xs
xsm
sm
md
lg

“เต๋า” ถึงห่วงแต่ภูมิใจ แม่เป็นฮีโร่ ลงพื้นที่เสี่ยงมหาชัย ช่วยผู้ป่วยติดโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เต๋า เศรษฐพงศ์” ยอมรับเป็นห่วงแม่ที่เป็นพยาบาลต้องไปลงพื้นที่เสี่ยงกับโรคโควิดในตอนนี้ บอกแม่ก็อายุมากแล้ว แต่ก็ยังลุยงานเต็มที่ บอกอยากให้แม่เกษียณตั้งนานแล้ว แต่แม่ก็ยังอยากทำงาน ภูมิใจที่แม่เหมือนเป็นฮีโร่ร่วมกับทีมแพทย์ที่เป็นนักรบเสื้อกาวน์คอยดูแลผู้ป่วยโควิด-19

ตั้งแต่พระเอกหนุ่ม “เต๋า เศรษฐพงศ์ พอเพียง” โพสต์ภาพคุณแม่ร่วมกับทีมแพทย์และพยาบาลที่ต้องคอยดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ที่จ.สมุทรสาคร ก็ทำให้ทั้งแฟนคลับเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ล่าสุดหนุ่มเต๋าก็เลยตั้งโต๊ะเปิดใจเรื่องนี้ บอกว่าตนเองก็เป็นห่วงแม่ และตกใจที่แม่อาสาไปลงพื้นที่เสี่ยงด้วย

“คุณแม่เป็นพยาบาลดูแลแผนกผู้ป่วยติดเชื้อที่จ.กาฬสินธุ์ครับ เป็นหัวหน้าแผนก และตั้งแต่โควิดรอบที่แล้วคุณแม่ก็ลุยตลอด เพราะ 4 ทุ่ม เที่ยงคืนผู้ป่วยเข้า แม่ก็ต้องไปเช็กไปตรวจ พอมารอบนี้แม่ก็ทราบข่าวมาว่าทางสาธารณสุขจ.กาฬสินธุ์ก็รับสมัครอาสาสมัครที่จะมาช่วย เป็นนักรบเสื้อกาวน์มาคัดกรอง และมาช่วยดูแลทีมแพทย์ด้วย และรับอาสาสมัครมา 7 วันตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. และจะมีทีมที่อยู่ต่อด้วย แต่คุณแม่อยู่แค่ 7 วันครับ

คุณแม่ได้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดด้วยครับ ที่กาฬสินธุ์ตอนนั้นมีอยู่ 1 รายถ้าจำไม่ผิดนะครับ คุณแม่ก็เข้าไปเช็กอาการ และคุณแม่ก็จะมีความรู้เรื่องโควิดเยอะเหมือนกัน เพราะคุณแม่มาอบรมตลอด เพราะเป็นสายอาชีพของคุณแม่ และหน้าที่ของคุณแม่ที่จะต้องไปบอกต่อกับชาวบ้านในการป้องกัน หรือว่าบอกกับทีมแพทย์ในการใส่ชุด และเช็คอุปกรณ์ในการที่จะตรวจครับ”

ตกใจที่รู้ว่าแม่อาสาลงพื้นที่เสี่ยง
“ผมไม่ทราบมาก่อน ตอนแรกน้องสาวผมบอกว่าแม่ถึงอยุธยาแล้วนะ ก็นึกว่าจะมาหาผมที่กรุงเทพฯ ผมก็เลยถามแม่ว่าจะมากรุงเทพฯ กี่วัน แม่ก็บอกว่าไม่ได้ไป แต่ไปมหาชัย ผมก็ตกใจว่าแม่ไปทำไม แม่ก็เลยส่งมาให้ดูว่าเขามีอาสาสมัครมาจากสาธารณสุขจ.กาฬสินธุ์ ก็เลยส่งตัวแทนมา 2 คนก็คือคุณแม่และแพทย์อีกหนึ่งท่าน ก็เลยตกใจนิดนึงว่าแม่มาพื้นที่สีแดงด้วย ผมก็ถามว่าแม่มาทำอะไร แม่ก็บอกว่าไปช่วยเขาตรวจ ไปช่วยทีมแพทย์ที่เขาอยู่ก่อนหน้านั้น ก็ตกใจเหมือนกันครับ เพราะคุณแม่ก็อายุเยอะแล้ว

ก็บอกแม่ว่าให้ดูแลตัวเองครับ เพราะที่บ้านเป็นห่วงมาก เช็กตลอดว่าแม่อยู่ไหน ทำอะไร ใส่ชุดดีหรือเปล่า อาการเป็นยังไงบ้าง เมื่อเช้าผมก็โทร.ไปหาคุณแม่ แม่ก็บอกว่าโอเค ตอนนี้ตรวจได้เยอะเหมือนกัน ที่มหาชัยยังเป็นพื้นที่สีแดงอยู่ และอาจจะต้องดูว่าเขาจะผ่อนปรนเมื่อไหร่ในการดูแลแต่ละเขต แต่แม่บอกว่าน่าจะถึงประมาณสิ้นเดือนเลย ก็เป็นห่วงครับ”

ภูมิใจที่แม่เป็นฮีโร่ ทำเพื่อผู้ป่วย
“จริงๆ ก็ดีใจที่คุณแม่เป็นฮีโร่ สำหรับทุกคนที่ต้องการทีมแพทย์ไปช่วยเหลือ ก็ภูมิใจในฐานะลูกชายคนหนึ่ง ถึงแม้คุณแม่จะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ยังลุยเต็มที่ ผมก็ลุ้นให้คุณแม่เกษียณสักทีมา 10 ปีแล้ว คุณแม่บอกชอบทำงาน อยากจะทำหน้าที่เป็นพยาบาลต่อไปเรื่อยๆ ก็เป็นกำลังใจให้คุณแม่ครับ แล้วคุณแม่ก็ขอบคุณพี่ๆ นักข่าวด้วยที่ทำข่าว แล้วฝากเป็นกำลังใจให้กับทีมงานด้วย

คุณแม่ปีนี้น่าจะ 57 แล้วครับ ก็มีช่วงที่ไม่แข็งแรง แต่ตอนนี้ก็แข็งแรงมากขึ้นแล้วครับ และพอดีทางสมุทรสาครขาดกำลังคน คุณแม่เลยขอหน่วยอาสาไปช่วยครับ เขารับอาสา ก็แสดงว่าขาดบุคลากรเยอะอยู่เหมือนกัน แล้วผู้ป่วยก็เยอะมากอย่างที่รู้กัน แม่บอกว่าวันหนึ่งก็หลักร้อยเกือบๆ หลักพัน แล้วตอนนี้ก็ยังไปไม่หมดด้วย แม่ก็คิดว่าต้องปิดตลาด ปิดพื้นที่ เพื่อจะลุยตรวจเต็มที่อย่างเดียว แล้วก็ต้องรอผลด้วย แล้วก็ต้องดูแลคนป่วยด้วย ก็จะมีหลายฝ่าย ส่วนคุณแม่ก็จะเป็นฝ่ายดูแลหน่วยแพทย์ที่ออกไปตรวจ

ถามว่าคนที่จะไปคลุกคลีกับผู้ป่วยส่วนมากจะไม่ได้กลับบ้าน คือตอนอยู่ที่กาฬสินธุ์ตอนนั้นคุณแม่ไป-กลับ เพราะคุณแม่อยู่คนเดียว แต่ก็มีคุณพ่อกลับไปดูแลคุณแม่ ก็แยกห้องนอนกัน แต่พอ 4 ทุ่ม หรือ เที่ยงคืน คนไข้มาตรวจก็ต้องออกไปดู ช่วงนั้นก็ทำงานหนักเหมือนกัน ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลก็หนัก ไม่ได้หลับได้นอนกัน บางทีคุณแม่กลับตี 3 ตี 4 ก็มี และพอเสร็จหน้าที่ที่สมุทรสาครวันที่ 31 แล้วหลังจากนั้นต้องกักตัว 14 วันครับ ก่อนที่จะออกมาทำงานที่โรงพยาบาลได้ปกติก็กักตัวอยู่ที่บ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ก่อน”

เผยถ้าโรคภัยคลี่คลายกว่านี้จะไปเยี่ยมแพทย์พยาบาลที่จ.กาฬสินธุ์ที่แม่ทำงานอยู่
“พี่ๆ พยาบาลก็บอกคุณแม่ว่าอยากจะถ่ายรูปกับน้องเต๋า ได้มาทำงานกับแม่ดารา เขาก็ดีใจ อยากเจอน้องเต๋า แต่แม่ก็บอกว่าเดินทางไปไม่ได้ สมุทรสาคร ก็เดี๋ยวกักตัว 14 วันเสร็จ เดี๋ยวกลับไปถ่ายรูปด้วยนะครับที่จังหวัดกาฬสินธุ์นะครับ เป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทีมแพทย์จากทั่วประเทศไทยเลยครับที่ทำหน้าที่เป็นนักรบที่จะช่วยให้โควิด-19 หมดไปจากประเทศไทย คุณแม่ก็ฝากบอกทุกๆ คนด้วยว่าให้ระมัดระวังตัว ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ปล่อยปละละเลย เราต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน ไม่ประมาทในช่วงนี้เพราะว่ามันไปไวมาก”

บอกเป็นดาราควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี ใส่มาสก์ในที่ที่คนเยอะ
“ผมเองก็ได้รับผลกระทบเยอะมากครับ อีเวนต์โดนแคนเซิลตั้งแต่ปีใหม่เลยครับ แต่ก็ต้องตามนั้นครับ เพราะจะต้องให้โควิดหายก่อนถึงจะกลับมาทำงานได้ปกติ แต่ช่วงนี้ก็ยังดีมีซิตคอมให้ถ่ายอยู่ และทำคอนเทนต์ออนไลน์ไป ทำอะไรเท่าที่ทำได้ก่อนในสื่อออนไลน์ที่ทำได้แต่อีเวนต์ยังไม่มีครับ ช่วงนี้ไม่ได้ไปในพื้นที่เสี่ยง หรืองานปาร์ตี้ไหนเลยครับ ช่วงนี้คงไม่ไป ต้องดูแลตัวเอง ไม่งั้นเดี๋ยวทีมงานทีมละครจะเดือดร้อนกัน

คือเราเป็นดาราก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ต้องเจอคนเยอะๆ ในการไปทำงานแต่ละที่ คือมันก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน เราไปกินข้าวบางทีคนก็อยากจะถ่ายรูปด้วย เราต้องใส่มาสก์เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี ถ้าบางทีคนที่ใกล้ชิดอย่างกองละครเขาจะมีการตรวจเช็กอยู่แล้ว มีมาตรการประมาณนึง เราก็ต้องเป็นตัวอย่างก่อนครับ ถ้าเป็นอะไรพลาดขึ้นมาอยู่หน้าสื่อจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี คุณแม่ก็บอกว่าไม่ต้องออกไปข้างนอกเยอะ ไปเท่าที่จำเป็นและอย่ารวมตัวกันเยอะ งดกินหมูกระทะก่อน (หัวเราะ)”






กำลังโหลดความคิดเห็น