“นิว วงศกร” เผยไลน์ “นาว ทิสานาฎ” มีแต่ฉากเลิฟซีน ส่งให้ดูกันไปมา ยันให้เห็นจากตนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย พร้อมถอดเสื้อผ้าตลอด ไม่มีลิมิต ตามใจผู้กำกับ
หลังๆ มานี้ละครของพระเอกหนุ่ม “นิว วงศกร ปรมัตถากร” มักจะเรียกเรตติ้งจากสาวน้อย สาวใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพราะขยันถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็กแทบจะทุกเรื่อง เจ้าตัวก็เผยว่าทำให้ตนต้องหมั่นดูแลตัวเองอยู่เสมอ แต่บางทีก็ต้องมีใช้มุมกล้องเพื่อให้เกิดจินตนาการบ้าง
“เรื่องนี้ถอดกางเกง (หัวเราะ) พูดเล่นครับ ไม่ได้ถอดเยอะ ก็ต้องพร้อมตลอด การ์ดอย่าตก (ยิ้ม) ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายครับ พยายามไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ผมมีช่วงหนึ่งที่หยุดเล่นไปนานแล้วกลับมา ก็จะขี้เกียจ เราก็พยายามรักษาไว้ถึงแม้ไม่ได้ออกกำลังกายก็พยายามคุมอาหารเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่ได้เคร่งขนาดนั้น แต่โชคดีที่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย เรื่องอาหารไม่ได้คุมว่าต้องกินหรือไม่กินอะไร แค่คุมเวลาในการกิน
ถามว่าถอดแต่ละเรื่องผู้กำกับรีเควสยังไง ในละคร มุมกล้องชวนให้เราใช้จินตนาการ แต่เวลาถ่ายจริงๆ จะมีทีมงาน มีบล็อกช็อตที่รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรแค่ไหน กล้องเห็นแค่ไหน แต่ในละครที่ออนจะมีมุมกล้องให้เห็นเหมือนไม่ใส่อะไรเลย หุ่นเราต้องแต่งให้ชัดเพิ่มไหมเหรอ ไม่ๆ ได้แค่ไหนแค่นั้น มันขึ้นอยู่กับคาแร็กเตอร์ของตัวละครด้วย อย่างเรื่องนี้เป็นอาจารย์ ก็ไม่จำเป็นต้องชัดมาก แค่ดูรักษาสุขภาพ แข็งแรง เท่าที่ถ่ายมา 5 ตอนมีเลิฟซีนน้อย เราก็สบายใจ แต่มันจะไปหนักดราม่า อารมณ์ละคร”
ส่งฉากเลิฟซีนให้ “นาว ทิสานาฏ ศรศึก” ดูก่อนตลอด
“เรื่องที่ผ่านมากับผู้หญิง 5 คน ก็เลิฟซีนหนัก ในเนื้อละครมันดูเยอะ แต่จริงๆ มันน้อยมาก ในบทมันมาเยอะ แต่ผู้กำกับก็ช่วย ด้วยความที่นักแสดงหลายคนอาจจะไม่สบายใจ ไม่กล้า สมมติ ในบทมันจะมีบางซีนที่เอาไวน์ราดบนตัวแล้วเอาลิ้นไปเลีย แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้มันก็จะมีการปรับให้เข้ากับบ้านเรามากขึ้น นักแสดงก็สบายใจมากขึ้น สมมติจูบ จูบจริงแค่ 3 วิ แล้วเปลี่ยนไปใช้มุมกล้องเอา ตอนที่จำเป็นที่กล้องเห็น
ถามว่าเรามีลิมิตไหม ก็ไม่ครับ จริงๆ เป็นเรื่องของผู้กำกับ เขามาแค่ไหนก็ได้แค่นั้น แล้วก็มีเรื่องของความเหมาะสมที่ผู้กำกับมีในใจ เรามีหน้าที่ถ่ายทอดความต้องการของผู้กำกับครับ เวลามีเลิฟซีนหนักนาวเขาไม่เคยห้ามผมนะ ถ้าจะเล่นก็ทำให้เต็มที่ ไม่ได้มีลิมิตว่าแค่ไหน แต่เวลาถ่ายฉากเลิฟซีนก็จะส่งไปให้เขาดูก่อน ก็ไม่เชิงให้ตรวจ แต่ให้เขาเห็นจากเราก่อนที่จะไปเห็นตอนออนแอร์หรือว่าไปเห็นจากที่อื่น อย่างนี้เราจะปลอดภัย”
บอกไม่เคยหวงกันและกัน เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของงาน
“เขาหวงบ้างไหมต้องไปถามเขานะ ผมก็อยากให้เขาหวง แต่เขาไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ บอกว่าเต็มที่เลย สำหรับผมถามว่าหวงเขาบ้างไหม เพราะเรื่องแม่เบี้ยต้องโชว์เยอะ ก็ไม่ได้หวงอย่างนั้นหรอกครับ เรารู้อยู่แล้วว่าลิมิตของการถ่ายละครมันแค่ไหน มันไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว และเขาก็โตพอที่จะเปลี่ยนคาแร็กเตอร์หรือพัฒนาบุคลิกของตัวละครที่โตตามวัยเขาได้ ถ้าเล่นแบบนี้ในเวลาที่ไม่ใช่ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะ แต่ตอนนี้เขาโตพอที่จะได้ทดลองทำอะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยทำ
เขาก็มีส่งฉากมาให้เราดูครับ ก็ส่งกันไปส่งกันมา คือ ในกรุ๊ปของเราตอนนี้มีแต่เลิฟซีนทั้งนั้นเลย (หัวเราะ) ถามว่าถ้าต่างคนต่างมาเห็นทีหลังจะมีอาการหรือเปล่า ก็ไม่หรอกครับ เราชอบให้ดูว่าความสามารถของเราที่เราจะเล่น เราสองคนเป็นคนชอบดูซีรีส์ ชอบคิดว่าถ้าเรามีโอกาสเราจะเล่นอย่างนั้นอย่างนี้ เราจะคุยกันเรื่องของการทำงานวิธีการเล่นมากกว่าว่าฉากนี้จะเล่นแบบนี้ แล้วส่งมาให้ดูคอมเมนต์กันมากกว่า”