“ออฟฟี่ แม็กซิม” นับ 1 ใหม่อีกครั้ง ตั้งหน้าตั้งตาสวดมนต์ใส่บาตรทุกวันรักษาศีล 5 เตรียมไปบวช วางแผนขายของตลาดนัด ปลงได้แล้ว โง่มากเคยฆ่าตัวตาย ยันไม่เคยอมเงินบริจาค ไม่ได้ติดยา เผยมีแฟนใหม่แล้วเป็นไบโพล่าร์เหมือนกัน
เป็นประเด็นโด่งดัง หลังจากที่เจ้าแม่แห่งวงการโลกออนไลน์ “ออฟฟี่ อรพรรณ ด่านศิริวัฒนกุล” หรือ “ออฟฟี่ แม๊กซิม” ออกมาตีแผ่เรื่องราวของตนเองในเฟซบุ๊กเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ จากการที่ตนหลงระเริงชั่ววูบ ดูถูก ว่าร้ายเพื่อนจนเพื่อนเลิกคบ งานหาย มีชู้จนครอบครัวพัง ธุรกิจล้มละลาย ไม่มีเงินผ่อนบ้านราคา 100 ล้านต่อ ต้องกู้เงินมาเลี้ยงลูกน้อง นำไปสู่ชีวิตที่ล้มเหลว
จนคนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ออฟฟี่ แม็กซิม ไม่สามารถออกสื่อได้ ด้วยสภาพจิตใจและร่างกายที่ป่วยถึง4 โรค คือ ไบโพล่าร์ ซึมเศร้า ไทรอยด์ ธาลัสซีเมีย จึงทำให้ ออฟฟี่ คิดฆ่าตัวตายมาแล้วถึง2 ครั้ง และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับออฟฟี่ แม็กซิมอาจจะเป็นเวรกรรมที่เจ้าตัวเคยอมเงินบริจาคก็เป็นได้
ล่าสุด ออฟฟี่ แม็กซิม ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงกระแสต่างๆที่ได้รับหลังจากที่ตนได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของตัวเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ โดยเจ้าตัวเผยว่าขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ตน
“ตอนนี้ก็ดีขึ้น เริ่มมีคนมาช่วยเหลือ มีผู้ใหญ่ใจดีมาให้งาน พวกงานรีวิว งานแชร์ ตั้งแต่ที่โพสต์ลงเป็นอุทาหรณ์ไปกำลังใจออฟเปี่ยมมาก สำหรับคนที่ให้กำลังใจคุณรู้ไหมว่าคุณได้ทำบุญครั้งใหญ่ มันทำให้ออฟดีขึ้นมากๆ มันสำคัญกับออฟมากๆ อ่านแล้วรู้สึกคิดบวก มีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น อยากจะทำให้ตัวเองดีขึ้นกว่าเดิม มันคือกำลังใจที่ดีมากๆ บางคนมาเมนต์ว่าเมื่อก่อนเกลียดเรา พอมาเห็นอย่างนี้แล้วสงสาร จะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วก็สู้ๆนะ คนเราเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เชื่อว่าเธอเก่ง อ่านแล้วมันเข้าไปในใจเลย ด้วยเราเป็นคนที่คิดมากอยู่แล้ว เจออะไรกระทบจิตใจเข้าหน่อยมันก็คิดมากแล้ว”
โต้อมเงินบริจาค เวรกรรมทำให้ชีวิตล้มเหลว
“ไม่นะคะ เรื่องนี้ไม่จริงเลย เป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่ใช่ประเด็นนี้ เรื่องทั้งหมดมันเป็นผลจากการกระทำของเราเอง ที่เราเคยเอาแต่ใจตัวเอง ขี้วีน ขี้เหวี่ยง ไม่นึกถึงจิตใจคนอื่น เป็นคนเจ้าชู้ เรื่องแก้ผ้าในบ่อนก็ไม่มี งงเหมือนกันว่าทำไมมันถึงออกไปเป็นแบบนั้น เราก็ไม่อยากจะพูดอะไรที่เป็นการไปซ้ำกับเรื่องเดิมๆ ก็ปล่อยไป ไม่อยากจะไปจองเวรจองกรรม ต่อความยาวสาวความยืด”
ไม่ได้ติดยาเสพติดและยานอนหลับ
“ไม่ได้ติดยานอนหลับด้วย ตอนนั้นให้หมอฉีดยานอนหลับให้เพราะไม่อยากจะรับรู้อะไร เลยขอกินยานอนหลับ ไม่ได้ติดยานอนหลับ ไม่ได้ติดยาเสพติด”
เผยหลังจากคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว2ครั้ง ตอนนี้ไม่อยากตายอีกแล้ว
“เรื่องเริ่มจากที่โดนบูลลี่เลย คือเข้าไปอ่านคอมเมนต์แล้วเห็นว่าโดนด่าเยอะ ก็คิดมาก เห็นยานอนหลับอยู่ข้างตัวก็เลยกรอกเข้าไปหมด ความรู้สึกตอนนั้นคือไม่อยากจะอยู่แล้ว อยากจะหลับไปเลย ก็ล้างท้องทัน จากนั้นก็ไปบำบัดอาการซึมเศร้ากับไบโพล่าร์ ไม่ถึงเดือน พอดีขึ้นก็ออกมา ต้องบอกว่าอาการของโรคมันไม่หายไป เป็นแล้วมันก็เป็นตลอดชีวิต ออกมาได้ไม่นานเลยแล้วก็อยากฆ่าตัวตายอีก รอบที่ 2 เกิดจากไม่มีงาน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น อยากจะตายอย่างเดียว ทำไปก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ทุกอย่างมันชาไปหมด"
"จากที่เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง ตอนนี้ไม่อยากตายแล้ว พอแล้ว อยากจะมีชีวิตอยู่ ก็คิดถึงหน้าลูก หน้าพ่อหน้าแม่ ออฟรู้แล้วว่าอะไรที่ออฟควรจะโฟกัส คือพ่อแม่ที่ยังต้องดูแลเขาอยู่ และลูกๆทั้ง3คนที่เขาไม่รู้อะไรด้วย ออฟก็จะพยายามรวบรวมหัวสมองตัวเองให้มีสติ และนำพาชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น เรื่องโรคภัยต่างๆคุยกับหมอแล้วมันไม่หาย เราก็คงต้องทำใจอยู่กับมัน ก็กินยาควบคุมอาการไป”
ตอนนี้มีแฟนใหม่แล้ว คิดได้เลิกเจ้าชู้แล้ว
“ตอนนี้ก็มีแฟนอยู่ ก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องเจ้าชู้อะไรแล้ว คนรอบข้างออฟเข้าใจโรคที่ออฟเป็นอยู่ว่าเดี๋ยวมันก็ดี เดี๋ยวมันก็ร้าย สลับไป คนนี้เขาก็เป็นไบโพล่าร์เหมือนกันเลยเข้าใจกัน แต่ตอนนี้อารมณ์ออฟก็เริ่มเย็นลงแล้ว เป็นคนช้าๆ เพราะยาที่รักษาจะทำให้เราเป็นคนที่ช้าลง สงบนิ่งมากขึ้น ไม่กระวนกระวาย ไม่เสียงดัง ไม่ฟาด ไม่เหวี่ยงใคร คือที่ผ่านมาออฟเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ น้ำในสมองไม่เท่ากัน เคมีในสมองมันผิดปกติ มันก็เลยนำพาไปสู่โรคที่เป็น”
จากนี้ไป ขอตั้งหน้าตั้งตาทำงาน รักษาศีล 5 เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม
“ตอนนี้คือหาแต่เงิน ทำแต่งานแล้ว คือปลงชีวิต หลังจากนี้ชีวิตตั้งใจรักษาศีล 5 สวดมนต์ไหว้พระ จริงๆ เรื่องนี้ออฟทำมาตลอดนะ แต่ช่วงหลงระเริงก็ทำน้อย ตอนนี้มีสติแล้วก็กลับมาทำทุกวัน สวดมนต์ ใส่บาตร นี่ก็กำลังจะหาเวลาไปบวชอยู่
ออฟไม่ได้คิดถึงเรื่องเงิน เรื่องชีวิตที่เคยมี เคยดัง ตอนนี้ไม่คิดถึงตรงนั้นเลย ตอนนี้คิดแต่ว่าเราต้องเริ่มใหม่ ทำชีวิตตัวเองให้ดี ไม่ได้เสียดายสิ่งที่ผ่านมา เพราะปลงหมดแล้ว"
ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความเหลวแหลกของตัวเอง เพราะอยากให้ทุกคนนำเอาไปเป็นประสบการณ์
"แล้วเหตุผลของการมาโพสต์เพราะอยากให้ทุกคนเอาชีวิตของออฟมาเป็นบทเรียน การใช้ชีวิตประมาท สิ้นคิด ไม่คิดหน้าคิดหลัง พูดอะไรไม่คิด ไม่รักษาน้ำใจคนอื่น ไม่ให้เกียรติคนอื่น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก หมุนรอบตัวเอง มันจะทำให้อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้ยาก ตอนนี้ก็พยายามปรับปรุงตัวและต่อสู้กับโรคไปด้วย มันก็ยากมากสำหรับคนป่วย ไหนจะต้องหาเงินเลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัว"
ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว เป็นการกระทำที่โง่
"แล้วการที่ออฟบอกว่า ออฟล้มละลายมันหมายถึงการล้มเหลวในชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าออฟไม่มีเงินเลย คนที่ลำบากกว่าออฟมีอีกเยอะ แต่ออฟแค่อยากจะมาเผยแพร่ว่า ตัวออฟเคยอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้วลงมาต่ำสุดมันเป็นยังไง ตอนนี้ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต ฉะนั้นออฟรู้แล้วว่า ออฟตายไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกผิดมากที่คิดสั้นฆ่าตัวตาย มันเป็นการกระทำที่โง่มากๆ มันไม่ควรมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกับทุกคนเลย แล้วเราเป็นแม่คนด้วย ตอนนั้นเราไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ได้คิดถึงลูกเลย แต่ตอนนี้เราคิดได้แล้ว เราหันมาใส่ใจลูกมากขึ้น ถึงการเป็นแบบนี้มันจะทำให้เราเลี้ยงลูกได้ยาก แต่เราก็จะพยายามเข้ากับลูกให้ได้มากที่สุด อะไรๆ ก็คิดถึงหน้าลูก หน้าพ่อหน้าแม่เข้าไว้ ใช้ธรรมะมาบำบัดตัวเอง”
ดิ่งเมื่อไหร่คิดถึงหน้าลูก
“เรื่องนี้ออฟไม่ทิ้งแน่นอน เจ้าของแบรนด์โอนเงินมาออฟก็ช่วยคนในเฟซตลอด ออฟรู้แล้วว่า ความจน การไม่มี มันลำบาก เราเคยติดลบมาก่อน วันนี้เรารู้สึกว่าช่างมันเถอะ อย่างน้อยเราก็ยังมีชีวิตอยู่ เรายังได้เลี้ยงลูก ลูกยังอยู่กับเรา ตอนนี้ลูกเป็นกำลังใจสำคัญที่สุดทำให้ออฟดำเนินชีวิตได้โอเคขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น ไม่คิดลบ ถ้าออฟคิดลบเมื่อไหร่อาการเหล่านั้นมันจะกลับมาทันที พอจะเริ่มดิ่งก็จะคิดถึงหน้าลูก ทุกอย่างก็จะดีขึ้น เราเป็นคนคิดมากแล้วก็คิดลึกด้วย มันเลยจะดิ่งง่าย"
เริ่มต้นอาชีพใหม่ขายของในตลาดนัด
“ตอนนี้เหมือนชีวิตเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ ต้องดึงสมองและสติตัวเองกลับมาเพื่อทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น เราเป็นหัวหน้าครอบครัว เรามีค่าใช้จ่ายเยอะ จากที่เคยใช้เงินวันละเป็นแสน ไม่คิดอะไร ตอนนี้คิดเยอะ ประหยัดอะไรได้ก็ประหยัด ซึ่งมันก็มีความสุขในชีวิตมากขึ้นนะคะ มีความสุขที่เราทำได้ ตอนนี้มีโปรเจ็กต์จะไปขายของที่ตลาดนัด ขายเสื้อผ้า หาอาชีพเสริม ชีวิตออฟโลดโผนมาแล้วทุกรูปแบบ ครั้งนี้ออฟอยากจะทำให้มันดีมากขึ้น จะเอาทุกอย่างที่ผ่านมามาเป็นบทเรียน รู้สึกว่ามันต้องดีขึ้นแน่ๆ ถ้าเรามีสติ เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ รู้จักคำว่าไม่เป็นไร ปล่อยวาง ไม่ต้องเป๊ะไปเสียทุกอย่าง”
เข้าใจเพื่อนๆ เกลียด
“บางคนเขาเกลียดออฟไปเลยก็มีนะ แต่ออฟก็เข้าใจเขามากๆ ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจนะ ออฟก็รักพวกเขาทุกคนแหละ แต่ด้วยอารมณ์ของเราที่ควบคุมไม่ได้ บางคนถึงกับเอ่ยปากอย่าให้ออฟมาเจอนะเพราะมันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ออฟฟังแล้วออฟก็เสียใจ แต่ก็เข้าใจเขา เราลองไปนั่งในใจเขาดูว่า ถ้าเราเจอคนแบบนั้นเราจะทำตัวแบบไหน เรานี่ต้องด่ากลับแน่ๆ แต่เขาไม่ได้ด่าเรา เขาเก็บอาการไว้แล้วบอกคนอื่นว่า ต้องอย่างนี้ๆ นะ อย่าชวนมานะ ถ้าจะมาก็ต้องให้มันตั้งสติเยอะๆ บางทีออฟก็พูดเลยนะว่าหนูกินยาแล้วค่ะ ไปหาได้ ก็ได้ออกไปเจอเพื่อนๆ บ้าง แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเราอยากอยู่คนเดียวมากกว่า เก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร เอาแต่งานที่เราจะทำอย่างเดียว”
