xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายตั้ม" เผยครั้งแรก เรื่องที่น้อยใจ หลังเข้ามาทำคดี "ลุงพล" แจงทุกปม หิวแสง - ขัดแย้งตร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทนายตั้ม" ยอมรับกลัวเงิบ ไม่รับปากทำคดีให้ "ลุงพล" เปิดใจทุกดรามาที่คนสงสัย หิวเงิน-หิวแสง-ขัดแย้งตร. เผยเรื่องสุดน้อยใจ

รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.40 น. ทางเนชั่น ทีวี ช่อง 22  "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" สัมภาษณ์ "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" สารพัดดราม่า หลังเข้ามาทำคดีให้ "ลุงพล"

ไปลงพื้นที่ทำไม?
"เริ่มแรก ทางลุงพลซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาโดยตลอด เขาก็มีความกังวลใจ เพราะตอนนั้นทางสื่อหรือตร.ให้ข่าวว่าจะมีการออกหมายจับ เขาเลยอยากหาที่ปรึกษาทางกฎหมาย เขาเลยประสานมาที่ผม ขอให้ผมเป็นทนายให้ ผมเลยบอกว่าก่อนเป็นทนาย ผมต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีให้ดีก่อน ผมไม่เคยรับคดีมั่วซั่ว ผมมีเงื่อนไข 3 ข้อถ้าจะเป็นทนายให้ลุงพล หนึ่งต้องคุยกับลุงพล ป้าแต๋น ต้องตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้โกหกผม"

เราจะรู้เหรอว่าเขาโกหกหรือไม่โกหก?
"ผมเป็นทนายมา 20 ปีแล้วครับ เรามีวิธีคุย"

ข้อสอง?
"ต้องดูที่เกิดเหตุ บนภูเหล็กไฟ ว่าทางเป็นยังไงบ้าง พยานหลักฐานมันหายไปหมดแล้ว แต่ที่เราไปดู ไปดูความลาดชัน ความเป็นไปได้ที่ผู้ใหญ่หรือเด็กเดิน มันจะขึ้นไปได้ พอผมได้เห็นด้วยตาตัวเอง ถึงรู้ว่ามันยากมาก และลาดชัน เกินเด็กจะเดินขึ้นไปได้ด้วยตัวเอง"

ข้อที่สาม?
"ต้องคุยพยานแวดล้อม ที่เกี่ยวกับไทม์ไลน์ลุงพล ลุงพลป้าแต๋นเล่าแล้ว เราต้องคุยกับพยานด้วย ว่าเรื่องที่สองคนนี้เล่าตรงกับพยานปากอื่นมั้ย ถ้าไม่ตรงต้องดูว่าเรื่องสำคัญแค่ไหน ถ้าสำคัญอันนี้อาจมีความตั้งใจโกหกของใครบางคน แต่ถ้าไม่สำคัญก็อาจเป็นเรื่องความจำว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เขาอาจจำไม่ได้ก็ได้"

พอขึ้นไปบนภูแล้ว ได้ข้อมูลอะไรบ้าง ที่เป็นประโยชน์กับการทำงาน?
"ทีมงานผมเก็บภาพทั้งจุดที่พบรถแม็คโคก่อนขึ้นชั้นบน ข้างบนก็เจอจุดที่พบกางเกงน้องชมพู่ จุดพบศพน้องชมพู่ จุดแหวนไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้เลยไม่ได้ไป จุดพบรถแม็คโคตอนแรกก็ให้ความสำคัญ ว่าหรือน้องจะเอาขึ้นมา ถ้าน้องเอาขึ้นมาตรงนั้นอาจไม่ใช่ตัวผู้ร้ายแล้ว ตอนแรกผมคิดแบบนี้ แต่พอหลังจากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป แฟนคลับลุงพล หรือแฟนคลับของผมก็ดีที่ตามคดีนี้มา ก็ให้ข้อมูลว่ารถคันนี้อยู่ในวันเกิดเหตุตอนเช้ามีคนเห็นอยู่แถวบ้านน้องชมพู่ น้องเล่นอยู่ คาดว่าจะมีคนเอาขึ้นไปภายหลัง ผมเลยไม่ได้สนใจประเด็นนี้ ไปดูจุดที่น้องเสียชีวิตซะมากกว่า"

ทำไมไม่สนใจเรื่องแหวน?
"ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับคดี และมันเจอไกลจากจุดเกิดเหตุเยอะเลย แหวนมันมาตอนไหนก็ไม่รู้ แหวนใครก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดูจากสื่อ แหวนวงนี้คงไม่เกี่ยวกับลุงพล"

ได้คุยกับลุงพลป้าแต๋นแล้ว คุยกับพยานแวดล้อมแล้ว ข้อมูลที่ตรงกันมีมั้ย?
"มีที่ตรง หลักๆ คือลุงพลทำอะไรบ้างนี่ตรง แต่ที่ต่างกัน จะเป็นเรื่องระยะเวลา คนต่างจังหวัดเขาไม่ได้ดูนาฬิกา ถ้าให้รู้เวลาแน่ชัด ผมว่าไม่ต้องไปถามเวลาหรอกเก้าโมงสิบโมง ผมว่าเขาจำเวลาไม่เป๊ะ ให้ไปสอบว่าดูรายการอะไรอยู่แล้วเห็นลุงพลมาเช็กกับสถานีจะรู้ระยะเวลา ผมว่าชัดกว่าใช้ความจำของคน ผมไม่รู้เจ้าหน้าที่เขาทำตรงนี้หรือเปล่า ถ้าเขาไม่ทำก็ขออนุญาตเสนอแนะที่รายการนี้ ที่แรก"

มีอะไรมั้ยที่ไม่ตรงกัน แต่ยังไม่อยากพูด?
"สำหรับตัวลุงพล ยังไม่เจอพิรุธอะไรที่ทำให้คิดว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตน้องชมพู่ เหมือนชาวบ้านธรรมดา ยิ่งป้าแต๋นยิ่งซื่อๆ เลย ผมเรียกสอบทีละคน ลุงพลใช้เวลาสอบนานกว่าคนอื่น เพราะดีเทลเขาเยอะ แต่ป้าแต๋นใช้เวลาครึ่งชม. จุดเกาะเกี่ยวเจอตรงไหน เจอพยานตรงไหน นี่คือไทม์ไลน์สำคัญในช่วงเวลาที่หายไป ส่วนลุงพลไปสัมผัสพยานอื่นในช่วงเวลานี้ บางปากยังไม่ได้คุยกันว่าจะตรงกับลุงพลมั้ย ต้องคุยเพิ่ม"

ที่คุยกับลุงพลมา เชื่อลุงพลกี่เปอร์เซ็นต์?
"เอาเป็นว่าเปอร์เซ็นต์สูง อย่าเอาเป็นตัวเลข"

เรื่องคุยกับแม่น้องชมพู่ ได้คุยหรือยัง?
"เรื่องนี้แค่พูดกับสื่อเปรยๆ พอสื่อจี้มาถามผม ว่าแม่น้องชมพู่จะคุยมั้ย ถ้าเขายินดีจะคุยกับผม ผมก็ยินดีจะไปคุยด้วย สื่อดันไปเขียนว่าจะเอาแม่น้องชมพู่เป็นพยานสำคัญในการคุย ไม่ใช่เลย มันเกิดจากการถามมา ผมไม่รังเกียจคุย ถ้าเขาไม่รังเกียจผม ผมก็พร้อมคุยกับเขา"

ยินดีไปถาม กับตั้งใจให้เป็นพยานต่างกันเลยนะ?
"ถ้าเขายินดีคุยกับผม ผมก็จะคุยด้วย แต่จะไปแตะคดีมากน้อยเพียงไหนอยู่ที่เขาจะตอบหรือไม่ตอบ แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมอยู่ฝั่งลุงพล แล้วพยายามไปคุยกับแม่น้องชมพู่ ฉะนั้นไม่ต้องเสนอข่าวนี้แล้วนะ ผมไม่ไปคุยดีกว่า"

เมื่อก่อนตั้มเคยบอกว่าน้องชมพู่น่าจะขึ้นไปเองได้ ตอนนี้ฟันธงแล้วขึ้นไปเองไม่ได้ สื่อก็เขียนว่ากลับคำ?
"เอาอย่างนี้ ไปย้อนดูบทสัมภาษณ์ผมเลย ผมไม่เคยบอกว่าน้องน่าจะขึ้นเองได้ เพียงแต่ผมบอกว่าผมไม่เคยตัดประเด็นขึ้นเอง ขอไปดูที่เกิดเหตุก่อน ผมไม่เคยไปฟันธงตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะให้สัมภาษณ์สื่อทางไหนก็แล้วแต่ ผมบอกว่าผมเป็นทนายความที่ต้องดูที่เกิดเหตุ คนนี้บอกว่าไม่สามารถขึ้นได้ ลุงพลบอกว่าไม่สามารถขึ้นได้ ผมก็ยังไม่เชื่อ คุณหมอบอกมีความเป็นไปได้ ผมก็ยังไม่เชื่อ ฉะนั้นผมขอไปดูด้วยตาตัวเอง ไม่เคยฟันธงว่าน้องขึ้นไปได้ด้วยตัวเอง อันนี้มาจากการที่สื่อเสนอข่าว"

เรื่องเส้นผม?
"เส้นผมเนี่ย ถ้าไปที่เกิดเหตุ มีการล้อมไม่ให้คนอื่นเข้าไป มีการเก็บเส้นผมเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันแรกอาจเป็นหลักฐานสำคัญได้ แต่เราพบศพน้องวันที่ 14 แต่เจ้าหน้าที่ไปเก็บหลักฐานวันที่ 15 ฉะนั้นจะรู้ได้ไงว่าสิ่งแปลกปลอมไม่ได้เข้ามาตอนชาวบ้านไปพบศพ สมมติเจอเส้นผมมาเอาไปตรวจ มันบ่งบอกอะไรได้บ้าง ทราบว่าเจ้าหน้าที่ไปตรวจดีเอ็นเอ มันก็ทราบแค่ว่าเส้นผมนี้มาจากทางฝ่ายไหน ทางฝ่ายแม่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของใคร ได้แค่อยู่ฝ่ายไหนเท่านั้นเอง"

"ถ้าเป็นต่างประเทศเขามีวิธีอยู่ ผมอ่านตำราต่างประเทศมา เส้นผมแต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาใช้วิธีตัดเฉียง เอากล้องส่องดูว่าเส้นผมที่พบกับเส้นผมตัวอย่างที่เอามา ตรงกั้นหรือเปล่า ผมไม่ทราบตร.ทำหรือยัง แต่ถ้ายังไม่ทำ ยินดีเอาลุงพล ป้าแต๋น เอาไปตัดเพื่อเปรียบเทียบว่าตรงกับที่พบใกล้ๆ ศพน้องหรือเปล่า"

ยากในการหาตัวคน เนื่องจากว่าการเก็บพยาน อันแรกมีคนอื่นขึ้นไป สองเก็บช้ากว่าวันแรกที่ควรจะเก็บ อีกเรื่อง ที่เขาบอกว่าระยะหลังลุงพลเวลาให้สัมภาษณ์ มักมีดราม่าร้องห่มร้องไห้ สาเหตุเกิดจากอะไร ระยะหลังเซนซิทีฟกับอารมณ์?
"ตอนวันขึ้นเขา ลุงพลร้องไห้ บอกตรงๆ ผมก็งงเหมือนกัน เพราะผมนั่งให้สัมภาษณ์เรื่องน้องชมพู่ ผมก็เอ๊ะ ทำไมลุงพลเงียบไป ลุงพลกำลังเสียใจอยู่ ก็เข้าใจอารมณ์ ถ้าไม่มีใครมาถาม แล้วอยู่ในที่เกิดเหตุน้องชมพู่เสียชีวิตด้วย แล้วพอไปจี้ถาม ก็ตรงกับลึกๆ ในใจแก ก่อนหน้านี้ผมได้คุยกับลุงพล สนิทแค่ไหน ลุงพลบอกว่าเมื่อก่อนลุงพลมีลูก เวลาพาลูกไปกินไอติมในเมือง เขาจะแวะน้องชมพู่กับพี่สาวไปด้วย เพื่อให้ไปกินกัน ทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ เขาสนิทกัน เวลามีอะไร ก็ไปกับป้าแต๋นและพาเด็กๆ ไป เวลานึกถึงก็สะกิดใจเขา"

ไม่เกี่ยวกับคดี แต่คิดถึงหลาน?
"คงเป็นอย่างนั้น เพราะลุงพลได้ไปเห็นศพน้อง ผมไปดูคลิปย้อนหลัง พอมีคนเจอศพน้อง ลุงพลก็อยู่แถวนั้น ลุงพลก็ไปดู และร้องกรี๊ดเสียงดังเลย เสียใจ เคยเห็นหลานในสภาพดีๆ แต่พอไปเห็นเป็นศพ ภาพคงยังติดตาอยู่ แม้ระยะเวลาผ่านมาเกือบปีแล้ว พอกลับไปจุดเดิม มีคนถามจี้เรื่องนี้ๆ เป็นใครก็คงรู้สึกเหมือนกันแหละ สะท้อนใจ"

ตั้มบอกว่าเรื่องน้องชมพู่ถ้ามีการฆาตกรรมจริง ไม่ใช่คนๆ เดียวแน่นอน ต้องมากกว่าหนึ่ง?
"ขึ้นเขายากจริงๆ ถ้าแบกน้องไปคนเดียว ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าน้องเสียชีวิตได้ยังไง ถ้าดูตามผลชันสูตรของแพทย์ เนื้อตัวมีรอยขีดข่วน ไม่ใช่รอยทำร้าย เป็นจากการเดินแล้วโดนกิ่งไม้ เป็นไปได้ว่าตัวอาจไม่ได้ใส่เสื้อไปด้วยหรือเปล่า แล้วก็ขาก็มีรอย ทีนี้แพทย์ชันสูตรมาแล้ว ไม่มีร่องรอยทำร้ายหรือล่วงละเมิดทางแพทย์ ถ้าฆาตกรรมโดยอุดปากไม่ให้หายใจ ตาต้องแดงออกมา แต่ทีนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าใครฆาตกรรม ผมก็เลยคิดว่าเอ๊ะ แล้วจะเอาน้องไปไว้ข้างบนแล้วปล่อยให้ตายเหรอ เพราะเขาไม่ได้เสียชีวิตวันที่ 11 อยู่แล้ว น่าจะเสียชีวิตวันที่ 12-13 เหมือนเอาไปปล่อยไว้หรือเปล่า เพราะร่างกายมีร่องรอยขีดข่วนตามร่างกายเหมือนได้เดินด้วย ขึ้นเขาคนเดียว เป็นผมก็เหนื่อยแฮกแล้ว ถ้าจะแบกน้องขึ้นไป มันก็ลำบากนะ เลยคิดว่าน่าจะมีมากกว่า 1 คน"
ทำไมไม่ฟันธง ว่าจะทำคดีนี้?
"ผมยังตรวจข้อเท็จจริงไม่ครบ ไม่รอบด้าน ทุกคดีที่ทำ ผมไม่อยากเงิบ ขอตรวจสอบทุกด้านก่อน แต่ผมฟังลุงพล ป้าแต๋นแล้ว ต้องฟังคนอื่นด้วย มีอยู่ในใจ แต่เดี๋ยวบอกสื่อที่โน่นที่เขาเล่นอยู่บ่อยๆ จะทำให้ผมทำงานยาก"

ตั้มไปขอความเป็นธรรมกับศาลเรื่องอะไร?
"อาจไม่เคยมีใครทำมาก่อน ปกติตร.ขอหมายจับ จะขอศาลและยื่นพยานหลักฐานไปเลย ผมดูแล้วอาจไม่เป็นธรรม ตัวลุงพล มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน มียูทูบเบอร์ มีชื่อเสียง ถ้าออกหมายมาเขาก็ไปอยู่แล้ว แต่สื่อหรือคนไม่เกี่ยวข้องคดี ออกข่าวว่าเดี๋ยวจะมีหมายจับอย่างโน้นอย่างนี้ ชาวบ้านเขาประสาทเสีย เขาอยากอยู่อย่างสงบสุข ตร.มุ่งเป้ามาที่ใคร เราก็ทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากศาล หากมีการออกหมายจับจริงๆ ให้มีการไต่สวนก่อนว่า ลุงพลมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน มีพยานหลักฐานพอ มีที่อยู่แน่นอน ไม่ต้องมีหมายเรียกแค่โทรตามลุงพลก็ไปแล้ว"

คนเขากล่าวหาว่าตั้มกลัวหวยออกที่ลุงพลหรือเปล่า ถึงทำแบบนี้?
"จริงๆ หวยออกที่ลุงจรูญไปแล้วนะครับ (หัวเราะ) หวย 30 ล้านออกไปแล้ว ไม่ว่าสื่อหรือชาวบ้านติดตามรู้อยู่แล้วว่าพุ่งเป้าไปที่ใคร ถ้าจะออกหมายจับที่ใครก็คงเป็นลุงพล เพราะตัวพนักงานที่เกี่ยวข้องคดี ก็มุ่งมาทางนี้อยู่แล้ว ที่เราทำไป ไม่ได้ทำให้ลุงพลเสียประโยชน์ยังไงเลย มีแต่ดีซะด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยโอเคให้ศาลเห็น ให้คิดสักหน่อย หรือตร.ก่อนไปออกหมายจับใคร ให้มีหลักฐานที่มั่นคง คือเราโต้แย้งอยู่"

คนบอกว่าร้อนตัว?
"จะร้อนตัวทำไม ผมไม่ได้โดนหมายจับเองสักหน่อย ผมทำเท่าที่ผมทำได้เท่านั้นเอง"

จริงมั้ยวันที่ 14 ก.พ.จะออกหมายจับใคร?
"ผมว่า 14 แค่วันวาเลนไทน์ คงไม่มีไปจับใครหรอก วันแห่งความรักอย่างเดียว ตร.คงไม่มอบความรักวาเลนไทน์ให้ลุงพลหรอก เรื่องบอกหมายจับออก 14-15 มันเกิดจากการเต้าข่าวคนไม่เกี่ยวข้องคดี ตร.อาจใช้หลักจิตวิทยาปล่อยข่าวให้คนๆ นึงออกมาเงิบก็ได้ โดยตร.ไม่ได้พูดเอง เพียงแต่คนๆ นี้เขาพูดเอง ฉะนั้นผมไม่ได้ให้ค่าตั้งแต่วันแรก ไม่ต้องสนใจ เราฟังจากเจ้าหน้าที่อย่างเดียว เพราะตร.รับผิดชอบคำพูดตัวเอง แต่อีกคนเขาไม่ต้องรับผิดชอบคำพูดก็ได้ อีกวันบอกยุทธวิธีกลับไปกลับมา ชาวบ้านไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว"

มีคนบอกว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะได้เงินจากลุงพลเยอะมาก?
"คนที่พูดต้องคิดว่าลุงพลมีเงินเยอะ จริงๆ ลุงพลไม่ได้มีเงินเยอะอย่างที่คิด ช่วงออกอีเวนต์เป็นนายแบบแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วลุงพลไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้ครั้งละ 1 หมื่น กับป้าแต๋น ก็รวม 2 หมื่น"

มีคนหักเหรอ?
"อย่าไปพูดอย่างนั้นดีกว่า เดี๋ยวจะก้าวล่วงคนอื่น บางเรื่องได้เยอะ แต่ส่วนมากจะได้ระดับนี้ ผมถามว่าพอเหรอ ลุงพลบอกว่าเมื่อก่อนได้วันละ 300 วันนี้ได้หมื่นนึง สำหรับเขาก็พอใจแล้ว ที่บอกว่าผมอยากได้เงินคดีนี้ ผมมีลูกความเป็นเศรษฐีพร้อมจ้างผมแพงๆ เยอะแยะมากมาย ผมไปเอาทางนั้นดีกว่า ไม่จำเป็นต้องมาขูดเลือดกับปู เพราะลุงพลไม่ได้มีเงินเยอะ เป็นทนายจะเรียกเงินใคร ต้องดูศักยภาพของเขา อย่างลุงพลไปเรียกเงิน 5-6 แสน เขาจะไหวเหรอ ตอนนี้งานแบบนั้นเขาดร็อปลงไปแล้ว เขาก็ต้องเก็บไว้ให้ลูกเมียใช้ มันต้องดูศักยภาพลูกความด้วย"

ลุงพลกำลังดัง ตั้มเลยไปเกาะกระแส ทำไมไปสืบอะไร ไม่ไปเงียบๆ ทำไมต้องให้สื่อรู้ ต้องการกระแสจากการมาทำให้ลุงพลหรือเปล่า?
"ลุงพลประสานผมมาหลายครั้ง แต่ผมไม่เคยไปเลย คนเกาะกระแสต้องลูกความไม่ได้เรียกร้อง แต่บอกว่ามาหาเขาได้เลย เหมือนทนายคนนึงที่ออกมาว่าผมบ่อยๆ คนนี้ตอนแรกเสนอตัวให้ลุงพล แต่ลุงพลไม่เอา ลูกความรีเควสมา แล้วเรียกว่าผมเกาะกระแสหรือเปล่า"

เขาต้องการเรา ไม่ได้เกาะกระแส ทำไมสื่อต้องรู้ว่าจะไปไหน?
"ผมเป็นคนที่สื่อสนใจ เวลาไปไหนสื่อถามแล้วว่าจะไปไหน ผมทำอะไรผมเปิดเผย แม้แต่ไปหาเจ้าหน้าที่ยังบอกว่าจะไปนะ แล้วผมจะทำอะไรบ้าง หนึ่งสองสามสี่ สื่อก็ตามไปอยู่แล้ว แต่อันไหนเป็นความลับผมก็บอกสื่อตรงๆ ทนายต้องมีเทคนิค ไม่ใช่งุบงิบตลอดเวลา อะไรเปิดเผยได้ก็เปิดเผย อะไรเป็นความลับระหว่างผมกับลุงพลก็เป็นความลับ"

ตามตั้มเพราะเป็นหลัวแห่งชาติหรือเปล่า?
"ถ้าพูดอย่างนี้ คนจะหมั่นไส้ผมเยอะเลย เพราะตอนทำคดีหวย 30 ล้าน คนก็เรียกหลัวแห่งชาติ หนุ่มๆ ก็เกลียดผม หมั่นไส้ ขอเป็นทนายธรรมดาก็พอ เขาเรียกผมหลัวจือ"
เขาว่าล่าสุดไลฟ์ในยูทูปบอกว่าจะไปคุยกับตร.ใหญ่จริงท่านนึง ไปจริงมั้ย?
"ไปจริงครับ ตร.ท่านนี้ก็สนิทกับผมมาก่อนแล้ว เขาก็ให้คำแนะนำเรื่องน้องชมพู่ไม่อยากให้มีปัญหากับทางองค์กรตร. ก็แนะนำมาให้เป็นประโยชน์"

เขามองว่าตั้มขัดแย้งกับตร.เหรอ?
"ใช่ ผมก็บอกว่าเวลาให้สัมภาษณ์ ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ให้ร้ายตร.เลยนะ เขาพูดแบบพี่กับน้องบอกว่ามึงพูดอย่างนั้น แต่สิ่งที่มึงทำเขาไม่ชอบ (หัวเราะ)"
เพราะเจอในสิ่งที่ตร.ไม่เคยเจอ?
"จริงครับ (หัวเราะ) ก็อย่างเรื่องตัดเส้นผมก็อยากแนะนำว่าเขาทำกันแบบนี้ นักสืบสมัยเก่ากับสมัยใหม่แตกต่างกัน นักสืบสมัยนี้จะสืบจากเทคโนโลยี ดีเอ็นเอ กล้องวงจรปิด ทำให้นักสืบลืมวิธีการสืบสมัยเก่าไป แล้วบ้านกกกอก เขาชาวบ้านจริงๆ นักสืบจะไปใช้วิธีแบบสมัยใหม่ มันก็หาไม่ได้ ต้องใช้วิธีลูกทุ่งเหมือนเดิม"

พอเจออะไรมากกว่าเขา เขาเลยหมั่นไส้?
"ตอนนี้เขาเลยพยายามไม่ให้เข้า (หัวเราะ)"

ตั้งข้อแม้ไว้ 3 ข้อ ตอนนี้ที่ไม่รับร้อยเปอร์เซ็นต์คือส่วนไหน?
"พยานครับ ผมได้คุยกับพยานน้อยอยู่ต้องคุยให้รอบด้าน เอาเฉพาะพยานที่แตะในไทม์ไลน์ลุงพล ตอนนี้ยังพอมีเวลาเพราะตร.คงยังไม่แจ้งข้อหาใคร"

เพื่อนๆ ครอบครัว ไม่อยากให้ตั้มยุ่งคดีนี้?
"จริงครับ แม้แต่พิธีกรที่สนิทกันเขายังโทรมาปรามผม คือเขาบอกว่าผมอยู่เฉยๆ ก็ได้แล้ว มีชื่อเสียงแล้ว ผมไม่ได้กลัวคดีที่มีกระแส เพราะผมทำตามพยานหลักฐาน มีหลักฐานยังไงผมก็ทำ ถ้ามีหลักฐานว่าลุงพลไม่เกี่ยวข้องเรื่องคดี ไม่ต้องพูดเรื่องเงิน ผมก็ทำ ผมสามารถหาเงินเยอะๆ ได้ในคดีอื่น เอาเป็นว่าผมถูกโฉลกกัน ใครว่าอะไรยังไงไม่มีผล เพราะผมทำตามพยานหลักฐาน"

เหมือนตั้มกำลังสร้างความดังให้ตัวเอง ถ้าวัยรุ่นเรียกว่าวิ่งหาแสง?
"คนรู้จักผมทั้งประเทศแล้ว ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นให้อยู่ในแสง ไม่ต้องเป็นคดีดัง คนก็วิ่งเข้าหาเยอะแล้ว"

เขาว่าลุงพลพูดไม่ค่อยตรงกัน?
"ผมไปออกรายการนึง เขาก็พูดถึงประเด็นตรงนี้มาว่าพูดไม่ตรงกัน อย่างลุงพลรู้ว่าน้องชมพู่หายไปได้ยังไง ตอนแรกบอกว่าเมียโทรมาบอก อีกอันสะดิ้งเดินมาบอก ผมจะบอกว่าสองอันนี้ไม่ได้ขัดแย้งกันเลย เพียงแต่จะหยิบเหตุการณ์ไหนมาพูดก่อนแค่นั้นเอง มันเป็นธรรมดาของชาวบ้าน เขาไม่รู้พ้อยท์ของเรื่อง แต่ท้ายที่สุดความเข้าใจเขา สะดิ้งบอก ไม่ได้บอกกับตัว สะดิ้งบอกคือสะดิ้งบอกป้าแต๋น แล้วป้าแต๋นบอกเขา มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ที่จะมาจับผิดว่าเขาพูดเท็จ เรื่องนี้สำคัญที่สุดคือไทม์ไลน์ระยะเวลา คือตร.เขาทำมานานแล้วล่ะเรื่องไทม์ไลน์ ถึงแม้วันนี้ พรุ่งนี้ ใครให้การเปลี่ยนไปเรื่องไทม์ไลน์ มันไม่มีผลแล้ว เพราะคดีผ่านมา 8-9 เดือน ศาลจะฟังจากเหตุการณ์ที่ใกล้ชิดที่สุด ถึงแม้เวลาต่างกัน 10-20 นาที ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะคนต่างจังหวัดไม่ได้ดูนาฬิกาอยู่แล้ว"

เห็นว่าน้อยใจหลายเรื่อง?
"ผมน้อยใจว่าการไปทำคดีๆ นึง อุปสรรคมันเยอะมาก ผมพูดถึงความไม่เท่าเทียม คนอื่นเข้าไปพื้นที่ ฝ่ายปกครองไม่เคยมีปัญหาเลย แม้จะเข้าไปพื้นที่เสี่ยง แต่ตัวผมจะเข้าไปครั้งแรก ผมมาจากพื้่นที่เสี่ยง แต่ผมมีการประสานกับฝ่ายปกครองมาตลอด ตรวจให้แล้ว ซื้อตั๋วเรียบร้อย แต่พอไปถึงบอกไม่ได้ ต้องกักตัว พอจะขึ้นภูเหล็กไฟ ก็มีใครไม่รู้ขึ้นไปก่อน แล้วหาว่าจะดำเนินการพวกผมในการขึ้นไปไม่ขออนุญาต งั้นผมก็ขอเลื่อน เอาให้เป็นกิจลักษณะ ทำไมทนายตั้มน่ารังเกียจเหรอ อุปสรรคเยอะ แต่คนอื่นสบายเลย"





กำลังโหลดความคิดเห็น