้องมองหลายๆ มุม ส่วนชื่อเสียงก็อีกมุมนึง ที่ทางวัดต้องตัดสินใจ ว่าจะเอาแบบไหน ชื่อเสียง กฎหมาย หรือเอาศรัทธามาเป็นที่ตั้ง"
วัดอาจส่งหนังสือไปทางแบรนด์สุพรีมให้ระงับผลิตเสื้อไปก่อน ทำได้มั้ย?
ทนายเจมส์ : "ทำได้ อาจขอซื้อขออนุญาตก็ได้ หลายๆ รูปแบบ ถ้ามีการตกลงไกล่เกลี่ยกัน ทำได้ตลอดเวลา เพื่อหาจุดยุติ ถ้ามองดูเจตนา เขาต้องการทำให้ชื่อเสียงวัดโด่งดังมากยิ่งขึ้น หรือไถ้ามองเจตนาไม่ดี เขาใส่เพราะศรัทธา หรือแฟชั่น เอาไปย่ำยีหรือเปล่า"
จะอนุญาตมั้ย?
ครูต้อ : "ลำพังตัวเราเองตัดสินใจไม่ได้ ต้องปรึกษากันว่าจะมีความเห็นยังไง เราไม่ใช่คนเดียวในวัด ต้องปรึกษากัน ว่าอันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะ แต่ก็เห็นด้วยกับทนาย เสื้อมีตราของท่านอยู่ เมื่อเก่าไปแล้ว เอาไปทิ้งขว้างเหยียบย่ำก็ไม่เหมาะแน่ๆ เมื่อก่อนวัดก็เคยคิดจะทำเหมือนกัน แต่คิดว่าถ้าเขาเลิกใช้แล้วเอาไปเช็ดเท้าทำผ้าขี้ริ้ว มันกระทบกระเทือนกับความรู้สึกเรามั้ย เราคิดตรงนี้"
ถ้าแบรนด์สุพรีม จะเดินหน้าผลิตเสื้อรุ่นนี้ แต่ขอแบ่งรายได้บางส่วนให้วัด คิดยังไง?
ครูต้อ : "ผมเองยังมองว่าความเลื่อมใสศรัทธาศิษยานุศิษย์ต้องมาเป็นที่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องรายได้"