xs
xsm
sm
md
lg

“ได๋ ไดอาน่า” WFH ทำเข้าใจชีวิต แค่มีที่อยู่อาศัย อาหาร คนที่รัก ทำงานได้เงินหลักร้อยก็เอาหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ได๋ ไดอาน่า” เล่าชีวิต work from home ของตนในวันที่ไม่มีอีเวนต์ ปกติเจียดรายได้ 60 เปอร์เซ็นต์ เข้าแบงก์ แต่ตอนนี้ไม่มีรายได้ ไม่อยากใช้เงินเก็บ รับทั้งแปลเอกสาร ทำกราฟิก เอาของรอบตัวมาขาย เพื่อหาเงินใช้จ่ายต่อเดือน เครียดไม่มีงานทำ ต้องทำตัวแบบไม่มีสติ ใช้ชีวิตไปไม่รู้เดือนรู้วัน เข้าใจชีวิตมากขึ้นเพียงแค่มีที่อยู่อาศัย อาหาร คนที่รักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว 

หลังจากโพสต์ขายของที่มีเพื่อเอาเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้เงินเก็บตัวเอง ล่าสุด “ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ” ก็ออกมาเล่าเรื่องราวชีวิต work from home ของตัวเอง ในวันที่ไร้งานอีเวนต์ ในรายการ ไนน์เอ็นเตอร์เทน โดยบอกว่าเดือนนี้เป็นเดือนแรกในชีวิตตั้งแต่ทำงานมาที่ต้องถอนเงินเก็บตัวเองมาใช้ เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายต่อเดือน

ปกติเป็นคนไม่ใช้เงินเก็บ แต่เดือนนี้เป็นเดือนแรกในชีวิตที่ทำงานมา ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในชีวิตมากๆ เพราะจะมีงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เดือนมกราคมที่ผ่านมาไม่มีงานเลยแม้กระทั่งถ่ายรายการ ทำให้เงินสะดุด คือเราไม่มีเงินเดือนเลยเราก็ต้องใช้เงินเก็บ ด้วยนิสัยเราเป็นคนไม่ใช้เงินเก็บ จะใช้เงินที่ได้จากการทำงานในเดือนนั้นๆ เท่านั้น

ในแต่ละเดือนเราจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ คือ ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าประกัน และอื่นๆ ตามแต่ ค่าผู้ช่วย ค่าคนรถ นี่คือค่าใช้จ่ายหลัก แต่พอไม่มีงานเข้ามาเลย อย่างที่ผ่านมาตอนที่เรามีงาน 100% เราแบ่งรายจ่าย 40% และที่เหลือเป็นแบ่งเข้าแบงก์ เดือนนี้ก็คือไม่มีเงินแบ่งเข้าแบงก์ เดือนนี้คือไม่มีเงินเลย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินใช้ เพียงแต่ไม่อยากใช้เงินเก็บ

มองแง่ดี ในวันที่ไม่มีรายได้ มองไปทางไหนยังสามารถหยิบมาขายได้
“เอาแค่ตัวเองโดยที่ไม่ได้มองคนอื่นนะ อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ไม่ว่าเราจะลงทุนในอะไรก็ตาม มันสะดุดหมด คือโดยปกติ ถึงเราไม่ได้จากงานเราก็ยังมีรายได้จากอย่างอื่นอย่าง ค่าเช่าบ้าน เล่นหุ้น แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าคนที่เคยเช่าคอนโด อพาร์ตเมนต์เราอยู่เขาก็ย้ายออก ทุกอย่างมันสะดุดไปหมด เราคิดว่าเราเป็นคนที่วางแผนชีวิตมาดี แต่มันก็ยังสะดุดอยู่ดี แต่โชคดีที่ว่ารอบๆ ตัวเรามันยังมีอะไรที่หยิบจับออกมาแล้วมันแปลงเป็นเงินออกมาได้ ทำให้เรายังอยู่ได้

แต่ถ้ามองกว้างๆ ทุกคนโดนกันหมด เราเองยังโชคดีที่มองไปทางไหนก็ยังเห็นอันนั้นอันนี้มาขายเป็นเงินโปะได้ ยังมีคนอีกเยอะมากที่มองไปรอบๆ แล้วไม่มีอะไร ก็ถือว่าตัวเองโชคดีแล้ว ขายของไปได้ไม่เท่าไหร่ คอมพ์ซื้อมาเป็นแสนขายไป 2-3 หมื่น ขาดทุนไปเยอะ แต่ไม่ซีเรียส พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ถ้ามันอยู่กับเราไปเรื่อยๆ มันจะไม่เหลือคุณค่า มันจะกลายเป็นเศษเหล็ก แล้วการที่เรามีเยอะแล้วเราไม่รีบขายไป พอเราทำงานยุ่งๆ ต่อไปมันก็จะกลายเป็นเศษเหล็กที่ไม่มีคุณค่า ฉะนั้นก็รีบเอาไปขายดีกว่า”

เครียดในวันที่ไม่มีงานทำ ต้องทำตัวแบบไม่มีสติใช้ชีวิตไปไม่รู้เดือนรู้วัน
วิธีการของได๋ คือ พยายามทำตัวให้ไม่มีสติ ถ้าเรามีสติ ในทุกๆ วัน เราตื่นมาเราจะแพลนตัวเองแล้วว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง ต้องเตรียมชุด ต้องแปลสคริปต์ วิ่งกี่งาน ต้องทำอะไรบ้าง แต่ทุกวันนี้มันกลายเป็นว่าตื่นนอนมาก็ตื่นไปสิ เพราะว่าเดี๋ยวเธอไปกินข้าวเสร็จเธอก็ต้องเดินกลับมาอยู่ที่เดิม ช่วงแรกๆ ยอมรับว่าเครียดมาก นั่งอ่านข่าวทุก 11 โมงครึ่งก็จะมารออัปเดตว่าสถานการณ์วันนี้เป็นยังไงบ้าง แล้วก็ไปไถทวิตเตอร์ต่อว่าวันนี้มีเทรนด์อะไร

คือปกติเราจะเป็นคนที่วางแผนในทุกๆ อย่าง พอเราไม่สามารถวางแผนได้มันทำให้เราเครียด ตอนหลังก็เลยไม่คิดอะไรเลย ไม่รู้ว่าวันนี้วันอะไร เดือนอะไร ปล่อยสบายๆ ไป เพราะเครียดมากๆ มันจะปวดหัว”

เล่าจากวิกฤตนี้ได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตมันง่ายมาก เพียงแค่มีที่อยู่อาศัย อาหาร คนที่รักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
“รู้สึกว่าชีวิตมันง่ายมากเลยจริงๆ นะ ถ้าเราไม่ต้องทำงานก็ไม่ต้องมีช่างหน้า ช่างผม ไม่ต้องมีเสื้อผ้า รองเท้ามากมาย มันทำให้เราตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไปได้ง่ายมากขึ้นเยอะเลย เช่น แต่ก่อนต้องมีมือถือไว้หลายๆ เครื่องเพราะกลัวแบตหมด เราจะเตรียมอะไรไว้เยอะมาก แต่มาตอนนี้เรามองโลกด้วยตัวของโรคเองมากยิ่งขึ้นว่าคนเรามีชีวิตอยู่ก็คือแค่ มีบ้าน มีอะไรกิน แล้วก็มีคนที่เรารัก แค่นี้พอก่อน อย่าไปคิดเยอะ ไม่อย่างนั้นมันจะปวดหัว”

เผย work from home รับงานแปลเอกสาร ได้เงินหลักร้อยหลักพันก็ทำหมด
“เราได้ทำงานอีเวนต์จนถึงเดือนธันวาคมช่วงวัน 20 หลังจากนั้น งานก็หายไป พอหลังปีใหม่ก็รับแปลเอกสาร ทำกราฟิกนิดหน่อยๆ ตัดต่อคลิป รับแปลเอกสารก็ได้มาไม่กี่ร้อยเองได้วันละ 1-2 พัน 3 พันก็มี ก็ไม่ต้องไปบอกเขาว่าเราคือใคร เราก็ต้องทำตัวเหมือนคนปกติ ถ้าเรามานั่งคิดในเรตเซเลบมันก็เกินเหตุ คนอื่นได้กันเท่าไหร่เราก็เอาเท่านั้นแหละ อาจจะตัดราคาคนอื่นสัก 50 บาทอะไรอย่างนี้ด้วย

มันไม่ได้ได้เงินเยอะเลย ได้มาแต่มีเงินจ่ายค่าสั่งอาหารเพื่อสั่งแกร็บ สั่งไลน์แมนจะได้ไม่ต้องใช้เงินเก็บ (ยิ้ม) ก็เป็นอีกรูปแบบนึงในการหารายได้ ตอนนั้นคิดเลยนะว่าถ้ายังไม่คลายล็อก เรามีรถตู้คันใหญ่ ถ้าเรารับอาหารไปขายมันก็น่าจะได้เงินเยอะอยู่นะ แต่ตอนนี้เขาคลายล็อกแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะได้เห็นเราทำอะไรแบบนั้น ตอนนี้ก็ว่ากันไปวันต่อวันไม่อยากคิดเยอะ ตอนนี้มีลูกค้ามาถามคิวแล้วดีใจมาก”
















กำลังโหลดความคิดเห็น