“ตั๊ก บงกช” เผยเมียหลวงแค่บทบาท ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง

“ตั๊ก บงกช” ดี๊ด๊าเล่นละครในรอบหลายปี ชอบบทเมียหลวงแปลกใหม่ แต่ไม่ใช้ในชีวิตจริง ฟุ้ง “เสี่ยบุญชัย” อนุญาต ทั้งที่ไม่ค่อยอยากให้รับงานมาก ลั่นไม่ทิ้งการเกษตรอยู่ อนาคตอยากจะทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกของตัวเอง

กลับมารับละครอีกครั้งพร้อมกับบทเมียหลวงในตำนาน ในละครเรื่อง เมียหลวง ของค่าย เช้นจ์ 2561 สำหรับสาว “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าอยากร่วมงานกับ “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” มานานแล้ว แถมบทยังโดนใจอีกต่างหาก

“จริงๆ อยากจะรับละครตั้งนานแล้วนะคะ แต่ติดภารกิจส่วนตัวนิดหน่อย พอมาเรื่องนี้อ่านบทแล้วก็ชอบ จริงๆ อยากร่วมงานกับพี่ฉอดมานานแล้ว และพอมีเวลาด้วย ก็ได้คุยกับทางครอบครัว ทางคุณบุญชัยก็ตกลงด้วยค่ะ และพี่ฉอดได้คุยกับคุณบุญชัยแล้ว คุณบุญชัยได้ฟังพี่ฉอดเล่าเรื่องให้ฟัง เขาก็เข้าใจและสนับสนุนค่ะ บอกว่าอยากให้เล่น

ที่ตัดสินใจรับ เพราะตั๊กชอบความแปลกใหม่ของบท และชอบความเป็นมนุษย์ของละครเรื่องนี้ ความเป็นมนุษย์ของแต่ละตัวละครค่อนข้างจะมีความจริงที่มีความลึกลับ มีความหวัง คือ ทุกตัวละครมีความเป็นชีวิตจริง ตั๊กชอบ สนุกดี ได้เอาความเป็นเมียหลวงในชีวิตจริงมาผสมผสานไหมเหรอ ไม่มี เพราะว่าจริงๆ การครอบครูก็เป็นแบบนึงของนักแสดงที่ไม่ให้เอาการแสดงไปเล่นในชีวิตจริง ไม่งั้นเราก็จะไม่เจริญเนอะ”

บอกก่อนรับเล่นต้องขออนุญาต “เสี่ยบุญชัย เบญจรงคกุล” สามีก่อน
“ถามว่ากดดันไหม ก็นิดนึง เพราะว่าตั๊กไม่ได้เล่นนานแล้ว ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน จริงๆ ก็มีอ่านบท และต้องพึ่งทางผู้กำกับและทีมงาน (หัวเราะ) ตั๊กเชื่อในทีมนะคะ เรื่องนี้ทั้งทีมเวิร์กและผู้กำกับ ตั๊กได้เห็นผลงานพี่เขา และได้รู้จักผลงานของพี่ฉอดมาหลายเรื่อง ก็รู้สึกว่าเราน่าจะได้รับการเทรนด์ในแต่ละฉากได้ดีค่ะ จริงๆ ก็ถึงเวลาที่ตั๊กอยากจะกลับมา คือพอตั๊กได้มีละครเล่นก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราได้กลับมาดูแลตัวเองอีกรอบนึงด้วย”

ไม่ทิ้งการทำเกษตร
“ก็ยังทำเกษตรอยู่ค่ะ ละครก็จะเป็นจันทร์-พุธ พอพฤหัสบดีก็ไปเรียนเกษตร ละครก็มีเรื่องนี้ค่ะ ยังไม่ได้รับเรื่องอื่น แต่จริงๆ ก็มีละครของพี่ฉอดติดต่อมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้เล่น ถ้าจะรับเพิ่มก็ต้องคุยกับทางครอบครัวค่ะ เพราะคุณบุญชัยไม่ได้อยากให้เล่นละครมากนัก เรื่องลายกินรีจะได้ถ่ายทำต่อไหมเหรอคะ อันนี้ไม่ทราบเลย ต้องถามทางผู้ใหญ่ค่ะ รายละเอียดต้องถามทางกอง”

บอกอนาคตอยากทำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแบรนด์ตัวเอง
“คือตั๊กคิดว่าการเรียนวิชาชีพตั๊กอยากจะเลือกเรียนทางด้านอาหาร การปลูกพืช ไม่ได้อยากไปเรียนเพื่อให้ได้รับใบปริญญานะคะ เพราะยุคนี้ตั๊กว่าการทำอะไรที่เป็นสายอาชีพน่าจะดีกว่า เช่น อาหาร หรือการปลูกผัก ปลูกพืช หรือทำอะไรที่เป็นเล็กๆ ของตัวเอง น่าจะเป็นอาชีพได้มากกว่า อยากจะทำอะไรที่เป็นแบรนด์ของตัวเองส่วนตัว อยากจะลงลึกไปในเรื่องของการสร้างอาหาร แต่สร้างยังไงที่จะทำให้เราได้รู้ลึกรู้จริงว่าดินเป็นยังไง ปลูกอะไรได้บ้าง

พอได้ทำมาแล้วก็รู้สึกว่ายากเหมือนกันนะคะ ยากตรงที่เราอาจจะต้องเจอแดด แต่ที่เรียนการเกษตรไม่ยากนะคะ เพราะว่าจริงๆ คือการคำนวณมากกว่า ว่าดินตรงนี้เราควรปลูกอะไร ใช้อะไร เวลาเก็บผลผลิตมาได้เราก็แฮปปี้ ในอนาคตอาจจะมีสินค้าออร์แกนิกแบรนด์ของตัวเอง ก็เป็นสินค้าที่ปลอดภัยด้วย

ถามว่าปลูกฝังให้กับลูกด้วยไหม คืออยากเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยส่งลูกเข้าไปเรียน จริงๆ ตั๊กเองขอไปเรียนนะคะ อาจจะเรียนสัก 3-4 ปีเลยค่ะ เพราะเราต้องเรียนปลูกผักใบก่อน แล้วก็มีผักลูก ผักยอด และอาจจะเป็นผักขน เกี่ยวกับการปักชำ ตอนกิ่ง หรือการตัดแต่งพุ่มไม้ หรืออาจจะมีผลไม้ หรือผักค่ะ ตั๊กได้ไปเรียนที่ศูนย์ชัยพัฒนาค่ะ ถามว่าเวลาลงมือยากกว่าทฤษฎีไหม ตั๊กว่าลงมือทำเองง่ายกว่าการนั่งเรียน แต่พอลงไปเรียนเอง เราก็ต้องมานั่งสรุป แล้วถึงจะส่งอาจารย์

จะมีทำออกมาเพื่อเป็นความรู้ให้คนที่สนใจไหมเหรอ จริงๆ ตั๊กก็มีเป้าหมาย เหมือนกับพอเราเรียนมา เราก็อยากจะถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ในอนาคตด้วยที่เขาอยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับเกษตรจริงๆ ค่ะ ซึ่งตอนนี้ดินบ้านเราอาจจะต้องได้รับการดูแลมากๆ เลย”

มั่นใจทางโรงเรียนดูแลมาตรการเรื่องโควิด-19 เป็นอย่างดี
“วันนี้เปิดเทอมวันแรกค่ะ ลูกก็อยากไปโรงเรียนมากเลย อยากจะเจอเพื่อน กังวลเรื่องสถานการณ์โควิดไหมเหรอ จริงๆ โรงเรียนของลูกตั๊กเขาก็ค่อนข้างจะมีระยะห่างอยู่แล้วค่ะ และเขาก็มีการตรวจจากกระทรวงอยู่แล้วค่ะว่าควรเปิดไหม ไม่ต้องห่วงอะไรค่ะ ส่วนตัวก็บอกเขาให้ล้างมือบ่อยๆ ให้ใส่มาสก์ เว้นระยะห่างจากเพื่อน ให้ทานน้ำของกระติกของตัวเอง ไม่นั่งพื้น ไม่จับอะไรที่ไม่ควรจับ

เด็กสมัยนี้เขาค่อนข้างเข้าใจนะคะ เตรียมพร้อมค่ะ มีช้อน มีกระบอกน้ำเป็นของตัวเอง มีคนคอยดูแลด้วยค่ะ ครั้งนี้เป็นเทอม 2 แล้วค่ะ ที่ผ่านมาก็จะเป็นการเรียนออนไลน์ คุณแม่ไม่หัวฟูเลย เพราะเด็กชอบคอมพิวเตอร์มากกว่า คือลูกเรียนอยู่บ้านเราก็ต้องเก่งคอมบ์ด้วยไง เราต้องหาว่านั่นอะไร นี่อะไร ทำไมคอนเน็กแล้วไม่เห็น คือเขาก็ต้องทำตามระเบียบค่ะ ถ้าห่วงเขามากไปไม่ให้เขาไปเลย ก็ไม่ได้ ตั๊กเองก็ไว้ใจทางโรงเรียนค่ะ ถามว่าห่วงไหม ก็ห่วงค่ะ แต่ต้องทำใจ เพราะเขาก็ต้องเรียนหนังสือ”