“อาร์ต” ไม่หวั่นอยู่ในพื้นที่สีแดง เดินหน้าทำข้าวกล่องแจกแรงงานต่างด้าววันละ 300-400 กล่อง ร่วม 40 วัน ลั่นกลัวโควิดแต่อยากทำ ตั้งเป้าทำต่อจนกว่าจะเริ่มกลับมาทำงานปกติ ไม่ให้ค่าคอมเมนต์ชาวเน็ต แต่แคปไว้หมดแล้ว ขู่ระวัง ยึด “แมท ภีรนีย์” เป็นไอดอล แต่พร้อมให้โอกาสกลับตัว
เป็นคนหนึ่งที่ทำข้าวกล่องและนำสิ่งของไปมอบให้คนในพื้นที่สีแดง รวมถึงแรงงานต่างด้าวอยู่ทุกวันในช่วงที่โควิดระบาดระลอกสองในตอนนี้ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าที่ทำอาหารไปแจก เพราะไม่อยากให้เกิดการหนีกระจายกันออกมา แม้จะยอมรับว่าตัวเองก็กลัวติดโรคนี้ แต่ก็มั่นใจว่าป้องกันตัวเองอย่างดี
“ก็ทำตั้งแต่ประมาณวันที่ 21 จนเมื่อวานก็ยังทำอยู่ครับ ประมาณ 40 วันได้แล้ว จุดเริ่มมาตั้งแต่โควิดรอบแรก ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาแจก รู้สึกว่ากรุงเทพฯ ตอนนั้นระบาดหนัก แต่ตอนนี้สมุทรสาครระบาดหนักเราก็เลยลองให้สมุทรสาครก่อน ตอนนี้อย่างที่บอกเหมือนเป็นการทำไปแล้ว เราก็เลยต้องทำต่อเพราะว่าจริงๆ แล้วที่เอาข้าวไปให้พวกคนพม่าคือไม่อยากให้เขาหนีออกมา ให้เขามีกินอยู่ในนั้น บางทีด้วยอุปกรณ์เราครบเราก็เลยบอกแม่ว่า งั้นเราทำอาหารแจกไหม แต่เราทำได้แค่วันละประมาณ 300-400 กล่อง เพราะเราทำกัน 3-4 คนเราไม่ได้ทำกันเยอะ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่มาช่วยเราเขามีไทม์ไลน์อะไรบ้าง เราก็เลยไม่กล้าให้มาช่วย
ถามว่าเราไม่กลัวที่จะไปพื้นที่เสี่ยงตรงนั้นเหรอ จริงๆ โควิดถ้าศึกษาดีๆ มันก็ป้องกัน พูดกันเรื่องการสัมผัส แต่เราไม่ได้สัมผัสและเราก็ไม่ได้ไปพูดกับคนที่เขาอยู่ในนั้นด้วย ถ้าพูดเราก็จะใส่มาสก์ป้องกันตลอด แล้วผมไม่แน่ใจว่ากี่นาทีที่มันอยู่ในอากาศได้ แต่ถ้าอยู่ในน้ำมันก็อาจจะอยู่ได้นาน เราก็ต้องศึกษาก่อนป้องกันคือขึ้นรถมาพกแอลกอฮอล์ พยายามเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่จะติดหรือไม่ติดเป็นอีกเรื่องนึง แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าป้องกันเซฟตัวเองให้ดีๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกับเราด้วย
ถามว่ากลัวไหม กลัวครับ ต้องกลัวอยู่แล้ว มันเป็นโรคติดต่อที่ค่อนข้างแรง แต่อย่างที่บอกถ้ามันแรงกับตัวเองคนเดียวมันโอเค แต่ว่าด้วยการพูดกันแล้วมันเป็นละออง ถ้าสมมุติมีคนหนึ่งเป็น คนในนี้ก็ต้องกักตัวกันหมด นั่นคือความเดือดร้อนของโลกนี้ เราไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเรา ทุกวันนี้ที่อยู่ก็อยู่ในพื้นที่สีแดงครับ ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตลำบากนะครับ เพราะว่าผมแค่ออกจากบ้านไปที่ทำอาหาร เอาไปแจกคน แล้วก็กลับบ้าน ทุกวันนี้ชีวิตมีแค่นี้ พยายามไม่ไปที่คนเยอะๆ”
บอกตั้งใจจะทำไปจนกว่าจะกลับมาทำงานตามปกติ
“ทุกวันนี้เวลาเข้ากรุงเทพฯ มาทำงาน ผมไม่ได้ต้องมีการลงเอกสารอะไรนะ เพราะว่าเรามาทำงาน แต่ถ้าต้องมีเอกสารน่าจะเป็นเกี่ยวกับแรงงานหรือเปล่า เรื่องด่านต้องบอกว่าบางทีโควิดก็ไม่ได้ออกเป็นเวลาเนอะ ก็ถ้าจะตั้งก็ตั้งให้มันตลอด บางทีตั้งแล้วก็หยุดไม่รู้หรอกว่ามันเล็ดรอดไปตอนไหน อันนี้ก็ต้องฝากไว้นิดนึง ไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่นะ เพราะเราก็รู้ว่าตอนนี้เขาทำงานหนัก แต่ก็อย่างที่บอกถ้าจะให้มันจบในคราวเดียวก็ต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวรที่เขาอยู่คอยตรวจ แต่เดี๋ยวประชาชนที่เขาเดินทางไปๆ มาๆ ก็จะบอกว่ารถติดอีก อันนี้ก็ต้องเข้าใจกัน ต่างคนต่างเข้าใจกัน
ข้าวที่ทำแจกทั้งหมดวันละ 300 คูณ 40 วัน แล้วก็มีเครื่องพ่นแอลกอฮอล์อีกประมาณ 60 กว่าเครื่อง ชุด PPE อีก 3,000 กว่า ก็มีคนที่ร่วมช่วยคนไทย ร่วมทำบุญกับเรามา จะทำเพิ่มมากกว่าเดิมไหม มันเพิ่มมากกว่าเดิมไม่ได้แล้ว เพราะว่าการผัดหมู 15 กก. แล้วต้องผัดวันนึง 3-4 กะทะ มันไม่สามารถเพิ่มคนได้ แต่ถ้ามันเป็นสถานการณ์ปกติที่ไม่ได้เป็นโรคระบาด ให้คนมาช่วย วันละ 5 พันกล่องผมก็ทำได้ แต่วันนี้มีคนอยู่แค่ 4-5 คนเท่านั้นเอง
ผมกับแม่เป็นคนเลือกเมนู แต่บางทีก็จะมีคนเอาลูกชิ้นหมูมาให้ ลูกชิ้นปลามาให้ เราก็จะโอเคว่าวันนี้จะทำอะไร โชคดีที่มีเครื่องทำน้ำพริกของแม่ มันมีที่ช่วยผัด 3-4 กะทะ มันก็ยังไม่เหนื่อยมาก ตอนผัดไม่เหนื่อย แต่ตอนใส่กล่องอันนั้นเหนื่อย เพราะใส่กล่องอย่างน้อยมี 2 ชั่วโมง เพราะเราใส่ลงไปหลายอย่าง
วางแผนว่าจะทำไปอีกนานแค่ไหนเหรอ ก็จนกว่าผมจะกลับไปทำงานจริงจัง เพราะตอนนี้ผมก็จะมีเรื่องของฟิตติ้ง ถ้าผมทำงานจริงจังแล้วก็จะให้แม่หรือน้องเข้าไปช่วย มันอาจจะได้ไม่เยอะเท่าเดิม แต่ก็พยายามทำให้นานที่สุด คิดว่าผมน่าจะทำงานจริงจังก็ประมาณกลางเดือนนี้ ตอนนี้ก็ทำกับข้าวประมาณ 300-400 กล่องต่อวัน”
ไม่ให้ค่าคนที่เข้ามาแซะต่อว่าโจมตี บอกแคปข้อความไว้หมดแล้ว
“เวลามีคนมาแซะว่าทำดีสร้างภาพ อย่าไปให้ค่าหรือให้ความสนใจเขาดีกว่า มาขายน้ำพริกมาซื้อน้ำพริกกันดีกว่า มาสนับสนุนกันดีกว่า อย่าไปให้ค่าคนพวกนี้เลย คอมเมนต์ที่ดีๆ เราก็ไม่ได้เข้าไปตอบ เพราะเราให้ค่าเขา แต่คอมเมนต์ที่ไม่ดีเราเข้าไปตอบ เพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ให้ค่าเขา เราเลยตอบแบบนั้น ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยครับกับคนพวกนี้ ผมสู้มา 10 ปีแล้ว
ก็ยังเป็นคนเดิมๆ แหล่งข่าวเดิม ผมทำมา 40 วันไม่มีข่าว แต่พอมีเรื่องอะไรปุ๊บ ลงปั๊บ ผมก็โอเค ไม่ได้ว่าอะไร คือถ้าผมท้อ ผมเลิกทำมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว ไม่อยากพูดอะไรครับ ไม่อยากให้ค่าคนพวกนี้ คนที่ฟังอยู่ถ้าอยากให้กำลังใจก็ไปซื้อน้ำพริกแม่ได้นะครับ มีน้ำพริกหลายอย่างเลยครับ มีหมูทอดด้วย รายได้ส่วนหนึ่งก็จะไปช่วยคน อย่าไปสนใจข่าวพวกนี้เลยไร้สาระ
เรื่องที่โพสต์วันก่อน อย่าไปให้ค่าคนพวกนี้จริงๆ ที่บอกว่าระวังเหงา ก็นั่นแหละ ผมมีแมท (ภีรนีย์ คงไทย) เป็นไอดอล ก็ระวังตัวกันไว้ เท่านั้นเองครับ ผมก็แคปอย่างเดียวครับ แคปไว้หลายอันแล้ว อย่าไปให้ค่าเขา ให้โอกาสหนึ่งครั้ง ถ้ามีอีกหนึ่งครั้งก็เข้ารอบต่อไป เราให้โอกาสกันครับ (ยิ้ม)”